1. Lesser work loadWe all know that

1. Lesser work load
We all know that government jobs have the minimum work load as well as provide a lot of comforts as compared to private jobs. Not only this, there are no over- times as well as extra weekends required as well. A government employee knows exactly which days he is going to work and for how long, hence providing a more relaxed as well as satisfactory life style.

2. Fixed holidays and vacations
Probably one of the best perks of working in the government sector is that you do not have to argue for going on holidays and for taking leaves. There are fixed holidays per year and no matter what; you are entitled to take advantage of them. Not only this, all the government- declared holidays will also be provided to you.

3. Job security/ stability
Government jobs are not affected by a poor economy. There is very little chance that any government employee will ever lose his/ her job. In most of the cases, the job is retained until the individual is eligible for retiring. Employees in government offices have a fixed income during their entire term and the job security is also retained till the end.

4. Pensions and other benefits
Government employees are known to be getting a lot of attractive as well as life- long benefits from the government of our country. Most commonly, they are provided with life- long health care, pensions, housing facilities as well as provident funds. There are many sites to find government jobs like



1. Shorter decision making procedures
The government sector is known for taking a lot of time in making decisions about new recruitments, while the private sector functions much faster.

2. No permanent income scale
This is probably the best advantage of a private job. While working in the private sector, you can surely climb the ladders of success as per your ability and thus your income will also get enhanced over time. On the other hand, there is a definite pay scale for each post in the government sector.

3. Target- driven jobs
The jobs and opportunities in the private sector are target- driven, which means that there are certain goals to be fulfilled by each employee, while there is no such restriction in the case of a government job.

