4. DiscussionThe leaves of Phalaeno

4. Discussion
The leaves of Phalaenopsis exhibit typical Crassulacean acid metabolism
(Endo and Ikusima, 1989; Ota et al., 1991). Under water stress, it is likely that
Phalaenopsis will shift into the CAM-idling state, in which stomata remain
closed throughout the day and night. Phalaenopsis also has succulent leaves and
thick roots, which can preserve a large amount of water. The orchid thus appears
to have a high ability to evade dehydration. This is indeed the case when bare
rooted plants were kept at 258C, 70% RH in the dark. After 30 days, the plants
lost only 20% of their weight. However, under unfavorable environmental
conditions, the plants are still seriously dehydrated. High temperature, low RH
and illumination can all accelerate the process of water loss.
Fig. 4. The changes in the photochemical quenching of the leaves and roots of P. equestris with
days in bare-root state. The plants were kept at either (a) 258C or (b) 358C, with the RH set either at
70% or below 10%, and with or without illumination. Error bars represent one standard error of
means. (_) p20%) in all the
photosynthetic activities measured. We thus considered that the photosynthesis of
Phalaenopsis leaves was not hampered at all when kept at 258C. As for the roots
at 258C, signi®cant decreases took place in both electron transport rate (60%) and
photochemical quenching (50%) after 30 days, if they stayed at low RH in the
dark. It implies that the photosynthesis of roots can be inhibited only when two
stresses (dehydration and dark treatment) are simultaneously applied.
When the leaves were kept at 358C, signi®cant drops were observed in
maximal quantum ef®ciency, electron transport rate and photochemical
quenching if they were stored in the dark. It appeared that the RH did not play
a decisive role in the inhibition of these activities. This was because, at 358C in
the dark, the rates of dehydration were similar between the plants held at high and
low RH (see Fig. 1b). Here again, a combination of stresses (dehydration and dark
treatment) was found to be essential for the suppression of leaf photosynthesis. It
is interesting to note that although illumination accelerates water loss, on the
other hand it helps to preserve the activities of photosynthesis. Very similar
inhibition pattern took place in the roots kept at 358C.
It is worthy of note that non-photochemical quenching was not affected at all
under all environmental conditions tested. The non-photochemical quenching is
directly related to the establishment of a proton gradient across the thylakoid
membrane, which in turn is a function of the rate of CO2 ®xation. Our results
suggest that the dark reaction of Phalaenopsis is not very sensitive to
environmental constraints.
In conclusion, as far as the photosynthesis of Phalaenopsis is concerned, a
single environmental constraint will not lead to any inhibition, but a combination
of stresses (dehydration and dark treatment) can induce a severe suppression.
Nevertheless, under favorable environmental conditions (cool temperature and
high RH), bare rooted Phalaenopsis can retain its water content as well as
photosynthetic activities for a long time (_30 days). The results suggest that the
shipment of Phalaenopsis with bare roots to foreign countries should not be a
problem as long as the simultaneous presence of two stresses is avoided before
replanting.
