National Standards for Diabetes Sel

National Standards for Diabetes Self-Management Education and Support
Linda Haas, PHC, RN, CDE, (Chair)1, Melinda Maryniuk, MED, RD, CDE, (Chair)2, Joni Beck, PHARMD, CDE, BC-ADM3, Carla E. Cox, PHD, RD, CDE, CSSD4, Paulina Duker, MPH, RN, BC-ADM, CDE5, Laura Edwards, RN, MPA6, Edwin B. Fisher, PHD7, Lenita Hanson, MD, CDE, FACE, FACP8, Daniel Kent, PHARMD, BS, CDE9, Leslie Kolb, RN, BSN, MBA10, Sue McLaughlin, BS, RD, CDE, CPT11, Eric Orzeck, MD, FACE, CDE12, John D. Piette, PHD13, Andrew S. Rhinehart, MD, FACP, CDE14, Russell Rothman, MD, MPP15, Sara Sklaroff16, Donna Tomky, MSN, RN, C-NP, CDE, FAADE17, Gretchen Youssef, MS, RD, CDE18, on behalf of the 2012 Standards Revision Task Force
+ Author Affiliations

From the 1VA Puget Sound Health Care System Hospital and Specialty Medicine, Seattle, Washington; the
2Joslin Diabetes Center, Boston, Massachusetts;
3Pediatric Diabetes and Endocrinology, The University of Oklahoma Health Sciences Center College of Medicine, Edmond, Oklahoma; the
4Western Montana Clinic, Missoula, Montana; the
5Diabetes Education/Clinical Programs, American Diabetes Association, Alexandria, Virginia; the
6Center for Healthy North Carolina, Apex, North Carolina;
7Peers for Progress, American Academy of Family Physicians Foundation and Department of Health Behavior, Gillings School of Global Public Health, The University of North Carolina at Chapel Hill, Chapel Hill, North Carolina;
8Ultracare Endocrine and Diabetes Consultants, Venice, Florida; the
9Group Health Central Specialty Clinic, Seattle, Washington; the
10Diabetes Education Accreditation Program, American Association of Diabetes Educators, Chicago, Illinois;
11On Site Health and Wellness, LLC, Omaha, Nebraska;
12Endocrinology Associates, Main Medical Plaza, Houston, Texas; the
13VA Center for Clinical Management Research and the University of Michigan Health System, Ann Arbor, Michigan;
14Johnston Memorial Diabetes Care Center, Abingdon, Virginia; the
15Center for Health Services Research, Vanderbilt University Medical Center, Nashville, Tennessee;
16Technical Writer, Washington, DC; the
17Department of Endocrinology and Diabetes, ABQ Health Partners, Albuquerque, New Mexico; and
18MedStar Diabetes Institute/MedStar Health, Washington, DC.
Corresponding authors: Linda Haas, [e-mail], and Melinda Maryniuk, [e-mail].
By the most recent estimates, 18.8 million people in the U.S. have been diagnosed with diabetes and an additional 7 million are believed to be living with undiagnosed diabetes. At the same time, 79 million people are estimated to have blood glucose levels in the range of prediabetes or categories of increased risk for diabetes. Thus, more than 100 million Americans are at risk for developing the devastating complications of diabetes (1).

Diabetes self-management education (DSME) is a critical element of care for all people with diabetes and those at risk for developing the disease. It is necessary in order to prevent or delay the complications of diabetes (2–6) and has elements related to lifestyle changes that are also essential for individuals with prediabetes as part of efforts to prevent the disease (7,8). The National Standards for Diabetes Self-Management Education are designed to define quality DSME and support and to assist diabetes educators in providing evidence-based education and self-management support. The Standards are applicable to educators in solo practice as well as those in large multicenter programs—and everyone in between. There are many good models for the provision of diabetes education and support. The Standards do not endorse any one approach, but rather seek to delineate the commonalities among effective and excellent self-management education strategies. These are the standards used in the field for recognition and accreditation. They also serve as a guide for nonaccredited and nonrecognized providers and programs.

