Since "the community cannot have an

Since "the community cannot have any interest opposed to its interests," James Mill argues all that is required is for "the interests of the representatives to be identified with those of their community." Mill thinks this can be achieved if there is frequent rotation in office, so that legislators know they will have to live under the laws they enact. Bentham adds the "principle of dislocability," the familiar notion that, because legislators want to be re-elected, they will do what the voters want (Bentham 1843f: 63,103, 118, 155). And in his context Bentham claims that what the voters want is the public interest. Bentham was impressed with the example of America and took it to prove by experience that

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เนื่องจาก "ชุมชนไม่มีความสนใจใด ๆ เทียบกับประโยชน์ของ, " James Mill จนทั้งหมดที่จำเป็นต้องเป็น "ผลประโยชน์ของตัวแทนจะต้องระบุกับชุมชนของพวกเขา" โรงสีคิดนี้สามารถทำได้ถ้ามีเป็นวาระประจำในสำนักงาน เพื่อให้กรอบนโยบายรู้ว่า พวกเขาจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่พวกเขาแสดงออก เบนแธมเพิ่ม "หลักของ dislocability ความคุ้นเคยว่า เนื่องจากกรอบนโยบายต้องได้รับการเลือกตั้งใหม่ พวกเขาจะทำสิ่งที่ผู้ลงคะแนนต้อง (เบนแธม 1843f: 63,103, 118, 155) และในบริบทของเขา เบนแธมอ้างว่า สิ่งที่ผู้ลงคะแนนต้องเป็นประโยชน์สาธารณะ เบนแธมประทับใจกับตัวอย่างของอเมริกา และก็พิสูจน์ ด้วยประสบการณ์ที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตั้งแต่ "ชุมชนไม่สามารถมีความสนใจเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ใด ๆ " เจมส์มิลล์ระบุว่าสิ่งที่จะต้องเป็น "ผลประโยชน์ของพนักงานที่จะระบุกับคนในชุมชนของพวกเขา." มิลล์คิดว่านี้สามารถทำได้หากมีการหมุนบ่อยในสำนักงานเพื่อให้สมาชิกสภานิติบัญญัติรู้ว่าพวกเขาจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่พวกเขาออก แทมเพิ่ม "หลักการของ dislocability" ความคิดที่คุ้นเคยว่าเ​​พราะสมาชิกสภานิติบัญญัติต้องการที่จะได้รับเลือกตั้งใหม่พวกเขาจะทำในสิ่งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องการ (แทม 1843f: 63,103, 118, 155) และในบริบทของเขาแทมอ้างว่าสิ่งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องการคือความสนใจของประชาชน แทมรู้สึกประทับใจกับตัวอย่างของอเมริกาและเอามันจะพิสูจน์ให้เห็นจากประสบการณ์ว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตั้งแต่ " ไม่สามารถชุมชนมีความสนใจใด ๆตรงข้ามกับผลประโยชน์ของ " เจมส์ มิลล์ โต้แย้งทั้งหมดที่ต้องใช้คือ " ผลประโยชน์ของพนักงานที่จะระบุกับชุมชนของตนเอง " โรงสีคิดว่านี้สามารถเกิดขึ้นได้หากมีการหมุนบ่อยในสำนักงาน เพื่อให้สมาชิกสภานิติบัญญัติที่รู้ว่าพวกเขาจะต้องอยู่ภายใต้ กฎหมายเขาบัญญัติ .เบนแธมส์เพิ่ม " หลักการ dislocability " ความคิดที่คุ้นเคย เพราะวุฒิสภาต้องการอีกครั้งเลือก พวกเขาจะทำในสิ่งที่สังคมต้องการ ( Bentham 1843f : 63103 , 118 , 155 ) และในบริบทของเขา เบนแธม อ้างว่า สิ่งที่ผู้ต้องการเป็นประโยชน์สาธารณะ เบนแธม ประทับใจกับตัวอย่างของอเมริกา และก็พิสูจน์ด้วยประสบการณ์ที่