The head and face of the Sphinx cer

The head and face of the Sphinx certainly reflect a style that belongs to Egypt's Old Kingdom, and to the 4th Dynasty in particular. The overall form of his face is broad, almost square, with a broad chin. The headdress (known as the 'nemes' head-cloth), with its fold over the top of the head and its triangular planes behind the ears, the presence of the royal 'uraeus' cobra on the brow, the treatment of the eyes and lips all evidence that the Sphinx was carved during this period.


The sculptures of kings Djedefre, Khafre and Menkaure and other Old Kingdom Pharaohs, all show the same configuration that we see on the Sphinx. Some scholars believe that the Great Sphinx was originally bearded with the sort of formally plaited beard. Pieces of the Sphinx's massive beard found by excavation adorn the British Museum in London and the Cairo Museum. However, it seems to possibly, if not probably be dated to the New Kingdom, and so was likely added at a later date. The rounded divine beard is an innovation of the New Kingdom, and according to Rainer Stadelmann, did not exist in the Oldor Middle Kingdom. It may have been added to identify the god with Horemahket.

 

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศีรษะและใบหน้าของสฟิงซ์แน่นอนสะท้อนให้เห็นถึงสไตล์ที่เป็นของอียิปต์เก่าของราชอาณาจักรและราชวงศ์ที่ 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปแบบโดยรวมของใบหน้าของเขาเป็นวงกว้างสี่เหลี่ยมเกือบมีคางกว้าง ผ้าโพกศีรษะ (หรือที่เรียกว่า 'Nemes หัวผ้า) กับพับไปด้านบนของศีรษะและเครื่องบินสามเหลี่ยมหลังหู, การปรากฏตัวของพระราชงูเห่า' uraeus 'บนหน้าผากที่การรักษาดวงตาและ ริมฝีปากหลักฐานทั้งหมดที่ถูกแกะสลักสฟิงซ์ในช่วงเวลานี้. ประติมากรรมของพระมหากษัตริย์ Djedefre, Khafre และ Menkaure และอื่น ๆ ราชอาณาจักรฟาโรห์เก่าทั้งหมดที่แสดงการตั้งค่าเดียวกันที่เราเห็นในสฟิงซ์ นักวิชาการบางคนเชื่อว่าสฟิงซ์ที่ดีถูกเคราเดิมที่มีการจัดเรียงของเครา plaited อย่างเป็นทางการ ชิ้นส่วนของเคราใหญ่ของสฟิงซ์พบได้โดยการขุดประดับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษในกรุงลอนดอนและพิพิธภัณฑ์ไคโร แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้หากไม่ได้อาจจะเป็นวันที่จะอาณาจักรใหม่และอื่น ๆ มีแนวโน้มที่ถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง เคราพระเจ้าโค้งมนเป็นนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรใหม่และเป็นไปตาม Stadelmann เรนเนอร์ไม่ได้อยู่ใน Oldor กลางราชอาณาจักร มันอาจจะมีการเพิ่มการระบุพระเจ้ากับ Horemahket




 

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศีรษะและใบหน้าของสฟิงซ์แน่นอนสะท้อนให้เห็นถึงสไตล์ที่เป็นของอียิปต์ไหมราชอาณาจักรเก่าและแก่รึเปล่า 4 ราชวงศ์อะไรโดยเฉพาะ รูปแบบโดยรวมของใบหน้าของเขากว้างเกือบสี่เหลี่ยม ปลายคางกว้าง ประดับ ( เรียกว่า ' เนเมส ' หัวผ้า ) ที่มีการพับมากกว่าด้านบนของหัวและสามเหลี่ยมเครื่องบินหลังหู , การแสดงตนของพระรายอุส ' คิ้ว ' งูเห่า ,การรักษาดวงตา และริมฝีปาก หลักฐานทั้งหมดที่สฟิงค์ที่แกะสลักในช่วงเวลานี้


รูปปั้นของกษัตริย์รึเปล่า djedefre ไหมคาฟเรไหมเหรอ , และเมนคูเรไหมและไหมราชอาณาจักรเก่ารึเปล่าฟาโรห์ทั้งหมดแสดงเดียวกันการตั้งค่าที่เราเห็นสฟิงซ์ นักวิชาการบางคนเชื่อว่าสฟิงซ์ที่ดีแต่เดิมเครากับการจัดเรียงของเป็นสานเคราชิ้นของเคราสฟิงซ์ขนาดใหญ่พบโดยขุดประดับอังกฤษพิพิธภัณฑ์ในกรุงลอนดอนและพิพิธภัณฑ์รึเปล่า ไคโร อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า อาจจะได้ ถ้าไม่ได้อาจจะคบไปทำไมราชอาณาจักรใหม่ และมีแนวโน้มเพิ่มในภายหลัง เคราเทพปัดเป็นนวัตกรรมใหม่ของอาณาจักรใหม่ และตามรึเปล่า Rainer stadelmann ไม่ได้มีอยู่ในอะไร oldor ไหมกลางอาณาจักรมันอาจจะถูกเพิ่มเพื่อระบุพระเจ้าด้วยเหรอ

horemahket .