Because of the dynamic nature of health care and diabetes-related research, the Standards are reviewed and revised approximately every 5 years by key stakeholders and experts within the diabetes education community. In the fall of 2011, a Task Force was jointly convened by the American Association of Diabetes Educators (AADE) and the American Diabetes Association …

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาตรฐานแห่งชาติสำหรับการศึกษาการจัดการตนเองโรคเบาหวานและสนับสนุนทางลินดา PHC, RN, CDE (เก้าอี้) 1, Melinda Maryniuk เม็ด RD, CDE, (เก้าอี้) 2 ปีเบ็ค PHARMD, CDE, BC-ADM3 คาร์ลา E. ค็อกซ์ ดร. RD, CDE, CSSD4, Paulina Duker ความเร็ว RN, BC-ADM, CDE5 ลอร่าเอ็ดเวิร์ด RN, MPA6, Edwin B. Fisher, PHD7, Lenita แฮนสัน MD, CDE ใบหน้า FACP8, Daniel Kent, PHARMD, BS, CDE9 เลสลี่ Kolb, RN, BSN, MBA10, Sue แม็กลาฟลิน BS, RD, CDE, CPT11, Eric Orzeck, MD หน้า CDE12 จอห์น D. Piette, PHD13 แอนดรู S. Rhinehart, MD หิมะทองคำ CDE14 รัสเซลรอธแมน MD, MPP15, Sklaroff16 ซาร่า Donna Tomky, MSN, RN, C-NP, CDE, FAADE17, Gretchen Youssef, MS, RD, CDE18 แทน 2012 มาตรฐานปรับปรุงกิจ+ เข้าสังกัดผู้เขียนจากโรงพยาบาล 1VA Puget เสียงสุขภาพดูแลระบบและยาพิเศษ ซีแอตเทิล วอชิงตัน ที่2Joslin ศูนย์โรคเบาหวาน บอสตัน แมสซาชูเซตส์โรคเบาหวาน 3Pediatric และทันต วิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยโอคลาโฮมาศูนย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์ เอดมันด์ โอคลาโฮมา ที่4Western มอนคลินิก มิสซูลา มอนทานา ที่5Diabetes ทางคลินิก/การศึกษาโปรแกรม สมาคมโรคเบาหวานสหรัฐอเมริกา ซานเดรีย เวอร์จิเนีย ที่6Center สำหรับสุขภาพนอร์ทแคโรไลนา Apex นอร์ทแคโรไลนาสำหรับความคืบหน้า อเมริกันสถาบันมูลนิธิครอบครัวแพทย์ และกรมสุขภาพพฤติกรรม Gillings คณะสาธารณสุขส่วนกลาง ที่ทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาในชาเปลฮิลล์ ชาเปลฮิลล์ นอร์ท แคโรไลนา 7Peersไร้ท่อ 8Ultracare และที่ปรึกษาโรคเบาหวาน เวนิส ฟลอริด้า ที่คลินิกพิเศษที่เซ็นทรัล 9Group ซีแอตเทิล วอชิงตัน ที่10Diabetes ศึกษารับรอง สมาคมนักการศึกษาโรคเบาหวาน ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา11On เว็บไซต์สุขภาพและสุขภาพ LLC โอมาฮา เนบรา12Endocrinology สมาคม หลักแพทย์พลาซ่า ฮุสตัน เท็กซัส ที่ศูนย์วิจัยการจัดการทางคลินิกและระบบมหาวิทยาลัยมิชิแกนสุขภาพ Ann Arbor มิชิแกน 13VAศูนย์ดูแลโรคเบาหวาน 14Johnston เมโมเรียล Abingdon เวอร์จิเนีย ที่15Center สำหรับสุขภาพบริการวิจัย ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเวนเดอร์บิลธ์ แนชวิลล์ เทนเนสซีผู้เขียน 16Technical วอชิงตัน DC ที่17Department ทันตและโรคเบาหวาน คู่สุขภาพ ABQ รู้สึก นิวเม็กซิโก และ18MedStar สถาบันโรคเบา หวาน/MedStar สุขภาพ วอชิงตัน DCผู้เขียนที่เกี่ยวข้อง: ทางลินดา [e-mail] และ Melinda Maryniuk, [e-mail]โดยการประเมินล่าสุด 18.8 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาได้รับการวินิจฉัยกับโรคเบาหวาน และเชื่อว่าจะอยู่กับโรคเบาหวาน undiagnosed การ 7 ล้านเพิ่มเติม ในเวลาเดียวกัน มีประเมิน 79 ล้านคนเพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดในช่วง prediabetes หรือประเภทของความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับโรคเบาหวาน ดังนั้น ชาวอเมริกันกว่า 100 ล้านจะเสี่ยงสำหรับพัฒนาเรื่องภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน (1)ศึกษาการจัดการตนเองโรคเบาหวาน (DSME) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของโรคเบาหวานและผู้ที่มีความเสี่ยงในการพัฒนาโรคทุกคน มันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกัน หรือชะลอภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน (2-6) และมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่ยังจำเป็นสำหรับบุคคลที่มี prediabetes เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการป้องกันโรค (7,8) มาตรฐานแห่งชาติสำหรับการศึกษาการจัดการตนเองโรคเบาหวานถูกออกแบบมา เพื่อกำหนดคุณภาพ DSME และสนับสนุน และช่วยเหลือนักการศึกษาโรคเบาหวานตามหลักฐานการศึกษาและสนับสนุนการจัดการตนเอง มาตรฐานมีการสรรหาในฝึกคนเดียวตลอดจนในโปรแกรม multicenter ใหญ่ — และทุกคนในระหว่างการ มีหลายรูปแบบดีสำหรับเตรียมศึกษาโรคเบาหวานและสนับสนุน มาตรฐานการรับรองใด ๆ วิธีการหนึ่ง แต่แทนที่จะ พยายามไป commonalities ระหว่างกลยุทธ์การศึกษาดี และมีประสิทธิภาพจัดการตนเอง เหล่านี้เป็นมาตรฐานที่ใช้ในฟิลด์การยอมรับและรับรอง พวกเขายังทำหน้าที่เป็นคู่มือสำหรับผู้ให้บริการ nonaccredited และ nonrecognized และโปรแกรมธรรมชาติแบบไดนามิกของการดูแลสุขภาพและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน มาตรฐานจะตรวจทาน และแก้ไขประมาณทุก 5 ปี โดยเสียหลักและผู้เชี่ยวชาญภายในชุมชนศึกษาโรคเบาหวาน ในฤดูใบไม้ร่วง 2011 แรงงานร่วมกันสามารถแต่อเมริกาความสัมพันธ์ของโรคเบาหวานความ (AADE) และสมาคมโรคเบาหวานสหรัฐอเมริกา...

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มาตรฐานแห่งชาติสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานการจัดการตนเองและการสนับสนุน
ลินดาฮา PHC, RN, CDE (ประธาน) 1, เมลินดา Maryniuk, MED, RD, CDE (ประธาน) 2, โจเบ็ค PharmD, CDE, BC-ADM3 คาร์ล่า อี Cox, PhD, RD, CDE, CSSD4, Paulina Duker, MPH, RN, BC-ADM, CDE5 ลอร่าเอ็ดเวิร์ดส์, RN, MPA6 เอ็ดวินบีฟิชเชอร์, PHD7, Lenita แฮนสัน, MD, CDE ใบหน้า FACP8, แดเนียลเคนท์ PharmD, BS, CDE9 เลสลี่คอล์บ RN, BSN, MBA10 ซูกิ้น, BS, RD, CDE, CPT11 เอริค Orzeck, MD, FACE, CDE12, จอห์นดี Piette, phd13, แอนดรูเอ Rhinehart, MD, FACP, CDE14 รัสเซลรอ ธ แมน, MD, MPP15 ซาร่า Sklaroff16 เอก Tomky, MSN, RN, C-NP, CDE, FAADE17 เกร็ตเซฟ, MS, RD, CDE18 ในนามของ 2012 มาตรฐาน Revision Task Force
+ บริษัท ในเครือผู้เขียนจาก 1VA พูเจ็ตการดูแลสุขภาพโรงพยาบาลและระบบพิเศษแพทย์, ซีแอตเติลวอชิงตัน; 2Joslin โรคเบาหวานศูนย์บอสตัน, แมสซาชูเซต3Pediatric โรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อ, มหาวิทยาลัยโอคลาโฮวิทยาลัยศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพแพทยศาสตร์ Edmond,; 4Western Montana คลินิก, Missoula; 5Diabetes การศึกษา / โปรแกรมคลินิก, สมาคมโรคเบาหวานอเมริกัน, ซานเดรียเวอร์จิเนีย; 6Center สำหรับสุขภาพอร์ทแคโรไลนา, เอเพ็กซ์, อร์ทแคโรไลนา; 7Peers สำหรับความคืบหน้า, American Academy of ครอบครัวแพทย์และมูลนิธิกรมพฤติกรรมสุขภาพ, Gillings โรงเรียนทั่วโลกสาธารณสุข University of North Carolina ที่ Chapel Hill, Chapel