6. ConclusionExperimental investiga

6. Conclusion
Experimental investigations have been carried out in order to investigate the effect of moisture content (MC) and temperature on thermal conductivity (K) of guava fruit. From the above discussion the following conclusion were made:
1. Significant variation in thermal conductivity was observed with changes in moisture content and temperature.
2. It is observed that, the thermal conductivity increases with increase in moisture content, caused mainly by conduction heat transfer of water particles of the sample.
3. The thermal conductivity also increases with increase in density, due to higher thermal contact between particle structures of the sample and also structure is nonporous with fewer voids (i.e. the volume of pores reduced, resulting in higher Thermal conductivity).
4. The variation of thermal conductivity may occur due to nonhomogeneity and positioning of temperature measurement within the sample.
5. The deviation of experimental results of thermal conductivity with the standard models is in the range of 10.15% to 18.38% (Sweat) and 12.08% to 14.29% (Anderson), and found to be in

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

6. บทสรุปตรวจสอบการทดลองได้ดำเนินการเพื่อตรวจสอบผลของอุณหภูมิและความชื้น) ในการนำความร้อน (K) ของผลฝรั่ง จากการสนทนาข้างต้นข้อสรุปต่อไปนี้เกิดขึ้น:1. เกิดการเปลี่ยนแปลงในการนำความร้อนพบว่า การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น2. มันเป็นที่สังเกตว่า การนำความร้อนเพิ่ม ด้วยความชุ่มชื้นที่เนื้อหา สาเหตุหลักมาจากการถ่ายเทความร้อนการนำอนุภาคของน้ำตัวอย่าง3. การนำความร้อนยังเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นในความหนาแน่น เนื่องจากการติดต่อสูงขึ้นความร้อนระหว่างโครงสร้างของอนุภาคตัวอย่าง และโครงสร้างเป็น nonporous มีช่องว่างน้อยลง (เช่นปริมาตรของรูขุมขนลดลง ส่งผลให้การนำความร้อนสูง)4. การเปลี่ยนแปลงของการนำความร้อนอาจเกิดขึ้นเนื่องจาก nonhomogeneity และการวางตำแหน่งของการวัดอุณหภูมิภายในตัวอย่าง5. การเบี่ยงเบนของผลการทดลองของการนำความร้อนรุ่นมาตรฐานในช่วง 10.15-18.38% (เหงื่อ) และ 12.08-14.29% (Anderson), และพบใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

6. บทสรุป
การสืบสวนการทดลองได้รับการดำเนินการเพื่อที่จะศึกษาผลของความชื้น (MC) และอุณหภูมิในการนำความร้อน (k) ของผลไม้ฝรั่ง จากการสนทนาดังกล่าวข้างต้นข้อสรุปต่อไปนี้ถูกสร้างขึ้นมา:
1 การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในการนำความร้อนที่ถูกพบกับการเปลี่ยนแปลงในความชื้นและอุณหภูมิ.
2 มันเป็นที่สังเกตว่าการนำความร้อนที่เพิ่มขึ้นกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณความชื้นส่วนใหญ่เกิดจากการถ่ายเทความร้อนการนำของอนุภาคน้ำของกลุ่มตัวอย่าง.
3 การนำความร้อนยังเพิ่มขึ้นกับการเพิ่มขึ้นของความหนาแน่นเนื่องจากความร้อนที่สูงขึ้นติดต่อระหว่างโครงสร้างอนุภาคของกลุ่มตัวอย่างและยังเป็นโครงสร้าง nonporous มีช่องว่างน้อยลง (เช่นปริมาณของรูขุมขนลดลงส่งผลให้ในการนำความร้อนที่สูงขึ้น).
4 รูปแบบของการนำความร้อนที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจาก nonhomogeneity และการวางตำแหน่งของการวัดอุณหภูมิภายในตัวอย่าง.
5 ค่าเบี่ยงเบนของผลการทดลองของการนำความร้อนกับรุ่นมาตรฐานอยู่ในช่วง 10.15% ถึง 18.38% (เหงื่อ) และ 12.08% เป็น 14.29% (เดอร์สัน) และพบว่ามีการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

6 . สรุปการสืบสวนการทดลองได้ดำเนินการเพื่อตรวจสอบผลของความชื้น ( MC ) และอุณหภูมิที่มีผลต่อค่าการนำความร้อน ( k ) ของผลไม้ฝรั่ง จากการสนทนาข้างต้นสรุปต่อไปนี้เกิดขึ้น :1 . ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงค่าการนำความร้อนได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงในความชื้นและอุณหภูมิ2 . มันเป็นที่สังเกตว่า การนําความร้อนเพิ่มขึ้น เพิ่มความชื้น และสาเหตุส่วนใหญ่โดยการนําความร้อนถ่ายโอนอนุภาคของน้ำตัวอย่าง3 . การนำความร้อน ยังเพิ่มกับเพิ่มความหนาแน่น เนื่องจากความร้อนที่สูงขึ้นติดต่อระหว่างโครงสร้างของอนุภาคตัวอย่าง และโครงสร้างยังเป็นจำนวนช่องว่าง ( เช่นการตรวจเก็บปริมาณของรูขุมขนลดลง เป็นผลให้สูงกว่าค่าการนำความร้อน )4 . การเปลี่ยนแปลงของค่าการนำความร้อนที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจาก nonhomogeneity และตำแหน่งของการวัดอุณหภูมิภายในตัวอย่าง5 . ความเบี่ยงเบนของผลการทดลองของค่าการนำความร้อนกับรุ่นมาตรฐานอยู่ในช่วง 10.15 ร้อยละ 18.38 ( เหงื่อ ) และ 12.08 % 14.29 % ( Anderson ) และพบว่ามีใน