AbstractThe relationship between di

Abstract
The relationship between diet and the formation of renal stones is demonstrated, but restrictive diets do not take into account the complexity of metabolism and the complex mechanisms that regulate the saturation and crystallization processes in the urine. The restriction of dietary calcium can reduce the urinary excretion of calcium but severe dietary restriction of calcium causes hyperoxaluria and a progressive loss of bone mineral component. Furthermore urinary calcium excretion is influenced by other nutrients than calcium as sodium, potassium, protein and refined carbohydrates. Up to 40% of the daily excretion of oxalate in the urine is from dietary source, but oxalate absorption in the intestine depends linearly on the concomitant dietary intake of calcium and is influenced by the bacterial degradation by several bacterial species of intestinal flora. A more rational approach should be based on the cumulative effects of foods and different dietary patterns on urinary saturation rather than on the effect of single nutrients. A diet based on a adequate intake of calcium (1000-1200 mg per day) and containment of animal protein and salt can decrease significantly urinary supersaturation for calcium oxalate and reduce the relative risk of stone recurrence in hypercalciuric renal stone formers. The DASH-style diet that is high in fruits and vegetables, moderate in low-fat dairy products and low in animal proteins and salt is associated with a lower relative supersaturation for calcium oxalate and a marked decrease in risk of incident stone formation. All the diets above mentioned have as a common characteristic the reduction of the potential acid load of the diet that can be correlated with a higher risk of recurrent nephrolithiasis, because the acid load of diet is inversely related to urinary citrate excretion. The restriction of protein and salt with an adequate calcium intake seem to be advisable but should be implemented with the advice to increase the intake of vegetables that can carry a plentiful supply of alkali that counteract the acid load coming from animal protein. New prospective studies to evaluate the effectiveness of the diet for the prevention of renal stones should be oriented to simple dietary advices that should be focused on a few specific goals easily controlled by means of self-evaluation tools, such as the LAKE food screener.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นามธรรม
แสดงความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและการก่อตัวของหินไต แต่จำกัดอาหารไม่คำนึงถึงความซับซ้อนของการเผาผลาญและกลไกที่ควบคุมกระบวนการอิ่มตัวและตกผลึกในปัสสาวะซับซ้อน ข้อจำกัดของอาหารแคลเซียมสามารถลดการขับถ่ายท่อปัสสาวะของแคลเซียม แต่จำกัดอาหารอย่างรุนแรงของแคลเซียมทำให้เกิด hyperoxaluria และขาดทุนก้าวหน้าของส่วนประกอบแร่ธาตุของกระดูก นอกจากนี้ การขับถ่ายแคลเซียมที่ท่อปัสสาวะได้รับอิทธิพลจากสารอาหารอื่น ๆ กว่าแคลเซียมโซเดียม โปแตสเซียม โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตกลั่น ถึง 40% ของการขับถ่ายทุกวันของออกซาเลตในปัสสาวะมาจากแหล่งอาหาร แต่ขึ้นอยู่กับเชิงเส้นการบริโภคอาหารที่มั่นใจของแคลเซียมดูดซึมออกซาเลตในลำไส้ และมีผลต่อ โดยการย่อยสลายแบคทีเรียหลายชนิดแบคทีเรียพืชลำไส้ ควรจะใช้วิธีเชือดมากกับสะสมผลของอาหารและรูปแบบอาหาร ในท่อปัสสาวะเข้ม มากกว่าผลของสารอาหารเดี่ยว อาหารตามปริมาณที่เพียงพอของแคลเซียม (1000-1200 มิลลิกรัมต่อวัน) และหากโปรตีนสัตว์และเกลือสามารถลด supersaturation ท่อปัสสาวะอย่างมีนัยสำคัญสำหรับแคลเซียมออกซาเลต และลดความเสี่ยงสัมพัทธ์ของหินเกิดใน formers หินไต hypercalciuric อาหารลักษณะเส้นประในผลไม้และผัก ในผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำปานกลาง และต่ำในสัตว์โปรตีนและเกลือจะสัมพันธ์กับ supersaturation สัมพัทธ์ที่ต่ำแคลเซียมออกซาเลตและการทำเครื่องหมายไว้ลดความเสี่ยงของเหตุการณ์หินก่อ ทั้งหมดอาหารข้างต้นดังกล่าวมีเป็นลักษณะทั่วไปการลดโหลดกรดมีศักยภาพของอาหารที่สามารถ correlated มีความเสี่ยงสูงของ nephrolithiasis เกิดซ้ำ เนื่องจากปริมาณกรดของอาหารที่มีการขับถ่ายซิเต inversely ที่เกี่ยวข้องกับท่อปัสสาวะ ข้อจำกัดของโปรตีนและเกลือกับการบริโภคแคลเซียมเพียงพอดูเหมือนจะแนะนำ แต่ควรดำเนินการพร้อมกับคำแนะนำเพื่อเพิ่มการบริโภคผักที่สามารถดำเนินการจัดหาโต๊ะของด่างที่ถอนโหลดกรดที่มาจากโปรตีนสัตว์ การศึกษาอนาคตใหม่เพื่อประเมินประสิทธิภาพของอาหารสำหรับป้องกันหินไตควรวางให้ใบแจ้งอาหารอย่างที่ควรจะมุ่งเน้นในเป้าหมายเฉพาะกี่ที่ควบคุมได้ง่ายโดยใช้เครื่องมือประเมินตนเอง เช่นโปรเจคอาหารเล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
ความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและการก่อตัวของก้อนนิ่วในไตจะแสดงให้เห็น แต่อาหารที่เข้มงวดไม่คำนึงถึงความซับซ้อนของการเผาผลาญอาหารและกลไกที่ซับซ้อนที่ควบคุมความอิ่มตัวและการตกผลึกกระบวนการในปัสสาวะ ข้อ จำกัด ของแคลเซียมในอาหารสามารถลดการขับถ่ายปัสสาวะของแคลเซียม แต่ข้อ จำกัด อาหารอย่างรุนแรงของแคลเซียมทำให้เกิด hyperoxaluria และการสูญเสียความก้าวหน้าของส่วนประกอบของกระดูก นอกจากการขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะได้รับอิทธิพลจากสารอาหารอื่น ๆ กว่าแคลเซียมโซเดียมโพแทสเซียมโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตกลั่น ได้ถึง 40% ของการขับถ่ายในชีวิตประจำวันของออกซาเลตในปัสสาวะจากแหล่งอาหาร แต่การดูดซึมออกซาเลตในลำไส้ขึ้นอยู่เส้นตรงกับการบริโภคอาหารด้วยกันของแคลเซียมและได้รับอิทธิพลจากการย่อยสลายของแบคทีเรียสายพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรียหลายลำไส้ วิธีการที่มีเหตุผลมากขึ้นควรจะอยู่บนพื้นฐานของผลกระทบสะสมของอาหารและรูปแบบอาหารที่แตกต่างกันในความอิ่มตัวของปัสสาวะมากกว่าที่จะเกี่ยวกับผลกระทบของสารอาหารเดียว อาหารขึ้นอยู่กับปริมาณที่เพียงพอของแคลเซียม (1000-1200 มิลลิกรัมต่อวัน) และบรรจุของโปรตีนจากสัตว์และเกลือสามารถลด supersaturation ปัสสาวะอย่างมีนัยสำคัญสำหรับแคลเซียมออกซาเลตและลดความเสี่ยงของการเกิดซ้ำของหินใน hypercalciuric ป่วยโรคนิ่วไต อาหารสไตล์ DASH ที่สูงในผักและผลไม้ในระดับปานกลางในไขมันต่ำผลิตภัณฑ์จากนมและต่ำในโปรตีนจากสัตว์และเกลือมีความสัมพันธ์กับญาติ supersaturation ต่ำกว่าสำหรับแคลเซียมออกซาเลตและลดลงการทำเครื่องหมายในความเสี่ยงของการก่อหินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งหมดอาหารดังกล่าวข้างต้นได้เป็นลักษณะที่พบการลดลงของปริมาณกรดที่มีศักยภาพของอาหารที่สามารถมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูงขึ้นของ nephrolithiasis กำเริบเพราะโหลดกรดของอาหารมีความสัมพันธ์ผกผันกับการขับถ่ายปัสสาวะซิเตรต ข้อ จำกัด ของโปรตีนและเกลือที่มีปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอดูเหมือนจะแนะนำให้เลือก แต่ควรจะนำมาใช้กับคำแนะนำในการเพิ่มปริมาณของผักที่สามารถนำแหล่งอุดมสมบูรณ์ของอัลคาไลน์ที่ต่อต้านการโหลดกรดที่มาจากโปรตีนจากสัตว์ การศึกษาที่คาดหวังใหม่ในการประเมินประสิทธิภาพของอาหารเพื่อการป้องกันของหินไตควรจะมุ่งเน้นไปยังคำแนะนำอาหารง่ายๆที่ควรจะมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงไม่กี่ควบคุมได้อย่างง่ายดายโดยใช้เครื่องมือการประเมินตนเองเช่น Screener อาหาร LAKE

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
ความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและการก่อตัวของหินไตเป็นจำนวน แต่จำกัดอาหารไม่พิจารณาความซับซ้อนของเมแทบอลิซึม และกลไกที่ควบคุมกระบวนการอิ่มตัวและตกผลึกในปัสสาวะการจำกัดอาหารแคลเซียมสามารถลดการขับถ่ายปัสสาวะของแคลเซียม แต่ข้อ จำกัด อาหารที่รุนแรงของแคลเซียมทำให้เกิด hyperoxaluria และการสูญเสียความก้าวหน้าของส่วนประกอบของแร่กระดูก . นอกจากนี้แคลเซียมในปัสสาวะ การขับถ่ายเป็นอิทธิพลจากสารอาหารอื่น ๆ มากกว่า แคลเซียม โซเดียม โพแทสเซียม โปรตีนและการกลั่นคาร์โบไฮเดรตถึง 40% ของทุกวัน การขับถ่ายออกซาเลตในปัสสาวะจากแหล่งอาหาร แต่การดูดซึมออกซาเลตในลำไส้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักในการบริโภคอาหารของผู้ป่วยของแคลเซียมและได้รับอิทธิพลจากการย่อยสลายโดยแบคทีเรียในลำไส้ แบคทีเรียชนิดต่างๆของพืชเป็นแนวทางที่มีเหตุผลมากขึ้นควรจะยึดสะสมผลของอาหารและอาหารที่แตกต่างกันในรูปแบบของความเข้ม มากกว่าผลของรังเดียวอาหารตามปริมาณที่เพียงพอของแคลเซียม ( 1000 - 1200 มิลลิกรัมต่อวัน ) และการควบคุมของโปรตีนจากสัตว์และเกลือจะลดลงต่ำ แคลเซียมออกซาเลตในปัสสาวะ และลดความเสี่ยงของการเกิดหินญาติใน hypercalciuric นิ่วไต Formers . เส้นประสไตล์อาหารที่สูงในผักและผลไม้ในผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ปานกลาง และต่ำในโปรตีนสัตว์และเกลือเกี่ยวข้องกับราคาต่ำ แคลเซียม ออกซาเลต และญาติ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดหินไว้ในเหตุการณ์ ทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นเป็นอาหารทั่วไป ลักษณะการเกิดกรดโหลดของอาหารที่สามารถมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงสูงของโรคนิ่วไตซ้ำ ,เพราะกรดโหลดของอาหารที่เกี่ยวข้องกับซิไม่มีปัสสาวะปัสสาวะ การจำกัดโปรตีนและเกลือแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอ ดูเหมือนจะดี แต่ควรมีการแนะนำให้เพิ่มการบริโภคผักที่สามารถดําเนินการจัดหาอุดมสมบูรณ์ของกรดด่างที่แก้ โหลด มา โปรตีนจากสัตว์ใหม่อนาคตการศึกษาเพื่อประเมินประสิทธิผลของอาหารสำหรับการป้องกันของหินไต ควรมุ่งเน้นไปที่อาหารง่าย ๆแนะนำว่า ควรเน้นเฉพาะไม่กี่เป้าหมายควบคุมได้อย่างง่ายดายโดยใช้เครื่องมือการประเมินตนเอง เช่น ทะเลสาบอาหารไนจีเรีย .