1. Keep trying prevention programs,

1. Keep trying prevention programs, scale up the most promising ones, and study how well they work.
Many researchers believe the best way to deter abuse is to stop people from becoming abusers in the first place. And several approaches have shown promise.

Broad, cultural messages appear to make a difference—not just what young children see and hear, from their families and neighbors but also from their role models on television and in sports arenas, may have an impact. In addition, many researchers think it’s possible to reach kids more directly, through schools or through their parents. According to these researchers, themes should include how men treat women—and how they express their own emotions. “[We should] raise boys and men so they know it’s fine to cry and to show fear or other ‘weakness,’ and that expressing anger is not the only acceptable emotion for males,” says Nancy Lemon, Boalt Lecturer at the University of California-Berkeley Law School and author a leading textbook on domestic violence law. Among the ideal targets for the interventions are the kids most at risk of becoming abusers later in life—the ones who, while very young, are victims of or witnesses to abuse in their homes.

It all sounds very plausible. And

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1 ให้พยายามโปรแกรมป้องกันระดับขึ้นคนที่มีแนวโน้มมากที่สุดและการศึกษาวิธีการที่ดีที่พวกเขาทำงาน.
นักวิจัยหลายคนเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะยับยั้งการละเมิดคือการหยุดคนจากการเป็นผู้ที่ทำร้ายในสถานที่แรก และวิธีการหลายแห่งมีการแสดงให้เห็นสัญญา. กว้างข้อความทางวัฒนธรรมที่ปรากฏที่จะทำให้ความแตกต่างไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่เด็กหนุ่มเห็นและได้ยินจากครอบครัวและเพื่อนบ้านของพวกเขา แต่ยังมาจากรุ่นบทบาทของพวกเขาในโทรทัศน์และกีฬาโดยสิ้นเชิงอาจมีผลกระทบต่อ นอกจากนี้นักวิจัยหลายคนคิดว่ามันเป็นไปได้ที่จะเข้าถึงเด็กมากขึ้นโดยตรงผ่านโรงเรียนหรือผ่านผู้ปกครอง ตามที่นักวิจัยเหล่านี้ควรจะรวมถึงรูปแบบวิธีการรักษาผู้ชายผู้หญิงและวิธีการที่พวกเขาแสดงอารมณ์ของตัวเอง "[เราควร] ยกเด็กชายและผู้ชายเพื่อให้พวกเขารู้ว่ามันเป็นที่ดีที่จะร้องไห้และเพื่อแสดงความหวาดกลัวหรืออื่น ๆ 'อ่อนแอ' และที่แสดงความโกรธไม่ได้เป็นอารมณ์ความรู้สึกเดียวที่ได้รับการยอมรับสำหรับผู้ชาย" แนนซี่มะนาว Boalt อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยกล่าวว่า กฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียเบิร์กลีย์ของโรงเรียนและผู้เขียนตำราชั้นนำเกี่ยวกับกฎหมายความรุนแรงในครอบครัว ในบรรดาเป้าหมายที่เหมาะสำหรับการแทรกแซงเป็นเด็กส่วนใหญ่ที่มีความเสี่ยงของการเป็นผู้ที่ทำร้ายต่อไปในชีวิตเป็นคนที่ในขณะที่หนุ่มสาวมากเป็นเหยื่อหรือพยานที่จะละเมิดในบ้านของพวกเขา. มันทุกเสียงที่เป็นไปได้มาก และ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . พยายามโปรแกรมการป้องกัน ปรับขึ้นที่ มีแนวโน้มมากที่สุด และศึกษาวิธีการที่ดีที่พวกเขาทำงาน .
นักวิจัยจำนวนมากเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันการละเมิดจะหยุดผู้คนจากกลายเป็น abusers ในสถานที่แรก และวิธีการหลายได้แสดงสัญญา

กว้างปรากฏข้อความทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างความแตกต่างไม่เพียง แต่สิ่งที่เด็กเห็น และได้ยินจากครอบครัว และเพื่อนบ้าน แต่จากบทบาทของพวกเขาในโทรทัศน์และใน arenas กีฬา อาจจะมีผลกระทบต่อ นอกจากนี้ นักวิจัยหลายคนคิดว่ามันเป็นไปได้ที่จะเข้าถึงเด็กโดยตรง ผ่านโรงเรียน หรือผู้ปกครอง ตามที่นักวิจัยเหล่านี้ รูปแบบควรรวมถึงวิธีการปฏิบัติต่อผู้หญิงผู้ชายและวิธีการที่พวกเขาแสดงอารมณ์ของพวกเขาเอง" [ เราต้อง ] เลี้ยงดูเด็กชายและผู้ชายเพื่อให้พวกเขารู้ว่า มันน่าร้องไห้และแสดงความกลัวหรืออื่น ๆ ' จุดอ่อน ' ที่แสดงความโกรธไม่ได้เป็นเพียงยอมรับอารมณ์สำหรับผู้ชาย , " กล่าวว่าแนนซี่มะนาว boalt อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียโรงเรียนกฎหมายและผู้เขียนนำตำราเกี่ยวกับกฎหมายความรุนแรงในครอบครัว .ในบรรดาเป้าหมายที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเป็นเด็กที่เสี่ยงมากที่สุดเป็น abusers ในภายหลังในชีวิตคน ในขณะที่เป็นเด็ก เป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดหรือพยานในบ้านของพวกเขา .

มันทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นไปได้ และ