Principles of LearningThe followin

 Principles of Learning

The following list presents the basic principles that underlie effective learning. These principles are distilled from research from a variety of disciplines.

Students’ prior knowledge can help or hinder learning.

Students come into our courses with knowledge, beliefs, and attitudes gained in other courses and through daily life. As students bring this knowledge to bear in our classrooms, it influences how they filter and interpret what they are learning. If students’ prior knowledge is robust and accurate and activated at the appropriate time, it provides a strong foundation for building new knowledge. However, when knowledge is inert, insufficient for the task, activated inappropriately, or inaccurate, it can interfere with or impede new learning.

How students organize knowledge influences how they learn and apply what they know.

Students naturally make connections between pieces of knowledge. When those connections form knowledge structures that are accurately and meaningfully organized, students are better able to retrieve and apply their knowledge effectively and efficiently. In contrast, when knowledge is connected in inaccurate or random ways, students can fail to retrieve or apply it appropriately.

Students’ motivation determines, directs, and sustains what they do to learn.

As students enter college and gain greater autonomy over what, when, and how they study and learn, motivation plays a critical role in guiding the direction, intensity, persistence, and quality of the learning behaviors in which they engage. When students find positive value in a learning goal or activity, expect to successfully achieve a desired learning outcome, and perceive support from their environment, they are likely to be strongly motivated to learn.

To develop mastery, students must acquire component skills, practice integrating them, and know when to apply what they have learned.

Students must develop not only the component skills and knowledge necessary to perform complex tasks, they must also practice combining and integrating them to develop greater fluency and automaticity. Finally, students must learn when and how to apply the skills and knowledge they learn. As instructors, it is important that we develop conscious awareness of these elements of mastery so as to help our students learn more effectively.

Goal-directed practice coupled with targeted feedback enhances the quality of students’ learning.

Learning and performance are best fostered when students engage in practice that focuses on a specific goal or criterion, targets an appropriate level of challenge, and is of sufficient quantity and frequency to meet the performance criteria. Practice must be coupled with feedback that explicitly communicates about some aspect(s) of students’ performance relative to specific target criteria, provides information to help students progress in meeting those criteria, and is given at a time and frequency that allows it to be useful.

Students’ current level of development interacts with the social, emotional, and intellectual climate of the course to impact learning.

Students are not only intellectual but also social and emotional beings, and they are still developing the full range of intellectual, social, and emotional skills. While we cannot control the developmental process, we can shape the intellectual, social, emotional, and physical aspects of classroom climate in developmentally appropriate ways. In fact, many studies have shown that the climate we create has implications for our students. A negative climate may impede learning and performance, but a positive climate can energize students’ learning.

To become self-directed learners, students must learn to monitor and adjust their approaches to learning.

Learners may engage in a variety of metacognitive processes to monitor and control their learning—assessing the task at hand, evaluating their own strengths and weaknesses, planning their approach, applying and monitoring various strategies, and reflecting on the degree to which their current approach is working.  Unfortunately, students tend not to engage in these processes naturally. When students develop the skills to engage these processes, they gain intellectual habits that not only improve their performance but also their effectiveness as learners.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

