As the lungs and thorax move during

As the lungs and thorax move during ventilation, the movement and displacement of structures such as the lungs, abdominal organs, rib cage, and diaphragm create resistance to breathing. Tissue resistance remains constant under most circumstances. For example, an obese patient or one with fibrosis has increased tissue resistance, but it usually does not change significantly when these patients are mechanically ventilated. On the other hand, if a patients develops ascites, or fluid build-up in the peritoneal cavity, tissue resistance increases.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นปอดและ thorax ย้ายในระหว่างการระบาย การเคลื่อนไหว และการแทนที่ของโครงสร้างเช่นปอด อวัยวะช่องท้อง กรงซี่โครง และกะบังลมสร้างความต้านทานต่อการหายใจ ต้านทานเนื้อเยื่อยังคงคงภายใต้สถานการณ์ส่วนใหญ่ ตัวอย่าง ผู้ป่วยอ้วนหรือมี fibrosis ขึ้นต้านทานเนื้อเยื่อ แต่มันมักจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อผู้ป่วยเหล่านี้มีกลไกสม่ำเสมอ ในทางกลับกัน ถ้าเป็นผู้ป่วยพัฒนาท้องมาน หรือสร้างของเหลวในโพรง peritoneal ต้านทานเนื้อเยื่อเพิ่มขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นปอดและทรวงอกย้ายในระหว่างการระบายอากาศการเคลื่อนไหวและการกำจัดของโครงสร้างเช่นปอดอวัยวะในช่องท้อง, กรงซี่โครงและไดอะแฟรมสร้างความต้านทานต่อการหายใจ ต้านทานเนื้อเยื่อยังคงอยู่ภายใต้สถานการณ์มากที่สุด ตัวอย่างเช่นผู้ป่วยที่เป็นโรคอ้วนหรือคนที่มีโรคปอดได้เพิ่มขึ้นความต้านทานเนื้อเยื่อ แต่ก็มักจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อผู้ป่วยเหล่านี้มีการใช้เครื่องช่วยหายใจ ในทางตรงกันข้ามถ้าผู้ป่วยพัฒนาน้ำในช่องท้องหรือของเหลวที่สร้างขึ้นในช่องท้องเพิ่มขึ้นต้านทานเนื้อเยื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นปอดและทรวงอกย้ายในการระบายอากาศ การเคลื่อนที่ และการเคลื่อนที่ของโครงสร้าง เช่น ปอด อวัยวะในช่องท้อง ซี่โครงและกะบังลมสร้างความต้านทานต่อการหายใจ ต้านทานเนื้อเยื่อคงที่ภายใต้สถานการณ์มากที่สุด ตัวอย่างเช่น ตุ๊ ผู้ป่วยหรือมีพังผืดมีความต้านทานเยื่อเพิ่มขึ้นแต่มันมักจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อผู้ป่วยเหล่านี้จะใช้เครื่องช่วยหายใจ . ในทางกลับกัน ถ้าผู้ป่วยพัฒนาท้องมาน หรือของเหลวที่สร้างขึ้นในโพรงเยื่อบุช่องท้อง , เพิ่มความต้านทานเยื่อ .