Hill, อร์ทแคโรไลนา; 8Ultracare ต่อมไร้ท่อและเบาหวานที่ปรึกษา, เวนิซ, ฟลอริด้า; 9Group สุขภาพกลางพิเศษคลินิกซีแอตเติลวอชิงตัน; 10Diabetes การศึกษาหลักสูตรอเมริกันสมาคมโรคเบาหวานการศึกษาชิคาโกอิลลินอยส์; 11 โดยเว็บไซต์สุขภาพและสุขภาพ, LLC, โอมาฮา, เนบราสก้า; 12Endocrinology ร่วมงานหลักแพทย์พลาซ่า, ฮูสตัน, เท็กซัส; ศูนย์ 13VA เพื่อการวิจัยทางคลินิกและการบริหารจัดการมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบบสุขภาพ, Ann Arbor บน; 14Johnston อนุสรณ์โรคเบาหวานศูนย์ดูแล Abingdon เวอร์จิเนีย; 15Center สำหรับบริการสุขภาพวิจัย Vanderbilt ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย, แนชวิลล์; 16Technical นักเขียน, วอชิงตันดีซี; 17Department ของต่อมไร้ท่อและเบาหวาน ABQ พันธมิตรสุขภาพรัฐนิวเม็กซิโก; และ18MedStar สถาบันโรคเบาหวาน / MedStar สุขภาพ, Washington, DC. ผู้เขียนสอดคล้องกัน. ลินดาฮา [e-mail] และเมลินดา Maryniuk, [e-mail] โดยประมาณการล่าสุด 18.8 ล้านคนใน สหรัฐได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานและอีก 7 ล้านบาทเชื่อว่าจะมีชีวิตอยู่กับโรคเบาหวาน undiagnosed ในเวลาเดียวกัน, 79 ล้านคนคาดว่าจะมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในช่วงของ prediabetes หรือประเภทของความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ดังนั้นกว่า 100 ล้านคนอเมริกันที่มีความเสี่ยงในการพัฒนาภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงของโรคเบาหวาน (1). การศึกษาโรคเบาหวานการจัดการตนเอง (DSME) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการดูแลสำหรับทุกคนที่เป็นโรคเบาหวานและผู้ที่มีความเสี่ยงในการพัฒนาโรค มันเป็นสิ่งจำเป็นในการที่จะป้องกันหรือชะลอภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน (2-6) และมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่ยังมีส่วนสำคัญสำหรับบุคคลที่มี prediabetes เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะป้องกันโรค (7,8) มาตรฐานแห่งชาติเพื่อการศึกษาการจัดการตนเองโรคเบาหวานได้รับการออกแบบเพื่อกำหนด DSME ที่มีคุณภาพและให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือการศึกษาโรคเบาหวานในการให้การศึกษาตามหลักฐานและการสนับสนุนการจัดการตนเอง มาตรฐานมีผลบังคับใช้กับการศึกษาในทางปฏิบัติเดี่ยวเช่นเดียวกับผู้ที่อยู่ในโปรแกรม multicenter ขนาดใหญ่และทุกคนในระหว่าง มีรูปแบบที่ดีมากสำหรับการให้การศึกษาและการสนับสนุนที่มีโรคเบาหวาน มาตรฐานไม่รับรองวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่พยายามที่จะวิเคราะห์ในหมู่ชนที่มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมและการศึกษากลยุทธ์การจัดการตนเอง เหล่านี้เป็นมาตรฐานที่ใช้ในด้านการรับรู้และการรับรอง นอกจากนี้ยังใช้เป็นคู่มือสำหรับผู้ให้บริการ nonaccredited และ nonrecognized และโปรแกรม. เพราะลักษณะของการดูแลสุขภาพและการวิจัยโรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานมีการทบทวนและปรับปรุงประมาณทุก 5 ปีโดยผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญและผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเบาหวานภายในชุมชนเพื่อการศึกษา ในฤดูใบไม้ร่วง 2011, Task Force ได้รับการประชุมร่วมกันโดยสมาคมอเมริกันของการศึกษาโรคเบาหวาน (AADE) และสมาคมโรคเบาหวานอเมริกัน ...

