Previously a study reported that in

Previously a study reported that in the existence of a virus-specific antibody, virus of dengue-2 sticks to the platelets [17,24]. By Satio et al. in a study among 21 patients with secondary dengue infection, observed a high positive rate of 42.85 with dengue-virus RNA in purified platelets samples through RT-PCR [17].
This data indicates that dengue-virus is present on the circulating platelets in subjects having secondary dengue infection, this supports our assumption of a procedure of inducing thrombocytopenia by involving the development of PAIgG/PAIgM. The increase in the PAIgG/PAIgM levels was significant, and we also observed that there was a significant correlation between PAIgG/PAIgM levels and platelets count in patients having acute secondary phase infection, the PAIgG in 8 patients (29.6%) and PAIgM in 17 patients (68%) levels persisted within normal range (0–14.9 ng/107 platelets in case of PAIgG, while 0–12 ng/107 platelets in case of PAIgM). So our data indicates that in these patients other methods may also be operative that are involve in the development of thrombocytopenia. The contribution of PAIgG appears to be much greater than that of PAIgM for induction of thrombocytopenia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก่อนหน้านี้ การศึกษารายงานว่า ในการดำรงอยู่ของแอนติบอดีเฉพาะไวรัส ไวรัสไข้เลือดออก 2 แท่งกับเกล็ดเลือด [17,24] โดย Satio et al. ในการศึกษาในผู้ป่วยติดเชื้อไข้เลือดออกรอง 21 สังเกตอัตราบวกสูง 42.85 มีอาร์เอ็นเอไวรัสไข้เลือดออกในตัวอย่างเกล็ดเลือดบริสุทธิ์ผ่าน RT-PCR [17] ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่า ไวรัสไข้เลือดออกอยู่บนเกล็ดเลือดหมุนเวียนในเรื่องที่มีการติดเชื้อไข้เลือดออกรอง นี้สนับสนุนสมมติฐานของเราของกระบวนการของ inducing เกล็ดเลือดน้อยโดยเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของ PAIgG/PAIgM การเพิ่มขึ้นของระดับ PAIgG/PAIgM สำคัญ และเรายังพบว่า มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างระดับ PAIgG/PAIgM และนับจำนวนเกล็ดเลือดในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อระยะรองเฉียบพลัน PAIgG ในผู้ป่วย 8 (29.6%) และ PAIgM ในระดับผู้ป่วย 17 (68%) ที่ยังคงอยู่ในช่วงปกติ (0 – 14.9 ng/107 กรณี PAIgG เกล็ดเลือดในขณะที่เกล็ดเลือด ng/107 0 – 12 ในกรณี PAIgM) ดังนั้น ข้อมูลบ่งชี้ว่า ในผู้ป่วยเหล่านี้วิธีการอื่น ๆ อาจเป็นการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของเกล็ดเลือดน้อย สัดส่วนของ PAIgG มากมากกว่าที่ PAIgM สำหรับการเหนี่ยวนำของเกล็ดเลือดน้อยแล้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ก่อนหน้านี้มีการศึกษารายงานว่าในการดำรงอยู่ของแอนติบอดีไวรัสที่เฉพาะเจาะจงของไวรัสไข้เลือดออก-2 ไม้เกล็ดเลือดที่ [17,24] โดย Satio et al, ในการศึกษาในหมู่ 21 ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไข้เลือดออกรองสังเกตอัตราการบวกสูงของ 42.85 กับอาร์เอ็นเอไข้เลือดออกไวรัสในบริสุทธิ์ตัวอย่างเกล็ดเลือดผ่าน RT-PCR [17].
ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่าไข้เลือดออกไวรัสที่มีอยู่ในเกล็ดเลือดที่ไหลเวียนในวิชา มีการติดเชื้อไข้เลือดออกรองนี้สนับสนุนสมมติฐานของเราในขั้นตอนของการกระตุ้นให้เกิดภาวะเกล็ดเลือดโดยการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของ PAIgG / PAIgM เพิ่มขึ้นใน PAIgG / PAIgM ระดับอย่างมีนัยสำคัญและเรายังตั้งข้อสังเกตว่ามีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่าง PAIgG / PAIgM ระดับและเกล็ดเลือดนับในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อระยะที่รองเฉียบพลันที่ PAIgG 8 ราย (29.6%) และ PAIgM 17 ราย (68%) ในระดับที่ยังคงอยู่ในช่วงปกติ (0-14.9 ng / 107 เกล็ดเลือดในกรณีของ PAIgG ขณะ 0-12 ng / 107 เกล็ดเลือดในกรณีของ PAIgM) ดังนั้นข้อมูลของเราแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยเหล่านี้ในวิธีการอื่น ๆ ก็อาจจะทำงานที่ได้รับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาของ thrombocytopenia มีส่วนร่วมของ PAIgG ดูเหมือนจะมากขึ้นกว่าที่ของ PAIgM สำหรับการเหนี่ยวนำของ thrombocytopenia

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากการศึกษารายงานว่าในการดำรงอยู่ของไวรัสที่เฉพาะเจาะจงต่อไวรัสของ dengue-2 เกาะติดเกล็ด [ 17,24 ] โดยซาติโอ et al . ในการศึกษาในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไข้เลือดออก 21 รองสังเกตสูงบวกกับอัตรา 42.85 RNA ในไวรัสไข้เลือดออกโดยเกล็ดเลือดตัวอย่างผ่านนี้ [ 17 ]
ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่าไวรัสไข้เลือดออกอยู่ในการไหลเวียนของเกล็ดเลือดในวิชาที่มีการติดเชื้อไข้เลือดออกระดับนี้สนับสนุนสมมติฐานของเราของกระบวนการกระตุ้นเกล็ดเลือดน้อย โดยเกี่ยวข้องกับการพัฒนา paigg / paigm . เพิ่มขึ้นในระดับ paigg / paigm เป็นสำคัญและเรายังพบว่า มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่าง paigg / paigm ระดับและเกล็ดเลือดในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อทุติยภูมินับระยะเฉียบพลัน , paigg 8 ราย ( ราวร้อยละ paigm 17 ราย ( 68% ) ระดับหายภายในปกติช่วง ( เกล็ดเลือด 0 – 14.9 กรัม / 107 ในกรณีของ paigg ในขณะที่ 0 – 12 ng / 107 กรุงเทพมหานคร กรณี paigm )ดังนั้น ข้อมูลพบว่า ในผู้ป่วยเหล่านี้วิธีการอื่น ๆอาจเป็นหัตถการที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาภาวะเกล็ดเลือดน้อย . ผลงานของ paigg ดูเหมือนจะมากขึ้นกว่าที่ paigm induction ของแคว้นเบรอตาญ .