 หลักการของการเรียนรู้รายการต่อไปนี้นำเสนอหลักการพื้นฐานที่รองรับการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ หลักการเหล่านี้จะถูกกลั่นจากการวิจัยจากความหลากหลายของสาขาวิชา. ความรู้เดิมของนักเรียนสามารถช่วยหรือขัดขวางการเรียนรู้. นักเรียนเข้ามาในหลักสูตรของเราที่มีความรู้ความเชื่อและทัศนคติที่ได้รับในหลักสูตรอื่น ๆ และผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน ขณะที่นักเรียนนำความรู้ที่จะแบกรับในห้องเรียนของเรานี้จะมีผลต่อวิธีที่พวกเขากรองและตีความสิ่งที่พวกเขากำลังเรียนรู้ หากความรู้เดิมของนักเรียนมีประสิทธิภาพและถูกต้องและเปิดใช้งานในเวลาที่เหมาะสมก็มีรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการสร้างองค์ความรู้ใหม่ แต่เมื่อรู้คือเฉื่อยไม่เพียงพอสำหรับงานที่เปิดใช้งานไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้องก็สามารถแทรกแซงหรือเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ใหม่. นักเรียนที่มีอิทธิพลต่อการจัดระเบียบความรู้วิธีที่พวกเขาได้เรียนรู้และนำไปใช้ในสิ่งที่พวกเขารู้ว่า. นักเรียนตามธรรมชาติทำให้การเชื่อมต่อระหว่างชิ้นส่วนของความรู้ เมื่อการเชื่อมต่อเหล่านั้นในรูปแบบโครงสร้างความรู้ที่ถูกต้องและมีความหมายจัดนักเรียนจะสามารถดึงและใช้ความรู้ของพวกเขามีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ในทางตรงกันข้ามเมื่อความรู้ที่มีการเชื่อมต่อในรูปแบบที่ไม่ถูกต้องหรือสุ่มนักเรียนสามารถล้มเหลวในการเรียกหรือใช้มันอย่างเหมาะสม. แรงจูงใจของนักเรียนกำหนดชี้นำและค้ำจุนสิ่งที่พวกเขาทำในการเรียนรู้. ขณะที่นักเรียนใส่วิทยาลัยและได้รับอิสระมากขึ้นกว่าอะไรเมื่อไหร่ และวิธีที่พวกเขาศึกษาและเรียนรู้การสร้างแรงจูงใจมีบทบาทสำคัญในการชี้นำทิศทางที่รุนแรงคงอยู่และคุณภาพของการเรียนรู้พฤติกรรมที่พวกเขามีส่วนร่วม เมื่อนักเรียนหาค่าในเชิงบวกในเป้าหมายการเรียนรู้หรือกิจกรรมที่คาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จบรรลุผลการเรียนรู้ที่ต้องการและรับรู้การสนับสนุนจากสภาพแวดล้อมของพวกเขาพวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นแรงบันดาลใจอย่างยิ่งที่จะเรียนรู้. เพื่อพัฒนาเรียนรู้นักเรียนจะต้องได้เรียนรู้ทักษะองค์ประกอบการปฏิบัติการบูรณาการ พวกเขาและรู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะใช้สิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้. นักเรียนจะต้องพัฒนาไม่เพียง แต่องค์ประกอบทักษะและความรู้ที่จำเป็นในการดำเนินงานที่ซับซ้อนพวกเขายังจะต้องฝึกการรวมและบูรณาการให้พวกเขาพัฒนาความคล่องแคล่วมากขึ้นและ automaticity จากนั้นนักเรียนจะต้องเรียนรู้เวลาและวิธีการใช้ทักษะและความรู้ที่พวกเขาเรียนรู้ ในฐานะที่เป็นอาจารย์ผู้สอนก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราพัฒนาความตระหนักจิตสำนึกขององค์ประกอบเหล่านี้ของการเรียนรู้เพื่อที่จะช่วยให้นักเรียนของเราเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ. ปฏิบัติเป้าหมายกำกับควบคู่ไปกับข้อเสนอแนะเป้าหมายช่วยเพิ่มคุณภาพของการเรียนรู้ของนักเรียน. การเรียนรู้และประสิทธิภาพการทำงานได้รับการสนับสนุนที่ดีที่สุดเมื่อนักเรียน มีส่วนร่วมในการปฏิบัติที่มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงหรือเกณฑ์เป้าหมายในระดับที่เหมาะสมของความท้าทายและเป็นปริมาณที่เพียงพอและความถี่เป็นไปตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ การปฏิบัติจะต้องควบคู่ไปกับการตอบรับอย่างชัดเจนว่าการสื่อสารเกี่ยวกับบางแง่มุม (s) ผลการดำเนินงานของนักเรียนเทียบกับเกณฑ์ที่เป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงให้ข้อมูลเพื่อช่วยให้นักเรียนมีความคืบหน้าในการประชุมเกณฑ์เหล่านั้นและจะได้รับในช่วงเวลาและความถี่ที่ช่วยให้สามารถที่จะเป็นประโยชน์ . นักศึกษาระดับปัจจุบันของการพัฒนาปฏิสัมพันธ์กับสังคมอารมณ์และสภาพภูมิอากาศทางปัญญาของการเรียนการสอนที่จะส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้. นักเรียนไม่เพียง แต่ทางปัญญา แต่ยังสิ่งมีชีวิตทางสังคมและอารมณ์และพวกเขาจะยังคงพัฒนาเต็มรูปแบบของทางปัญญาสังคมและ ทักษะทางอารมณ์ ในขณะที่เราไม่สามารถควบคุมกระบวนการพัฒนาที่เราสามารถรูปร่างทางปัญญาทางสังคมอารมณ์และลักษณะทางกายภาพของสภาพภูมิอากาศในห้องเรียนในรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสม ในความเป็นจริงการศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าสภาพภูมิอากาศที่เราสร้างมีผลกระทบต่อนักเรียนของเรา สภาพภูมิอากาศในเชิงลบที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้และผลการดำเนินงาน แต่สภาพภูมิอากาศในเชิงบวกที่สามารถกระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียน. ที่จะกลายเป็นผู้เรียนที่กำกับตนเองนักเรียนจะต้องเรียนรู้ที่จะตรวจสอบและปรับวิธีการของพวกเขาเพื่อการเรียนรู้. ผู้เรียนอาจมีส่วนร่วมในความหลากหลายของกระบวนการอภิปัญญาในการตรวจสอบและ ควบคุมการเรียนรู้การประเมินของพวกเขางานในมือการประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองของพวกเขาวางแผนวิธีการใช้และการตรวจสอบกลยุทธ์ต่างๆและสะท้อนให้เห็นถึงระดับที่วิธีการปัจจุบันของพวกเขาคือการทำงาน แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้มีแนวโน้มที่นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเหล่านี้เป็นธรรมชาติ เมื่อนักเรียนพัฒนาทักษะที่จะมีส่วนร่วมกระบวนการเหล่านี้พวกเขาได้รับนิสัยทางปัญญาที่ไม่เพียง แต่ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา แต่ยังมีประสิทธิภาพของพวกเขาเป็นผู้เรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรหลักการเรียนรู้

