1980b). They may represent storage

1980b). They may represent storage forms of calcium and
oxalic acid, and there has been some evidence of calcium
oxalate resorption in times of calcium depletion (Arnott and
Pautard, 1970; Sunell and Healey, 1979). They could also
act as simple depositories for metabolic wastes which would
otherwise be toxic to the cell or tissue. In some plants they
have more specialist functions, such as to promote air space
formation in aquatic plants (see below), or help prevent
herbivory, although many plants containing calcium oxalate
crystals are eaten by birds and animals. The barbed and
grooved raphides of some Araceae (e.g. Xanthosoma
sagittifolium) are particularly irritating to mouth and throat
tissues when eaten. Grooves in crystals which have
embedded themselves in animal tissues may allow the
entrance of a chemical irritant such as a toxic proteolytic
enzyme (Walter and Khanna, 1972) or a glucoside (Saha
and Hussain, 1983) into the wound (Sakai, Hanson and
Jones, 1972).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1980b) พวกเขาอาจเป็นตัวแทนของรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลของแคลเ​​ซียมและกรดออกซาลิ
และมีหลักฐานของแคลเ​​ซียมออกซาเลตบาง
สลายในช่วงเวลาของการสูญเสียแคลเซียม (Arnott และ
pautard, 1970; Sunell และ Healey, 1979) พวกเขาจะยังทำหน้าที่เป็นศูนย์รับฝาก
ง่ายสำหรับการเผาผลาญของเสียที่จะเป็นอย่างอื่น
เป็นพิษต่อเซลล์หรือเนื้อเยื่อ ในพืชบางชนิดที่พวกเขา
มีหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมากขึ้นเช่นเพื่อส่งเสริมการสร้างพื้นที่อากาศ
ในพืชน้ำ (ดูด้านล่าง) หรือช่วยป้องกันไม่ให้
herbivory แม้ว่าพืชหลายชนิดที่มีแคลเซียมออกซาเลต
ผลึกจะกินนกและสัตว์ และมีหนาม
raphides ร่องของ Araceae บางอย่าง (เช่น xanthosoma
sagittifolium) โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการระคายเคืองที่ปากและเนื้อเยื่อ
ลำคอเมื่อรับประทาน ร่องในผลึกที่มี
ที่ฝังตัวอยู่ในเนื้อเยื่อของสัตว์ที่อาจจะอนุญาตให้เข้า
จากสารเคมีระคายเคืองเช่นโปรตีนพิษ
เอนไซม์ (วอลเตอร์และคันนา, 1972) หรือ glucoside (saha
และฮุสเซน 1983) เป็นแผล (Sakai, แฮนสันและ
โจนส์, 1972)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1980b) ได้อาจแสดงรูปแบบเก็บแคลเซียม และ
กรดออกซาลิก และได้มีหลักฐานบางอย่างของแคลเซียม
oxalate resorption ในเวลาของการลดลงของแคลเซียม (Arnott และ
Pautard, 1970 Sunell กลีย์ 1979) พวกเขาสามารถยัง
เป็น depositories ง่ายสำหรับขยะเผาผลาญซึ่งจะ
มิฉะนั้น จะเป็นพิษกับเซลล์หรือเนื้อเยื่อได้ ในบางพืชก็
ได้เพิ่มเติมฟังก์ชันผู้เชี่ยวชาญ เช่นการส่งเสริมพื้นที่อากาศ
ในพืชน้ำ (ดูด้านล่าง), หรือช่วยป้องกัน
herbivory แม้ว่าหลายพืชที่มีแคลเซียมออกซาเลต
ผลึกถูกกิน โดยนกและสัตว์ ที่ barbed และ
grooved raphides Araceae บางอย่าง (เช่น Xanthosoma
sagittifolium) จะเคืองโดยเฉพาะปากและคอ
เนื้อเยื่อเมื่อกิน ร่องในผลึกซึ่งมี
ฝังตัวเองในสัตว์ให้เนื้อเยื่อ
เข้าของสารเคมีเช่นพิษที่ proteolytic irritant
เอนไซม์ (วอลเตอร์และคันนา 1972) หรือตัว glucoside (บริษัทสห
และ ชาร์ 1983) เป็นแผล (ซาไก แฮนสัน และ
โจนส์ 1972)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1980 B ) พวกเขาอาจเป็นรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลของกรด
- และแคลเซียมและมีหลักฐานบางอย่างของแคลเซียม
oxalate ดูดเข้าไว้อีกในช่วงเวลาของระบบ( arnott และ
pautard 1970 sunell และ healey 1979 ) พวกเขาไม่สามารถทำหน้าที่เป็นเป็นจารีตประเพณีแบบเรียบง่ายสำหรับทำให้เสียเวลากว้างขวางซึ่งจะเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อเซลล์ที่

ตามมาตรฐานยังเป็นอย่างอื่น ในพืชบางชนิดที่มีฟังก์ชัน
ซึ่งจะช่วยผู้เชี่ยวชาญด้าน IT เพิ่มเติมเช่นในการส่งเสริมการขายพื้นที่อากาศ
ซึ่งจะช่วยลดการก่อตัวในพันธุ์ไม้น้ำ(ดูด้านล่าง)หรือป้องกันไม่ให้
herbivory พันธุ์ไม้ต่างๆแม้ว่าหลายคนที่มีแคลเซียม oxalate
Active Crystals จะรับประทานอาหารร่วมกันโดยสัตว์ต่างๆและนก raphides
กระบอกเกลียวและรั้วลวดหนามของผักหนาม(เช่นบางอย่าง xanthosoma
sagittifolium )โดยเฉพาะน่ารำคาญในปากและคอ
เนื้อเยื่อเมื่อรับประทาน ร่องพื้นรองเท้าที่มีอยู่ใน Active Crystals
เอ็มเบ็ดเด็ดในสัตว์เนื้อเยื่ออาจทำให้
ทางเข้าของสารเคมีทำให้คันเช่นที่เป็นพิษ proteolytic
เอนไซม์(วัลเทอร์และ khanna , 1972 )หรือ glucoside ( Saha
และโดดเด่น Hussain Sagar , 1983 )เข้าไปในแผล(พวกซา - ไก,แฮนสันกับและ
โจนส์, 1972 )