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาตรฐานแห่งชาติสำหรับโรคเบาหวานด้วยตนเอง บริหารการศึกษาและการสนับสนุน
รฮาสลินดา , , RN , CDE ( เก้าอี้ ) 1 เม maryniuk , Med , RD , CDE ( เก้าอี้ ) 2 , โจนี่ เบค pharmd CDE , bc-adm3 คาร์ลา , E . Cox , ปริญญาเอก , RD , CDE cssd4 พอลลีน่า duker mph , , , , RN , bc-adm cde5 , ลอร่า , เอ็ดเวิร์ด , RN , mpa6 เอ็ดวิน บี ฟิชเชอร์ phd7 lenita แฮนสัน , MD , CDE , ใบหน้า , facp8 แดเนียล เคนท์ pharmd , BS , cde9 เลสลี่ คอล์บ , RN BSN mba10 , , ,ฟ้องกิ้น , BS , RD , CDE cpt11 , อีริค orzeck , MD , ใบหน้า , cde12 John D . piette phd13 Andrew S . , ไรน์ฮาร์ท , MD , facp cde14 รัสเซล , เดิน , MD , mpp15 ซาร่า sklaroff16 ดอนน่า tomky , MSN , RN , c-np CDE , faade17 , เกรทเช่น 30 , MS , ถนน cde18 ในนามของ 2012 มาตรฐานแรงงานสัมพันธ์ การแก้ไขผู้เขียน


จาก 1va puget เสียงระบบการดูแลสุขภาพของโรงพยาบาลและแพทย์เฉพาะทางซีแอตเทิล , วอชิงตัน ;
2joslin โรคเบาหวานศูนย์ , Boston , Massachusetts ;
3pediatric โรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อ มหาวิทยาลัยโอคลาโฮมาศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยเอ็ดมันด์ , โอคลาโฮมา ;
4western มิสซูลามอนแทนา , คลินิก , มอนแทนา ;
5diabetes การศึกษาทางคลินิกโปรแกรม , สมาคมโรคเบาหวานอเมริกัน
6center อเล็กซานเดรีย , เวอร์จิเนีย สำหรับ Carolina North สุขภาพเอเพ็กซ์ ,นอร์ทแคโรไลนา ;
7peers สำหรับความคืบหน้าของสถาบันแพทย์ครอบครัวมูลนิธิและกรมสุขภาพอเมริกัน gillings โรงเรียนทั่วโลก สาธารณสุข มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา แชเปิลฮิลล์ , โบสถ์ Hill , North Carolina ;
8ultracare ต่อมไร้ท่อและที่ปรึกษา โรคเบาหวาน เวนิส , ฟลอริด้า ;
9group สุขภาพกลางพิเศษคลินิก , ซีแอตเติล , วอชิงตัน ;
โปรแกรมการรับรองการศึกษา 10diabetes , อเมริกันสมาคมนักการศึกษาโรคเบาหวาน Chicago , Illinois ;
11on เว็บไซต์สุขภาพและสุขภาพ , LLC , Omaha , Nebraska ;
12endocrinology Associates , หลักทางการแพทย์ พลาซ่า , ฮูสตัน , เท็กซัส ;
13va ศูนย์วิจัยทางคลินิกและการบริหารมหาวิทยาลัยระบบสุขภาพ , Michigan ที่ Ann Arbor มิชิแกน ;
14johnston อนุสรณ์ โรคเบาหวานดูแลศูนย์ Abingdon , ,เวอร์จิเนีย ;
15center สำหรับการวิจัยบริการสุขภาพ มหาวิทยาลัย Vanderbilt ศูนย์การแพทย์ , แนชวิลล์ , เทนเนสซี ;
16technical นักเขียน , Washington , DC ;
17department ของต่อมไร้ท่อและเบาหวาน , สุขภาพ abq พันธมิตร , Albuquerque , นิวเม็กซิโก และสถาบันโรคเบาหวาน /
18medstar medstar สุขภาพ , Washington , DC .
