The American Cancer Society recomme

The American Cancer Society recommends that primary care practitioners examine patients at high risk for oral cancer as part of a routine check-up because this would give medical practitioners the opportunity to detect oral cancer at an early stage.[10] NPs are in an optimal position to extend oral health promotion, and the results of their questionnaire showed that 91.5% believe that oral cancer examinations should be provided annually for patients over 40; however, 52.9% had never provided an oral examination for their adult patients. In addition, 46.2% of the participants felt they needed more training for this competency. Improvements will require more education, awareness, and attention. Meng et al[9] suggested that continuing education may be the best plan of action.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมาคมมะเร็งอเมริกันแนะนำให้ ผู้ดูแลตรวจสอบผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับโรคมะเร็งช่องปากเป็นส่วนหนึ่งของการขึ้นเครื่องตามปกติเนื่องจากนี้จะให้แพทย์ผู้มีโอกาสที่จะตรวจหามะเร็งช่องปากการ[10] NPs อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการสร้างเสริมสุขภาพช่องปาก และผลลัพธ์ของการสอบถามพบว่า 915% เชื่อว่าโรคมะเร็งที่ช่องปากควรให้ตรวจเป็นประจำทุกปีสำหรับผู้ป่วยกว่า 40 อย่างไรก็ตาม 52.9% มีไม่เคยให้การตรวจของผู้ป่วยผู้ใหญ่ นอกจากนี้ 46.2% ของผู้เข้าร่วมรู้สึกว่า พวกเขาจำเป็นต้องฝึกอบรมเพิ่มเติมสำหรับความสามารถด้านนี้ การปรับปรุงจะต้องมีการศึกษามากขึ้น รับรู้ และความสนใจ Meng et al [9] แนะนำการศึกษาต่อเนื่องที่อาจจะวางแผนการดำเนินการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมาคมโรคมะเร็งอเมริกันแนะนำว่าผู้ปฏิบัติงานการดูแลรักษาเบื้องต้นตรวจสอบผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับโรคมะเร็งในช่องปากเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันเช็คอินขึ้นเพราะเรื่องนี้จะให้ผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์มีโอกาสในการตรวจสอบมะเร็งในช่องปากในระยะแรก. [10] NPS อยู่ในที่เหมาะสม ตำแหน่งที่จะขยายการส่งเสริมสุขภาพช่องปากและผลที่ได้จากแบบสอบถามของพวกเขาแสดงให้เห็นว่า 91.5% เชื่อว่าการตรวจสอบมะเร็งในช่องปากควรจะให้เป็นประจำทุกปีสำหรับผู้ป่วยกว่า 40; แต่ 52.9% ไม่เคยให้การตรวจสอบในช่องปากสำหรับผู้ป่วยผู้ใหญ่ของพวกเขา นอกจากนี้ 46.2% ของผู้เข้าร่วมรู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องมีการฝึกอบรมมากขึ้นสำหรับความสามารถนี้ การปรับปรุงจะต้องมีการศึกษามากขึ้นการรับรู้และให้ความสนใจ จ๋ายตอัล [9] แสดงให้เห็นว่าการศึกษาต่อเนื่องอาจจะเป็นแผนการที่ดีที่สุดของการดำเนินการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมาคมโรคมะเร็งอเมริกันแนะนำว่า ผู้ปฏิบัติงานบริการปฐมภูมิศึกษาผู้ป่วยที่เสี่ยงมะเร็งช่องปากที่เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจตามปกติ เพราะจะให้ผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์โอกาสที่จะตรวจพบมะเร็งช่องปากในระยะแรก [ 10 ] โดยจะอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะขยายการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก และผลลัพธ์ของแบบสอบถามของพวกเขาพบว่า 91 .5 % เชื่อว่าการตรวจมะเร็งช่องปาก ควรให้ผู้ป่วยกว่า 40 ปี อย่างไรก็ตาม 52.9 % ไม่เคยมีการสอบสัมภาษณ์ สำหรับผู้ป่วยผู้ใหญ่ของพวกเขา นอกจากนี้ 46.2 % ของผู้เข้าร่วมรู้สึกว่าพวกเขาต้องการการฝึกอบรมเพิ่มเติมสำหรับความสามารถนี้ การปรับปรุงจะต้องมากขึ้น การศึกษา ความรู้และความสนใจเมิง et al . [ 9 ] แนะนำการศึกษาต่ออาจเป็นแผนการที่ดีที่สุดของการกระทำ