Acknowledgements
This work was supported by a grant from Taiwan Sugar Company and National
Science Council, Taiwan (88-TSC-B-007-001).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. สนทนาใบของ Phalaenopsis แสดงทั่วไปเผาผลาญกรด Crassulacean(เอนโดและ Ikusima, 1989 Ota et al. 1991) ภายใต้ความเครียดน้ำ มีแนวโน้มที่Phalaenopsis จะเปลี่ยนเป็น CAM idling รัฐ ปากใบยังคงอยู่ปิดตลอดวันและคืน Phalaenopsis ยังมีใบฉ่ำ และรากหนา ซึ่งสามารถเก็บรักษาน้ำจำนวนมาก เดอะออร์คิดจึงปรากฏมีความสามารถสูงเพื่อหลบเลี่ยงการคายน้ำ แน่นอนเป็นกรณีนี้เมื่อเปลือยรากพืชที่ถูกเก็บไว้ที่ C 258, 70% RH ในมืด หลังจาก 30 วัน พืชหายไปเพียง 20% ของน้ำหนักของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ภายใต้ไม่เอื้ออำนวยต่อสิ่งแวดล้อมเงื่อนไข พืชจะยังคงแห้งอย่างจริงจัง อุณหภูมิสูง RH ต่ำและแสงสว่างสามารถทั้งหมดเร่งการสูญเสียน้ำรูป 4 การเปลี่ยนแปลงใน photochemical ดับของใบและรากของ P. equestris ด้วยวันในสถานะรากเปลือย พืชที่ถูกเก็บไว้ที่ C อย่างใดอย่างหนึ่ง (a) 258 หรือ (b) 358C กับ RH ตั้งได้ที่70% หรือ กว่า 10% และมี หรือไม่ มีแสงสว่าง แถบข้อผิดพลาดที่แสดงข้อผิดพลาดมาตรฐานหนึ่งของหมายความว่า p (_) < 0.05316 V. Su ร้อยเอ็ด / scientia ฟื้นฟู Horticulturae 87 311±318 (2001)ใบเก็บไว้ที่ 258C ก็ไม่ลดลงมาก (> 20%) ในการกิจกรรมสังเคราะห์แสงที่วัดได้ เราจึงเห็นว่าการสังเคราะห์ด้วยแสงของPhalaenopsis ใบถูกขัดขวางทั้งหมดเมื่อเก็บไว้ที่ c 258 ส่วนรากที่ 258C, signi ® ได้เกิดไม่สามารถลดอัตราค่าขนส่งอิเล็กตรอนทั้งสอง (60%) และphotochemical ชุบ (50%) หลังจาก 30 วัน ถ้าพวกเขาอยู่ที่ RH ต่ำในการมืด มันหมายความว่า สามารถยับยั้งการสังเคราะห์ด้วยแสงของรากเมื่อสองเท่าเครียด (การคายน้ำและรักษาเข้ม) จะใช้พร้อมกันนี้เมื่อใบถูกเก็บไว้ที่ 358C, signi ® ลาดเทหยดถูกตั้งข้อสังเกตในควอนตัมสูงสุด ef ® ไฟฟ้า อัตราการขนส่งอิเล็กตรอน และ photochemicalดับถ้าจะถูกเก็บไว้ในมืด ปรากฏว่า ไม่ได้เล่น RHมีบทบาทสำคัญในการยับยั้งกิจกรรมเหล่านี้ เนื่องจาก ที่ 358C ในมืด อัตราการคายน้ำได้คล้ายคลึงกันระหว่างพืชที่จัดขึ้นที่สูง และRH ต่ำ (ดูรูป 1b) ที่นี่อีกครั้ง การรวมกันของความเครียด (การคายน้ำและความมืดรักษา) พบว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปราบปรามของการสังเคราะห์แสงของใบ มันน่าสนใจที่จะทราบว่า แม้ว่าแสงเร่งการสูญเสียน้ำ ในการกลับกันมันช่วยให้รักษากิจกรรมการสังเคราะห์แสง คล้ายกันมากการยับยั้งรูปแบบที่เกิดขึ้นในรากเก็บไว้ที่ c 358ก็น่าจะหมายเหตุว่า ชุบ-photochemical จึงไม่เกิดเลยทดสอบภายใต้สภาพแวดล้อมทั้งหมด ชุบ-photochemical เป็นตรงเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งการไล่ระดับสีของโปรตอนผ่าน