4. Greater scope of growth
Because there is no restriction on the position at which an employee can reach, there is more scope of growth and development in the private sector.
After taking a look at both the sides of this situation, selecting between the two may be a tough decision. The choices can vary from person to person, depending on their needs, background, future goals and so on.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. น้อยกว่าปริมาณงานเรารู้ว่า งานรัฐบาลมีภาระงานขั้นต่ำเป็นทางของธุรกิจเมื่อเทียบกับงานส่วนตัว ไม่เพียงเท่านี้ มีไม่เกินเวลาเป็นวันหยุดพิเศษที่จำเป็นเช่นกัน ราชการทราบว่าวันที่เขาไปทำงาน และวิธีนาน ดังนั้นให้ผ่อนคลายรวมทั้งวิถีชีวิตที่น่าพอใจมากขึ้น2. คงวันหยุดอาจหนึ่งของ perks ที่สุดของการทำงานในภาครัฐบาลจะว่า คุณไม่มีเถียงไปในวันหยุด และทำใบไม้ มีวันหยุดคงที่ต่อปีและไม่ว่าอะไร คุณมีสิทธิการใช้ประโยชน์จากพวกเขา ไม่เพียงเท่านี้ ทั้งหมดรัฐบาล - ประกาศวันหยุดจะได้ให้คุณ 3. งานรักษาความปลอดภัย / ความมั่นคงงานรัฐบาลจะไม่รับผลกระทบจากเศรษฐกิจไม่ดี มีโอกาสน้อยมากที่ว่า พนักงานที่รัฐบาลจะเคยสูญเสียงานของเขา / เธอ ในที่สุดกรณี งานถูกเก็บไว้จนกว่าบุคคลมีสิทธิออก พนักงานราชการมีรายได้ถาวรระหว่างวาระทั้งหมด และยังมีรักษาความปลอดภัยงานจนจบ4. ชีพ และสวัสดิการอื่น ๆพนักงานราชการทราบว่าจะได้รับจำนวนมากสนใจและลองชีวิตประโยชน์จากรัฐบาลของประเทศเรา บ่อยที่สุด พวกเขาจะมีชีวิตยาวสุขภาพ ชีพ ที่อยู่อาศัย แก่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีหลายเว็บไซต์หางานของรัฐบาลเช่น 1. ขั้นตอนการตัดสินใจสั้นภาครัฐบาลมีชื่อเสียงที่สละเวลาในการตัดสินใจเกี่ยวกับ recruitments ใหม่ ในขณะที่ฟังก์ชันภาคเอกชนเร็วมาก2. ไม่มีอัตรารายได้ถาวรนี้คงเป็นประโยชน์จากงานส่วนตัว ในขณะที่ทำงานในภาคเอกชน นอกจากนี้คุณก็สามารถปีนบันไดความสำเร็จตามความสามารถของคุณ และดังนั้น รายได้ของคุณจะได้รับเพิ่มเติมเวลา บนมืออื่น ๆ มีอัตราค่าจ้างแน่นอนสำหรับแต่ละบทในภาครัฐบาล3. เป้าหมาย - ขับเคลื่อนงานงานและโอกาสในภาคเอกชนได้เป้าหมาย-ขับเคลื่อน ซึ่งหมายความว่า มีการกำหนดเป้าหมายการปฏิบัติ โดยพนักงานแต่ละคน ในขณะที่มีไม่มีข้อจำกัดเช่นในกรณีของงานรัฐบาล4. มากกว่าขอบเขตของการเจริญเติบโตเพราะไม่มีข้อจำกัดในตำแหน่งที่พนักงานสามารถเข้าถึงได้ มีขอบเขตมากกว่าการเจริญเติบโตและพัฒนาในภาคเอกชน หลังจากทั้งสองด้านของสถานการณ์นี้ เลือกระหว่างทั้งสองได้ตัดสินใจที่ยาก ตัวเลือกอาจแตกต่างกันจากคนสู่คน ขึ้นอยู่กับความต้องการของพวกเขา พื้นหลัง เป้าหมายในอนาคตและ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1.
ภาระงานน้อยเรารู้ว่างานของรัฐบาลมีภาระงานขั้นต่ำรวมทั้งให้ความสะดวกสบายจำนวนมากเมื่อเทียบกับงานส่วนตัว ไม่เพียงแค่นี้ไม่มีครั้งเกินเช่นเดียวกับวันหยุดสุดสัปดาห์พิเศษที่จำเป็นเช่นกัน พนักงานที่รัฐบาลรู้ว่าวันที่เขาจะไปทำงานและนานเท่าไหร่จึงให้ผ่อนคลายมากขึ้นเช่นเดียวกับวิถีชีวิตที่น่าพอใจ. 2 วันหยุดและวันหยุดพักผ่อนคงที่อาจเป็นหนึ่งในผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของการทำงานในหน่วยงานภาครัฐคือการที่คุณจะได้ไม่ต้องให้เหตุผลสำหรับการไปในวันหยุดและสำหรับการถ่ายใบ มีวันหยุดคงที่ต่อปีและไม่ว่าสิ่ง; คุณมีสิทธิที่จะใช้ประโยชน์จากพวกเขา ไม่เพียงแค่นี้ทั้งหมดที่รัฐบาลประกาศวันหยุดนอกจากนี้ยังจะมีให้กับคุณ. 3 รักษาความปลอดภัยงาน / ความมั่นคงงานรัฐบาลจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี มีโอกาสน้อยมากที่พนักงานของรัฐใด ๆ ที่เคยจะสูญเสีย / งานของเขาและเธอ ในส่วนของกรณีที่งานจะถูกเก็บไว้จนบุคคลที่มีสิทธิได้รับเกษียณ พนักงานในหน่วยงานภาครัฐมีรายได้คงที่ในช่วงระยะเวลาทั้งหมดของพวกเขาและการรักษาความปลอดภัยงานจะยังคงอยู่จนจบ. 4 เงินบำนาญและผลประโยชน์อื่น ๆพนักงานรัฐบาลเป็นที่รู้จักกันจะได้รับเป็นจำนวนมากที่น่าสนใจเช่นเดียวกับผลประโยชน์ระยะชีวิตจากรัฐบาลของประเทศของเรา มากที่สุดที่พวกเขามีให้กับชีวิตการดูแลสุขภาพในระยะบำนาญสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่อาศัยเช่นเดียวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีเว็บไซต์จำนวนมากที่จะหางานภาครัฐเช่น1 การตัดสินใจที่สั้นกว่าการทำขั้นตอนภาครัฐบาลเป็นที่รู้จักกันสำหรับการสละเวลามากในการตัดสินใจเกี่ยวกับการคัดเลือกใหม่ในขณะที่ฟังก์ชั่นภาคเอกชนได้เร็วขึ้นมาก. 2 ไม่มีรายได้ถาวรขนาดนี้น่าจะเป็นประโยชน์ที่ดีที่สุดของงานส่วนตัว ขณะที่การทำงานในภาคเอกชนคุณก็สามารถปีนบันไดแห่งความสำเร็จตามความสามารถของคุณและทำให้รายได้ของคุณยังจะได้รับเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป บนมืออื่น ๆ ที่มีค่าจ้างที่แน่นอนสำหรับการโพสต์ในแต่ละภาครัฐ. 3 Target- ขับเคลื่อนงานงานและโอกาสในภาคเอกชนจะtarget- ขับเคลื่อนซึ่งหมายความว่ามีเป้าหมายบางอย่างที่จะปฏิบัติตามโดยพนักงานแต่ละคนในขณะที่ไม่มีข้อ จำกัด เช่นในกรณีของงานรัฐบาล. 4 ขอบเขตการเติบโตมากขึ้นเนื่องจากมีข้อ จำกัด ในตำแหน่งที่พนักงานสามารถเข้าถึงมีขอบเขตมากขึ้นของการเจริญเติบโตและการพัฒนาในภาคเอกชน. หลังจากการดูที่ทั้งสองด้านของสถานการณ์เช่นนี้การเลือกระหว่างสองอาจจะเป็น ตัดสินใจที่ยากลำบาก เลือกที่จะแตกต่างจากคนสู่คนขึ้นอยู่กับความต้องการของพวกเขา, พื้นหลัง, เป้าหมายในอนาคตและอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . น้อยกว่าภาระงาน
เราทั้งหมดทราบว่า งานของรัฐบาลมีภาระงานขั้นต่ำ รวมทั้งให้มากของความสะดวกสบายเมื่อเทียบกับงานเอกชน ไม่เพียง แต่นี้ไม่เกินเวลา รวมทั้งวันหยุดพิเศษที่จำเป็นเช่นกัน คนของรัฐบาลรู้ว่าวันใดเขาจะไปทำงาน และนานเท่าไหร่จึงให้ผ่อนคลายมากขึ้นเช่นเดียวกับรูปแบบชีวิตที่น่าพอใจ

