The model explained 41.1% of the to

The model explained 41.1% of the total variance in hypertension self-care behavior scores. Among elderly, low-income Korean women, the significant factors of their hypertension self-care behavior included: (a) self-efficacy of hypertension control (β = .62), (b) social support (β = .16), and (c) age (β = -.14). Hierarchical regression analysis showed that elderly Korean women that had higher self-efficacy of hypertension control, higher social support, and were younger were more likely to have higher hypertension self-care behavior scores.
CONCLUSIONS:
The results highlight the need for interventions that focus on improving an individual's self-efficacy and social support to enhance hypertension self-care. The findings of this study can help nurses better understand hypertension self-care behavior in elderly, low-income Korean women.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบจำลองที่อธิบาย 41.1% ของผลต่างการรวมคะแนนพฤติกรรมการดูแลตนเองของความดันโลหิตสูง ผู้สูงอายุ รายได้ต่ำผู้หญิงเกาหลี ปัจจัยสำคัญของพฤติกรรมดูแลตนเองความดันโลหิตสูงรวม: (ก) ประสิทธิภาพในตนเองของการควบคุมความดันโลหิตสูง (β =.62), สนับสนุน (b) ทางสังคม (β =.16), และ (ค) อายุ (β =-. 14) วิเคราะห์การถดถอยแบบลำดับชั้นแสดงให้เห็นว่า ผู้สูงอายุผู้หญิงเกาหลีที่มีสูงขึ้นประสิทธิภาพในตนเองของการควบคุมความดันโลหิตสูง การสนับสนุนทางสังคมที่สูง และมีอายุ มากมักจะมีคะแนนพฤติกรรมการดูแลตนเองความดันโลหิตสูงสูงขึ้นสรุป:ผลลัพธ์เน้นความต้องการกิจกรรมที่มุ่งเน้นการปรับปรุงของแต่ละบุคคล ประสิทธิภาพในตนเอง และสังคมสนับสนุนการดูแลตนเองความดันโลหิตสูง ผลการวิจัยของการศึกษานี้สามารถช่วยให้ เข้าใจพฤติกรรมการดูแลตนเองความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ รายได้ต่ำผู้หญิงเกาหลีพยาบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปแบบการอธิบาย 41.1% ของความแปรปรวนรวมในคะแนนพฤติกรรมความดันโลหิตสูงการดูแลตนเอง ในหมู่ผู้สูงอายุมีรายได้ต่ำผู้หญิงเกาหลีปัจจัยสำคัญของความดันโลหิตสูงพฤติกรรมการดูแลตนเองของพวกเขารวมถึง (ก) การรับรู้ความสามารถของตนเองในการควบคุมความดันโลหิตสูง (β = 0.62), (ข) การสนับสนุนทางสังคม (β = 0.16) และ (ค) อายุ (β = -.14) การวิเคราะห์การถดถอยลำดับชั้นแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงเกาหลีผู้สูงอายุที่มีความรู้ความสามารถของตัวเองที่สูงขึ้นของการควบคุมความดันโลหิตสูง, การสนับสนุนทางสังคมที่สูงขึ้นและเป็นเด็กมีแนวโน้มที่จะมีความดันโลหิตสูงที่สูงกว่าคะแนนพฤติกรรมการดูแลตนเอง.
สรุป
ผลการเน้นความจำเป็นในการแทรกแซงที่มุ่งเน้น การปรับปรุงของแต่ละบุคคลสมรรถนะตนเองและการสนับสนุนทางสังคมเพื่อเพิ่มความดันโลหิตสูงการดูแลตนเอง ผลการศึกษาครั้งนี้จะช่วยให้พยาบาลเข้าใจพฤติกรรมการดูแลตนเองความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุที่มีรายได้ต่ำผู้หญิงเกาหลี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แบบจำลองอธิบาย 41.1 % ของความแปรปรวนทั้งหมดในสุขภาพ พฤติกรรมการดูแลตนเอง คะแนน ผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ สตรีเกาหลี ปัจจัยของพฤติกรรมการดูแลตนเองของความดันโลหิตสูง ได้แก่ ( ก ) การรับรู้ความสามารถของตนเองในการควบคุมความดันโลหิตสูง ( บีตา = . 62 ) , ( B ) การสนับสนุนทางสังคม ( บีตา = . 16 ) และ ( c ) อายุ ( บีตา = . 14 ) การวิเคราะห์พบว่า ผู้สูงอายุผู้หญิงเกาหลีที่สูงกว่าการรับรู้ความสามารถของตนเองในการควบคุมโรคความดันโลหิตสูง สูงกว่า การสนับสนุนทางสังคม และอายุน้อยกว่ามีแนวโน้มที่จะมีความดันโลหิตสูง พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองสูงกว่าคะแนนสรุปผลลัพธ์ที่ต้องการสำหรับการแทรกแซงที่มุ่งเน้นการปรับปรุงของแต่ละคนมีความสามารถในตนเองและการสนับสนุนทางสังคม เพื่อส่งเสริมการดูแลตนเอง ความดันโลหิตสูง ผลการศึกษานี้จะช่วยให้พยาบาลเข้าใจพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงในหญิงที่มีรายได้น้อยเกาหลี