thylakoidเมมเบรน ซึ่งเป็นฟังก์ชันของอัตรา CO2® xation ผลของเราแนะนำว่า ปฏิกิริยามืดของ Phalaenopsis ไม่มากข้อจำกัดของสิ่งแวดล้อมสรุป ไกลการสังเคราะห์ด้วยแสงของ Phalaenopsis เป็นห่วง เป็นข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมเดียวจะไม่นำไปสู่การยับยั้งใด ๆ แต่ชุดความเครียด (การคายน้ำและรักษาเข้ม) สามารถก่อให้เกิดการปราบปรามอย่างรุนแรงอย่างไรก็ตาม ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดี (เย็นอุณหภูมิ และสูง RH), Phalaenopsis เปลือยรากสามารถรักษาน้ำของเนื้อหาตลอดจนกิจกรรมสังเคราะห์แสงเป็นเวลานาน (_30 วัน) ผลลัพธ์แสดงว่า การการจัดส่งของ Phalaenopsis มีรากเปลือยไปต่างประเทศไม่ควรมีปัญหาตราบเท่าที่การปรากฏตัวพร้อมกันของสองเครียดหลีกเลี่ยงก่อนสงเคราะห์การทำสวนถาม-ตอบงานนี้ได้รับการสนับสนุน โดยเงินช่วยเหลือ จาก บริษัทน้ำตาลไต้หวัน และในประเทศคณะวิทยาศาสตร์ ไต้หวัน (88-TSC-B-007-001)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4. อภิปราย
ใบของ Phalaenopsis แสดงทั่วไปเผาผลาญกรด Crassulacean
(Endo และ Ikusima 1989. โอตะ, et al, 1991) ภายใต้ความเครียดน้ำก็มีแนวโน้มว่า
Phalaenopsis จะเปลี่ยนเข้าสู่สถานะ CAM-idling ซึ่งในปากยังคง
ปิดให้บริการตลอดทั้งวันและคืน Phalaenopsis ยังมีใบฉ่ำและ
รากหนาซึ่งสามารถเก็บรักษาเป็นจำนวนมากของน้ำ กล้วยไม้จึงปรากฏขึ้น
ที่จะมีความสามารถสูงในการหลบเลี่ยงการคายน้ำ แท้จริงนี่คือกรณีที่เมื่อเปลือย
รากพืชจะถูกเก็บไว้ที่ 258C, 70% RH ในที่มืด หลังจาก 30 วันพืช
หายไปเพียง 20% ของน้ำหนักของพวกเขา อย่างไรก็ตามภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย
เงื่อนไขพืชยังคงแห้งอย่างจริงจัง อุณหภูมิสูงต่ำ RH
และไฟส่องสว่างทุกคนสามารถเร่งกระบวนการของการสูญเสียน้ำ.
รูป 4. การเปลี่ยนแปลงในการดับแสงของใบและรากของพี Equestris กับ
วันในสภาพเปลือยราก พืชที่ถูกเก็บไว้ที่ใด (ก) 258C หรือ (ข) 358C กับ RH ตั้งทั้งที่
70% หรือต่ำกว่า 10% และมีหรือไม่มีไฟส่องสว่าง แถบข้อผิดพลาดหมายถึงข้อผิดพลาดมาตรฐานหนึ่งใน
วิธีการ (_) p <0.05.
316 โวลต์ซู et al, / วิทยาศาสตร์ Horticulturae 87 (2001) 311 ± 318
สำหรับใบเก็บไว้ที่ 258C ไม่มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (> 20%) ในทุก
กิจกรรมการสังเคราะห์แสงวัด เราจึงพิจารณาว่าการสังเคราะห์แสงของ
ใบ Phalaenopsis ไม่ได้ขัดขวางทุกเมื่อเก็บไว้ที่ 258C ในฐานะที่เป็นราก
ที่ 258C ลดsigni®cantที่เกิดขึ้นทั้งในอัตราอิเล็กตรอนขนส่ง (60%) และ
ดับแสง (50%) หลังจาก 30 วันถ้าพวกเขาอยู่ที่ RH ต่ำใน
ที่มืด มันแสดงให้เห็นว่าการสังเคราะห์แสงของรากที่สามารถยับยั้งเฉพาะเมื่อสอง
ความเครียด (การคายน้ำและการรักษาเข้ม) ถูกนำมาใช้พร้อมกัน.