2กำหนดวันหยุดและวันหยุดพักผ่อน
อาจเป็นหนึ่งในดีที่สุดประโยชน์ของการทำงานในภาครัฐคือ ว่า คุณไม่ต้องโต้เถียงกันในวันหยุด และรับใบ มีการกำหนดวันหยุดต่อปี และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณมีสิทธิที่จะใช้ประโยชน์จากพวกเขา ไม่เพียง แต่นี้ รัฐบาลประกาศวันหยุดจะถูกจัดเตรียมไว้ให้คุณ

3 งานรักษาความปลอดภัย / เสถียรภาพ
งานของรัฐบาลจะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ไม่ดี มันมีโอกาสน้อยมากที่รัฐบาลใด ๆ พนักงานจะสูญเสียงานของเขา / เธอ ในส่วนใหญ่ของกรณี งานจะยังคงอยู่จนกว่าบุคคลมีสิทธิที่จะเกษียณ พนักงานข้าราชการมีรายได้คงที่ในช่วงระยะเวลาของพวกเขาทั้งหมดและงานความมั่นคง ยังเก็บไว้จนจบ

4 .
เงินบำนาญและผลประโยชน์อื่น ๆพนักงานของรัฐเป็นที่รู้จักกันจะได้รับมากของที่น่าสนใจ รวมทั้งชีวิต - ประโยชน์จากรัฐบาลของประเทศของเรา มากที่สุด พวกเขามีให้กับชีวิต - การดูแลสุขภาพระยะยาวบํานาญ , เครื่องที่อยู่อาศัยเช่นเดียวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย มีหลายไซต์เพื่อหารัฐบาลงานชอบ



1 การตัดสินใจขั้นตอน
สั้นรัฐบาลเป็นที่รู้จักกันสำหรับการสละเวลาในการตัดสินใจเกี่ยวกับการ recruitments ใหม่ ในขณะที่ภาคเอกชนมาก ฟังก์ชั่น เร็ว

2 ไม่มีแบบรายได้ถาวร
นี้อาจเป็นประโยชน์ที่ดีที่สุดของงานส่วนตัว ในขณะที่ทำงานในภาคเอกชน คุณย่อมสามารถปีนบันไดของความสำเร็จตามความสามารถของคุณ และดังนั้น รายได้ของคุณก็จะเพิ่มขึ้นตลอดเวลาบนมืออื่น ๆมีขนาดจ่ายแน่นอนสำหรับแต่ละโพสต์ในรัฐบาล

3 เป้าหมาย - ขับเคลื่อนงาน
งานและโอกาสในภาคเอกชนมีเป้าหมายในการขับเคลื่อน ซึ่งหมายถึงว่ามีเป้าหมายบางอย่างที่จะปฏิบัติตามที่พนักงานแต่ละคน ในขณะที่ไม่มีการ จำกัด ในกรณีของงานรัฐบาล

4 . ขอบเขตของการเจริญเติบโต
มากขึ้นเพราะไม่มีข้อ จำกัด ในตำแหน่งที่พนักงานสามารถเข้าถึง มีขอบเขตมากขึ้นของการเจริญเติบโตและการพัฒนาในภาคธุรกิจเอกชน
หลังจากการดูทั้งสองด้านของสถานการณ์นี้ เลือกระหว่างสองอาจจะตัดสินใจยาก ทางเลือกที่สามารถแตกต่างกันจากคนสู่คน ขึ้นอยู่กับความต้องการของพวกเขา , พื้นหลัง , เป้าหมายในอนาคตและ