2.2) Edgar Faure law The framework

2.2) Edgar Faure law
The framework law on higher education of 1968, known as the Edgar Faure law, created a new type of institution, or a Public Establishment of Scientific and Cultural Character (EPCSC) (p.32). The former faculties by this law were replaced with education and research units (UFR) which were autonomous, involved the participation of all the players in the university community and multidisciplinary. However, higher education continued to be divided into two separate blocks: the grandes écoles, educating the nation’s senior executives and the universities, which were effectively “UFR federations”. Another important point of this law is to give more autonomy to the universities, after the contestations of May 1968 (election of president, presence of students in the councils).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.2) กฎหมาย edgar faure
กรอบกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาที่สูงขึ้นของปี 1968 ที่รู้จักกันเป็นกฎหมาย faure edgar สร้างรูปแบบใหม่ของสถ​​าบันการศึกษาหรือสถานประกอบการของประชาชนของตัวละครทางวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม (epcsc) (หน้า 32) อดีตคณะโดยกฎหมายนี้ถูกแทนที่ด้วยการศึกษาและการวิจัยหน่วย (UFR) ซึ่งเป็นอิสระที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของผู้เล่นทุกคนในชุมชนมหาวิทยาลัยและสหสาขาวิชาชีพ แต่การศึกษาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องที่จะถูกแบ่งออกเป็นสองช่วงตึกแยกÉcolesสุภาพสตรีความรู้ผู้บริหารระดับสูงของประเทศและมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ "สหภาพ UFR" อีกจุดที่สำคัญของกฎหมายฉบับนี้คือการให้ความเป็นอิสระมากขึ้นในการมหาวิทยาลัย,หลังจาก contestations พฤษภาคม 1968 (การเลือกตั้งของประธานาธิบดีการปรากฏตัวของนักศึกษาในคณะกรรมการ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กฎหมาย Faure เอ็ดการ์ 2.2)
กฎหมายกรอบการอุดมศึกษาของ 1968 เรียกว่ากฎหมาย Faure เอ็ดการ์ สร้างแบบใหม่ของ สถาบัน หรือสาธารณะสถานประกอบการของวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมที่อักขระ (EPCSC) (p.32) คณะอดีต โดยกฎหมายนี้ถูกแทนที่ ด้วยการศึกษาและหน่วยงานวิจัย (UFR) ซึ่งปกครองตนเอง เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมของผู้เล่นทั้งหมด ในชุมชนของมหาวิทยาลัย และ multidisciplinary อย่างไรก็ตาม ศึกษาต่อมีการแบ่งเป็นบล็อกสองแยก: écoles grandes ให้ผู้บริหารระดับสูงของประเทศและมหาวิทยาลัย ซึ่งมีประสิทธิภาพ "UFR federations" อีกจุดที่สำคัญของกฎหมายนี้คือการ ให้อิสระมากขึ้นมหาวิทยาลัย หลังจาก contestations ของ 1968 พฤษภาคม (เลือกตั้งประธาน ของนักเรียนในการสังคายนาใน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.2 )เอ็ดการ์ Faure กฎหมาย
กฎหมายกรอบในการศึกษาสูงกว่าปี 1968 ที่มีชื่อเสียงเป็นเอ็ดการ์ Faure กฎหมายที่สร้างขึ้นใหม่ ประเภท หนึ่งของสถาบันหรือการจัดตั้งสาธารณะของวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม( epcsc )( p . 32 ) คณะนิติศาสตร์ที่เก่าแก่โดยกฎหมายนี้ถูกแทนที่ด้วยหน่วยวิจัยและการศึกษา( ufr )ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของผู้เล่นทั้งหมดในชุมชนมหาวิทยาลัยและบุคลากรจากหลายสาขา แต่ถึงอย่างไรก็ตามการศึกษาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อจะแบ่งออกเป็นสองช่วงตึก écoles Grandes Eaux แบบแยกพื้นที่ที่การให้ความรู้แก่ผู้บริหารระดับสูงของประเทศและมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ "ฟีฟ่าอนุญาต ufr " จุดสำคัญอีกคนหนึ่งของกฎหมายฉบับนี้คือการให้ความเป็นอิสระมากขึ้นในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยได้หลังจาก contestations ของอาจ 1968 (การเลือกตั้งของการกรรมการผู้จัดการใหญ่ของนักเรียนใน สภา ที่)