เมื่อใบถูกเก็บไว้ที่ 358C หยดsigni®cantถูกตั้งข้อสังเกตใน
ef®ciencyควอนตัมสูงสุดอัตราการขนส่งอิเล็กตรอนและแสง
ดับถ้าพวกเขาถูกจัดเก็บไว้ในที่มืด มันดูเหมือนว่า RH ไม่ได้เล่น
บทบาทในการยับยั้งการกิจกรรมเหล่านี้ เป็นอย่างนี้เพราะที่ 358C ใน
ที่มืดอัตราการคายน้ำมีความคล้ายคลึงกันระหว่างพืชจัดขึ้นที่สูงและ
ต่ำ RH (ดูรูป 1b.) ที่นี่อีกครั้งการรวมกันของความเครียด (คายน้ำและสีเข้ม
รักษา) ถูกพบว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปราบปรามการสังเคราะห์แสงของใบ มัน
น่าสนใจที่จะทราบว่าแม้ว่าการส่องสว่างที่ช่วยเร่งการสูญเสียน้ำใน
มืออื่น ๆ ที่จะช่วยในการรักษากิจกรรมของการสังเคราะห์ คล้ายกันมาก
รูปแบบการยับยั้งเกิดขึ้นในรากเก็บไว้ที่ 358C.
มันเป็นค่าของโน้ตที่ดับที่ไม่ใช่แสงไม่ได้รับผลกระทบ
ภายใต้สภาพแวดล้อมทดสอบทั้งหมด ดับที่ไม่ใช่แสงจะ
เกี่ยวข้องโดยตรงกับสถานประกอบการของโปรตอนลาดข้าม thylakoid
เมมเบรนซึ่งจะเป็นหน้าที่ของอัตรา®xation CO2 ที่ ผลของเรา
แสดงให้เห็นว่าปฏิกิริยามืดของ Phalaenopsis ไม่ได้มีความสำคัญมากที่จะ
จำกัด สิ่งแวดล้อม.
สรุปเท่าที่สังเคราะห์แสงของ Phalaenopsis เป็นห่วงเป็น
ข้อ จำกัด ด้านสิ่งแวดล้อมเดียวจะไม่นำไปสู่การยับยั้งใด ๆ แต่การรวมกัน
ของความเครียด (การคายน้ำและความมืด การรักษา) สามารถเหนี่ยวนำให้เกิดการปราบปรามอย่างรุนแรง.
แต่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดี (อุณหภูมิที่เย็นและ
RH สูง) เปลือย Phalaenopsis ฝังรากสามารถรักษาปริมาณน้ำเช่นเดียวกับ
กิจกรรมการสังเคราะห์แสงเป็นเวลานาน (_30 วัน) ผลการวิจัยแนะนำว่า
การจัดส่งของ Phalaenopsis ที่มีรากเปลือยไปต่างประเทศไม่ควรจะเป็น
ปัญหาที่เกิดขึ้นตราบใดที่การปรากฏตัวพร้อมกันของสองความเครียดจะหลีกเลี่ยงก่อนที่จะ
ปลูก.
กิตติกรรมประกาศ
งานนี้ได้รับการสนับสนุนจากทุนจาก บริษัท ไต้หวันน้ำตาลแห่งชาติและ
สภาวิทยาศาสตร์ ไต้หวัน (88 TSC-B-007-001)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . การอภิปรายใบฟาแลนมีทั่วไป crassulacean กรดการเผาผลาญ( เอ็นโด ikusima , 1989 ; OTA et al . , 1991 ) น้ำที่อยู่ภายใต้ความเครียด ดูเหมือนว่าฟาแลนจะเปลี่ยนเป็นกล้องยังอยู่ที่ปากยังคงสภาพปิดตลอดทั้งวันและคืน ฟาแลนใบหวานฉ่ำและยังมีรากหนา ซึ่งสามารถรักษาจำนวนมากของน้ำ กล้วยไม้จึงปรากฏมีความสามารถสูงในการหลบเลี่ยงการขาดน้ำ แท้จริงนี่คือกรณีที่เมื่อเปลือยรากพืชไว้ที่ 258c ความชื้นสัมพัทธ์ 70% ในที่มืด หลังจาก 30 วัน , พืชหายไปเพียง 20% ของน้ำหนักของพวกเขา อย่างไรก็ตามในที่สิ่งแวดล้อมเงื่อนไข , พืชยังขาดน้ำจริงๆ อุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์ต่ำและรัศมีสามารถเร่งกระบวนการของการสูญเสียน้ำรูปที่ 4 การเปลี่ยนแปลงในเคมีดับของใบและรากของ equestris กับพีวันในรัฐรากเปลือย พืชที่ถูกเก็บไว้ที่ ( ก ) หรือ ( ข ) 258c 358c