Kalakanni Jataka: What's in a Name?

Kalakanni Jataka: What's in a Name? (Jat 83)

The Buddha told this story while at Jetavana, about one of Anathapindika's friends, a man named "Curse." The two had played together as children and had gone to the same school. As the years passed, however, the friend became extremely poor and could not make a living for himself no matter what he did. In desperation, he approached Anathapindika, who welcomed him kindly and employed him to look after his property and to manage all of his business for him. From that time on, it was a common thing to hear someone shouting, "Curse!" each time a member of the household spoke to him.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Kalakanni ชาดก: สิ่งที่อยู่ในชื่อหรือไม่ (Jat 83)

พระที่บอกเรื่องนี้ในขณะที่ Jetavana หนึ่งเพื่อนของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เกี่ยวกับชายคนหนึ่งชื่อ "แช่ง" ทั้งสองได้เล่นกันเป็นเด็ก และได้ไปโรงเรียนเดียวกัน ปีผ่านไป อย่างไรก็ตาม เพื่อนกลายเป็นแย่มาก และอาจไม่กินสำหรับตัวเองว่าสิ่งที่เขาไม่ ในภาวะที่สิ้นหวัง เขาทาบทามอนาถบิณฑิกเศรษฐี ที่ต้อนรับเขากรุณา และจ้างเขา เพื่อดูแลทรัพย์สินของเขา และ การจัดการธุรกิจทั้งหมดให้เขา จากนั้นเวลา ก็เป็นเรื่องปกติที่จะได้ยินคนตะโกน "แช่ง" ทุกครั้งที่สมาชิกในครัวเรือนได้พูดกับเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Kalakanni ชาดก: มีอะไรในชื่อ? (จัท 83) พระพุทธรูปเล่าเรื่องนี้ในขณะที่ใน Jetavana ประมาณหนึ่งในเพื่อน Anathapindika ของผู้ชายคนหนึ่งชื่อ "คำสาป". ทั้งสองได้เล่นร่วมกันเป็นเด็กและได้ไปโรงเรียนเดียวกัน เมื่อปีที่ผ่าน แต่เพื่อนกลายเป็นคนยากจนมากและไม่สามารถทำให้ชีวิตของตัวเองไม่ว่าสิ่งที่เขาทำ ในความสิ้นหวังเขาเดินเข้าไปใกล้ Anathapindika ที่ต้อนรับเขาอย่างจริงใจและจ้างเขาที่จะดูแลทรัพย์สินของเขาและการจัดการทั้งหมดของธุรกิจของเขาสำหรับเขา จากเวลาที่ว่ามันเป็นสิ่งที่ธรรมดาที่จะได้ยินคนตะโกน "คำสาป" เวลาสมาชิกของครัวเรือนพูดกับเขาแต่ละ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

kalakanni ชาดก : มีอะไรในชื่อ ? ( จัต 83 )

พระเล่าเรื่องนี้ในขณะที่วัดเชตวันมหาวิหาร เรื่องหนึ่งของอนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นเพื่อนผู้ชายที่ชื่อ " คำสาป " ทั้งสองได้เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ และได้ไปที่โรงเรียนเดียวกัน เมื่อปีที่ผ่าน แต่เพื่อนก็มาก ยากจน และไม่สามารถหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเองไม่ว่าเขาจะทำอะไร ในความสิ้นหวัง เขามาหาอนาถบิณฑิกเศรษฐี ,ที่ให้การต้อนรับเขาละเมียดละไม และจ้างเขาดูแลทรัพย์สินของเขา และจัดการทั้งหมดของธุรกิจของเขาสำหรับเขา จากช่วงเวลานั้น มันเป็นสิ่งธรรมดาที่จะได้ยินคนตะโกนว่า " คำสาป " แต่ละครั้งที่สมาชิกในครัวเรือน
พูดกับเขา