เขียน : ลินดา ฮาสสอดคล้องกัน , [e-mail] และเมลินดา maryniuk เมลินดาmaryniuk @ Joslin . ฮาร์วาร์ด . edu .
จากประมาณการล่าสุด , 18.8 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาได้รับการวินิจฉัยกับโรคเบาหวาน และอีก 7 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถมีชีวิตอยู่กับโรคเบาหวาน undiagnosed . ในเวลาเดียวกัน , 79 ล้านคนคาดว่าจะมีระดับน้ำตาลในเลือด ในช่วงของกลุ่มเสี่ยงหรือประเภทของความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับโรคเบาหวาน ดังนั้นมากกว่า 100 ล้านคนอเมริกันมีความเสี่ยงของการพัฒนาภาวะแทรกซ้อนรุนแรงของโรคเบาหวาน ( 1 )

โรคเบาหวานการจัดการการศึกษา ( DSME ) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการดูแลคนทั้งหมดด้วยโรคเบาหวานและความเสี่ยงในการพัฒนาโรคมันเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อป้องกันหรือชะลอภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ( 2 – 6 ) และมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่จำเป็นสำหรับบุคคลกลุ่มเสี่ยงยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เกิดโรค ( 7 , 8 )มาตรฐานแห่งชาติสำหรับการศึกษาการจัดการตนเอง โรคเบาหวาน ถูกออกแบบมาเพื่อกำหนด DSME คุณภาพและการสนับสนุนและช่วยให้นักการศึกษาโรคเบาหวานในการให้หลักฐานการศึกษาและสนับสนุนการจัดการตนเอง มาตรฐานที่ใช้กับนักการศึกษาเดี่ยวในการปฏิบัติ ตลอดจนในโปรแกรมสหขนาดใหญ่และทุกคนในระหว่างมีรุ่นที่ดีมากสำหรับการให้การศึกษาโรคเบาหวานและการสนับสนุน มาตรฐานไม่สนับสนุนวิธีการใด แต่ขออธิบายสามัญชนในที่มีประสิทธิภาพและกลยุทธ์การศึกษาการจัดการตนเองได้อย่างยอดเยี่ยม เหล่านี้เป็นมาตรฐานที่ใช้ในเขตข้อมูลสำหรับการยอมรับและได้รับการรับรองพวกเขายังใช้เป็นคู่มือสำหรับ nonaccredited และ nonrecognized ผู้ให้บริการและโปรแกรม

เนื่องจากลักษณะแบบไดนามิกของการดูแลสุขภาพและโรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยมาตรฐานการทบทวนประมาณทุก 5 ปี โดยผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญและผู้เชี่ยวชาญภายในชุมชนการศึกษาโรคเบาหวาน ในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2554คณะทำงานมีการประชุมร่วมกันโดยสมาคมอเมริกันของนักการศึกษาโรคเบาหวาน ( aade ) และสมาคมโรคเบาหวานอเมริกัน . . . . . . .