Control of Rhizoctonia solani dampi

Control of Rhizoctonia solani damping-off disease after soil amendment
with dry tissues of Brassica results from increase in Actinomycetes
population


This study investigated the potential use of leaf residues from Brassica rapa, Brassica napus and Brassica
juncea to control Rhizoctonia solani damping-off disease. Fungitoxicity against R. solani of volatiles and
water-soluble extracts from tested tissues were evaluated in vitro. To identify the mechanisms of disease
control, the dynamics of fungi, bacteria and Actinomycetes populations in soils, soil pH and seedling
growth were evaluated in a greenhouse. In three soils tested, amendments with B. rapa achieved the
strongest overall suppression of R. solani (96.7–100%), followed by B. napus (86.7–100%) and B. juncea
(40–100%). Brassica amendments also significantly impacted soil microbial populations. Disease incidence was strongly correlated with the ratio of Actinomycetes/fungi population in soils. Average disease
incidence in soils treated with B. rapa and B. napus amendment was less than 4% when the ratio of Actinomycetes/fungi was higher than 505.6 ± 178.2. In addition, disease suppression in greenhouse conditions was not significantly correlated with the in vitro fungitoxicity of the three Brassica species. The
amendments with B. rapa and B. napus showed moderate fungitoxicity in vitro, but achieved significant
suppression of R. solani in soil. This indicates that compounds in these two species of Brassica might regulate microbial populations to achieve long-term disease control. Results indicate that alternation of
microbial populations by B. rapa and B. napus is the main mechanism involved. The considerable phytotoxicity of these two species suggests that to maximize performance in controlling R. solani, further investigation into their selective phytotoxicity is needed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ควบคุมโรค Rhizoctonia solani ลดลงหลังจากแก้ไขดินมีเนื้อเยื่อที่แห้งของผักผลจากการเพิ่มขึ้นของ Actinomycetesประชากรการศึกษานี้ตรวจสอบอาจมีการใช้ใบไม้ตกค้างจากผักราปา napus ผัก และผักjuncea ควบคุม Rhizoctonia solani ลดเสียงรบกวนจากโรค Fungitoxicity กับ R. solani ของ volatiles และสารสกัดที่ละลายในเนื้อเยื่อที่ผ่านการทดสอบจากถูกประเมินใน ระบุกลไกของโรคควบคุม การเปลี่ยนแปลงของเชื้อรา แบคทีเรีย และประชากร Actinomycetes ในดินเนื้อปูน pH ดิน และแหล่งมีประเมินการเจริญเติบโตในเรือนกระจก ในดินเนื้อปูนสามทดสอบ แก้ไข ด้วยราปาเกิดสำเร็จการปราบปรามโดยรวมที่แข็งแกร่งของ R. solani (96.7 – 100%), ตามเกิด napus (86.7-100%) และเกิด juncea(40 – 100%) เปลี่ยนแปลงผักยังมีผลกระทบต่อประชากรจุลินทรีย์ดิน อุบัติการณ์ของโรคเป็นอย่างยิ่ง correlated กับอัตราส่วนของประชากร Actinomycetes/เชื้อ ราในดินเนื้อปูน โรคเฉลี่ยเกิดในดินเนื้อปูนรับราปาเกิดและแก้ไข napus เกิดได้น้อยกว่า 4% เมื่ออัตราส่วนของ Actinomycetes/เชื้อ ราสูงกว่า 505.6 ± 178.2 ปราบปรามโรคสภาวะเรือนกระจกได้ไม่มาก correlated กับ fungitoxicity การเพาะเลี้ยงพันธุ์ผักสาม ที่แก้ไขราปาเกิดและเกิด napus พบปานกลาง fungitoxicity เพาะเลี้ยง แต่ทำสำคัญปราบปรามของ R. solani ในดิน บ่งชี้ว่า สารพันธุ์ผักเหล่านี้สองอาจควบคุมประชากรจุลินทรีย์เพื่อควบคุมโรคระยะยาว ผลลัพธ์บ่งชี้ว่า alternation ของประชากรจุลินทรีย์ด้วยราปาเกิด napus เกิดเป็นกลไกหลักที่เกี่ยวข้อง Phytotoxicity มากพันธุ์สองแนะนำว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม R. solani เพิ่มเติมสอบสวนเป็น phytotoxicity ของใช้จำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การควบคุมของ Rhizoctonia solani โรคหมาด ๆ
ออกหลังจากปรับปรุงดินด้วยเนื้อเยื่อแห้งของผลBrassica จากการเพิ่มขึ้น Actinomycetes
ประชากรการศึกษาครั้งนี้การตรวจสอบการใช้งานของสารตกค้างที่อาจเกิดขึ้นจากใบ Brassica rapa, Brassica napus และ Brassica juncea ในการควบคุม Rhizoctonia solani โรคโรคโคนเน่า Fungitoxicity กับเชื้อรา R. solani ของสารระเหยและสารสกัดที่ละลายน้ำได้จากเนื้อเยื่อได้รับการประเมินการทดสอบในหลอดทดลอง เพื่อระบุกลไกของการเกิดโรคการควบคุมการเปลี่ยนแปลงของเชื้อราแบคทีเรียและประชากร Actinomycetes ในดินที่ค่า pH ของดินและต้นกล้าเจริญเติบโตได้รับการประเมินในเรือนกระจก ในสามดินทดสอบการแก้ไขด้วย rapa บีประสบความสำเร็จในการปราบปรามโดยรวมที่แข็งแกร่งของเชื้อราR. solani (96.7-100%) ตามด้วยบี napus (86.7-100%) และบี juncea (40-100%) แก้ไข Brassica ยังได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญประชากรของจุลินทรีย์ดิน อัตราการเกิดโรคมีความสัมพันธ์อย่างมากกับอัตราส่วนของประชากร Actinomycetes / เชื้อราในดิน โรคเฉลี่ยอัตราการเกิดในดินรับการรักษาด้วยบีบี rapa และการแก้ไข napus น้อยกว่า 4% เมื่ออัตราส่วนของ Actinomycetes / เชื้อราสูงกว่า 505.6 ± 178.2 นอกจากนี้การปราบปรามโรคในสภาพเรือนกระจกก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับในหลอดทดลอง fungitoxicity ของทั้งสามสายพันธุ์ Brassica แก้ไข rapa กับบีบี napus และแสดงให้เห็น fungitoxicity ในระดับปานกลางในหลอดทดลองอย่างมีนัยสำคัญ แต่ประสบความสำเร็จในการปราบปรามของเชื้อราR. solani ในดิน นี้บ่งชี้ว่าสารทั้งสองชนิด Brassica อาจควบคุมประชากรของจุลินทรีย์ที่จะบรรลุการควบคุมโรคในระยะยาว ผลการศึกษาพบว่าการสับเปลี่ยนของประชากรจุลินทรีย์โดย rapa บีบี napus และเป็นกลไกหลักที่เกี่ยวข้อง พิษมากของทั้งสองสายพันธุ์ที่แสดงให้เห็นว่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมเชื้อรา R. solani การสืบสวนต่อไปเป็นพิษเลือกของพวกเขาเป็นสิ่งจำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การควบคุมเชื้อราที่เกิดจากโรค หลังจากแก้ไขดิน
กับเนื้อเยื่อของผลแห้งผักเพิ่มแอคติโนมัย