กับความชื้นสัมพัทธ์ตั้งค่าให้ที่70% หรือน้อยกว่า 10% และมี หรือ ไม่มีไฟส่องสว่าง แถบแสดงข้อผิดพลาดของข้อผิดพลาดมาตรฐานหมายถึง ( _ ) P < 0.05316 . ซู et al . / scientia horticulturae 87 ( 2001 ) 311 ± 318สำหรับใบเก็บไว้ที่ 258c ไม่มีเป็นชิ้นเป็นอันลดลง ( > 20% ) ทั้งหมดใบกิจกรรมวัด เราจึงถือว่า การสังเคราะห์แสงของฟาแลนใบไม่ขัดขวางเลย เมื่อเก็บไว้ที่ 258c เป็นรากที่ 258c signi , ®ลาดเทลดเอาสถานที่ในการขนส่งอิเล็กตรอนเท่ากัน ( ร้อยละ 60 ) และดับ 2 ( 50 % ) หลังจาก 30 วัน , ถ้าพวกเขาอยู่ที่ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำในมืด มันหมายความว่าการสังเคราะห์แสงของราก สามารถยับยั้งเมื่อสองความเครียด ( dehydration และมืดรักษา ) พร้อมใช้เมื่อใบไม้ถูกเก็บไว้ที่ 358c signi , ®ไม่สามารถหยดที่พบในควอนตัม EF ®ประสิทธิภาพสูงสุด อัตราการขนส่งอิเล็กตรอนและเคมีดับถ้าพวกเขาถูกเก็บไว้ในที่มืด ปรากฎว่า ใช้ไม่ได้เล่นบทบาทชี้ขาดในการยับยั้งกิจกรรมเหล่านี้ นี้เป็นเพราะที่ 358c ในมืด อัตราการคายน้ำมีความคล้ายคลึงกันระหว่างพืชที่จัดขึ้นที่สูง และความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ ( ดูภาพประกอบ 1B ) ที่นี่อีกครั้ง , การรวมกันของความเครียด ( dehydration และมืดการรักษา ) พบว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปราบปรามของการสังเคราะห์แสงของใบไม้ มันเป็นที่น่าสนใจที่จะทราบว่าแม้ว่าการเร่งการสูญเสียน้ำในมืออื่น ๆ มันช่วยรักษากิจกรรมการสังเคราะห์แสง ที่คล้ายกันมากการยับยั้งแบบเอาสถานที่ในราก เก็บใน 358c .มันสมควรจะทราบว่าไม่ดับ 2 ไม่ได้รับผลกระทบเลยภายใต้สภาพแวดล้อมการทดสอบ ไม่ดับ 2 คือที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสถานประกอบการของโปรตอนลาดข้ามไทลาคอยด์เมมเบรน ซึ่งจะเป็นฟังก์ชันของอัตราของ CO2 ® xation . ผลของเราแสดงให้เห็นว่าปฏิกิริยามืดของฟาแลน ไม่อ่อนไหวกับข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมสรุป เท่าที่การสังเคราะห์แสงของฟาแลนนอปซิสมีความกังวลข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อม เดียวจะไม่นำไปสู่การรวมกันใด ๆ แต่ความเครียด ( dehydration และมืดรักษา ) ทำให้เกิดการปราบปรามอย่างรุนแรงอย่างไรก็ตาม ภายใต้สภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี ( เย็นอุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์สูง ) , เปลือยราก phalaenopsis สามารถรักษาปริมาณน้ำของมัน เช่นเดียวกับกิจกรรมการสังเคราะห์แสงเป็นเวลานาน ( _30 วัน ) ผลการวิจัย พบว่าการจัดส่งของฟาแลนนอปซิสที่มีรากเปลือยไปต่างประเทศไม่ควรเป็นปัญหาตราบใดที่การปรากฏตัวพร้อมกันสองแรง คือหลีกเลี่ยงก่อนทำสวน .กิตติกรรมประกาศงานวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนโดยทุนจากไต้หวัน และบริษัท น้ำตาลแห่งชาติสภาวิทยาศาสตร์ , ไต้หวัน ( 88-tsc-b-007-001 )