รายการต่อไปนี้แสดงหลักการพื้นฐานที่รองรับการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ หลักการเหล่านี้คือกลั่นจากการวิจัยจากหลากหลายสาขา ความรู้เดิม

สามารถช่วยหรือขัดขวางการเรียนรู้ นักเรียน

เข้ามาของเรามักจะมีความรู้ ความเชื่อ และทัศนคติที่ได้รับในหลักสูตรอื่น ๆและผ่านชีวิตประจําวันนักเรียนนำความรู้นี้หมีในห้องเรียนของเรา มันมีผลต่อวิธีที่พวกเขากรองและตีความสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ ถ้าความรู้เดิมของนักเรียนมีประสิทธิภาพและถูกต้องไหม และเปิดใช้งานในเวลาที่เหมาะสม และมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการสร้างความรู้ใหม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อความรู้คือ งอมืองอเท้า ไม่เพียงพอสำหรับงาน , เปิดใช้งานไม่เหมาะสม หรือไม่ถูกต้องมันสามารถรบกวนหรือขัดขวางการเรียนรู้ใหม่

ว่านักเรียนจัดอิทธิพลความรู้วิธีการที่พวกเขาเรียนรู้และใช้สิ่งที่พวกเขารู้ นักศึกษา

ตามธรรมชาติทำให้การเชื่อมต่อระหว่างชิ้นความรู้ เมื่อการเชื่อมต่อโครงสร้างรูปแบบความรู้ที่ถูกต้องและมีความหมาย จัดนักเรียนเป็นคนดีสามารถดึง และใช้ความรู้ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิภาพ ในทางตรงกันข้ามเมื่อความรู้ที่ไม่ถูกต้อง หรือการเชื่อมต่อในแบบวิธีที่นักเรียนสามารถล้มเหลวที่จะดึงหรือใช้มันอย่างเหมาะสม แรงจูงใจของนักศึกษา

กำหนด นํา และยึดมั่นในสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อเรียนรู้

เป็นนักเรียนเข้าเรียนและได้รับอิสระมากขึ้นกว่าสิ่งที่ , เมื่อ , และวิธีที่พวกเขาได้ศึกษาและเรียนรู้ แรงจูงใจเล่นบทบาทสำคัญในการชี้นำทิศทาง , ความเข้ม , เก็บรักษาและคุณภาพของพฤติกรรมการเรียนรู้ที่พวกเขามีส่วนร่วม เมื่อนักศึกษาหาค่าเป็นบวกในการตั้งเป้าหมายการเรียนหรือกิจกรรม คาดหวังที่จะประสบความสำเร็จบรรลุผลที่ต้องการเรียนรู้และรับรู้การสนับสนุนจากสภาพแวดล้อมของพวกเขา พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีแรงบันดาลใจที่จะเรียนรู้

เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ นักเรียนจะได้รับทักษะ ส่วนการปฏิบัติการนั้น