นี้ประชากรศึกษาศักยภาพของตกค้างจากผักใบ rapa ผักกาดก้านขาว Brassica
จันเซีย , และการควบคุมเชื้อราที่เกิดจากโรค fungitoxicity กับ R . solani ของสารระเหยและ
น้ำสกัดจากเนื้อเยื่อ ได้แก่ ทดสอบหลอด เพื่อศึกษากลไกของโรค
ควบคุมพลวัตของเชื้อรา แบคทีเรีย และแอคติโนมัยซีสประชากรในดิน ดินและการเจริญเติบโตของต้นกล้า
ทดสอบในเรือนกระจก ในสามดินทดสอบ แก้ไข กับ พ. rapa บรรลุ
R . solani โดยรวมที่แข็งแกร่งปราบปราม ( 20 – 100 % ) รองลงมาคือ บี napus ( 867 ( 100% ) และ B . จันเซีย
( 40 - 100 % ) ผักการแก้ไขอย่างมีนัยสำคัญผลกระทบประชากรจุลินทรีย์ในดิน . การเกิดโรคมีความสัมพันธ์อย่างยิ่งกับอัตราส่วนของแอคติโนมัยซีท / ประชากรเชื้อราในดิน การเกิดโรคในดิน
เฉลี่ยได้รับการแก้ไข และ บี บี rapa napus น้อยกว่า 4 % เมื่ออัตราส่วนของแอคติโนมัยซีท / เชื้อราสูงกว่า 505.6 ± 178.2 . นอกจากนี้โรคการภาพเรือนไม่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพใน fungitoxicity ของผัก 3 ชนิด
B rapa แก้ไขและ napus พบ fungitoxicity ปานกลางในการปราบปราม แต่ความสําคัญ
R . solani ในดินพบว่า สารประกอบเหล่านี้สองชนิดของผักอาจจะควบคุมประชากรของจุลินทรีย์เพื่อให้บรรลุการควบคุมโรคระยะยาว ผลการวิจัย พบว่า ประชากรของจุลินทรีย์ โดยสลับ
B และ B rapa napus เป็นกลไกหลักที่เกี่ยวข้อง มีความเป็นพิษมากสองชนิดนี้แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม R . solani ,การสืบสวนเพิ่มเติมในเขตการเลือกของพวกเขาต้องการ