After the war of 1548, Maha Chakkra

After the war of 1548, Maha Chakkraphat insisted on battling Burmese armies near Ayutthaya, so he heavily fortified the city. He, however, de-fortified other cities in order to prevent the Burmese from taking them as bases. The census was taken to derive all available manpower to war. The arms and horses and elephants (white elephants) were caught and accumulated in the full-scale preparation for war.

Bayinnaung, which became King in 1551 after the death of Tabinshwehti, upon hearing about the white elephants, requested for some. As Maha Chakkraphat refused to gave them off, the Burmese King marched to Ayutthaya. Bayinnaung had conquered the whole kingdom of Lanna in 1558, with auxiliary troops from Lanna, he led a massive army into Sukhothai Kingdom. Maha Thammarachathirat then realised the greatness of Bayinnaung army and readily surrendered, giving up Phitsanulok and becoming Burmese tributary. At Chainat, Bayinnaung clashed with Prince Ramesuan's army but was able to break through.

The Burmese army reached Ayutthaya and laid siege bombarding the city so immensely that Maha Chakkraphat sued for peace in 1564. The King and Crown Prince Ramesuan were brought back to Pegu as hostages. Bayinnaung left Mahinthrathirat, one of Maha Chakkraphat's sons, as vassal king, along with a garrison of 3,000 men. At Pegu, King Maha Chakkraphat entered the monkhood.[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากสงครามของ 1548 มหาจักราพัฒน์ยืนยันในการต่อสู้กองทัพพม่าใกล้อยุธยา ดังนั้นเขาหนักธาตุเมือง เขา แต่ ยกเลิกธาตุเมืองอื่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้พม่านำเป็นฐาน บ้านถูกนำไปมาทั้งหมดกำลังคนที่มีสงคราม อาวุธ และม้า และช้าง (ช้างขาว) ถูกจับ และสะสมเตรียมพร้อมอย่างเต็มรูปแบบสำหรับการสงครามBayinnaung ซึ่งเป็นกษัตริย์ใน 1551 หลังความตายของ Tabinshwehti เมื่อได้ยินเกี่ยวกับช้างขาว สำหรับการร้องขอ เป็นมหาจักราพัฒน์ปฏิเสธที่จะให้ปิด กษัตริย์พม่าเดินไปอยุธยา Bayinnaung ได้เอาชนะราชอาณาจักรทั้งหมดของล้านนาใน 1558 เสริมกับล้านนา เขานำกองทัพขนาดใหญ่ในอาณาจักรสุโขทัย มหา Thammarachathirat จากนั้นเองก็ยังคิดความยิ่งใหญ่ของกองทัพ Bayinnaung พร้อม surrendered ท้อถอยพิษณุโลก และเป็น แควนั้นพม่า ที่ชัยนาท Bayinnaung กระทบกับกองทัพเจ้าชายเสียที แต่ได้ตัดผ่านกองทัพพม่ามาถึงอยุธยา และวางล้อมที่เคลื่อนลงมาเมืองอย่างกว้างขวางว่า มหาจักราพัฒน์ฟ้องสำหรับสันติภาพใน 1564 พระมหากษัตริย์และเจ้าชายเสียทีถูกนำกลับไป Pegu เป็นควบคุมการ Bayinnaung ซ้าย Mahinthrathirat หนึ่งมหาจักราพัฒน์บุตร เป็น vassal กษัตริย์ กับการต้าน 3000 คน ที่ Pegu พระมหาจักราพัฒน์ป้อนการออกบวช[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากที่สงครามของ 1548, สมเด็จพระมหาจักรพรรดิยืนยันที่จะต่อสู้กับกองทัพพม่าใกล้อยุธยาดังนั้นเขาอย่างหนักป้อมเมือง เขาอย่างไรเสริมเมืองอื่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวพม่าจากการที่พวกเขาเป็นฐาน การสำรวจสำมะโนประชากรถูกนำให้ได้มาซึ่งกำลังคนที่มีอยู่ทั้งหมดไปสู่สงคราม แขนและม้าและช้าง (ช้างสีขาว) ถูกจับและสะสมในการเตรียมความพร้อมเต็มรูปแบบสำหรับการทำสงคราม. Bayinnaung ซึ่งกลายเป็นกษัตริย์ใน 1551 หลังจากการตายของ Tabinshwehti เมื่อได้ยินเกี่ยวกับช้างสีขาวที่ร้องขอสำหรับบางคน ขณะที่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิปฏิเสธที่จะให้พวกเขาออกกษัตริย์พม่าเดินไปอยุธยา Bayinnaung เอาชนะได้ทั่วราชอาณาจักรล้านนาใน 1558 ด้วยกองกำลังเสริมจากล้านนาเขานำทัพใหญ่ในอาณาจักรสุโขทัย สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชแล้วตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของกองทัพ Bayinnaung และยอมจำนนอย่างง่ายดายให้ขึ้นพิษณุโลกและกลายเป็นเมืองขึ้นของพม่า ที่ชัยนาท Bayinnaung ปะทะกับกองทัพของพระราเมศวร แต่ก็สามารถที่จะตัดผ่าน. กองทัพพม่าถึงอยุธยาและวางล้อมแสงเมืองดังนั้นอย่างกว้างขวางว่าสมเด็จพระมหาจักรพรรดิฟ้องเพื่อสันติภาพใน 1564. พระมหากษัตริย์และพระมหากษัตริย์พระราเมศวรถูกนำกลับไปเป็นพะโค ตัวประกัน Bayinnaung ซ้ายสมเด็จพระมหินทราธิราช, หนึ่งในลูกชายของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิของข้าราชบริพารเป็นกษัตริย์พร้อมกับทหาร 3,000 คน ที่พะโคกษัตริย์สมเด็จพระมหาจักรพรรดิอุปสมบท. [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากสงครามในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช , ยืนกรานต่อสู้กองทัพพม่าใกล้อยุธยา ดังนั้นเขาถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนามากเมือง เขา , อย่างไรก็ตาม , เมืองที่มีป้อมเพื่อป้องกันพม่าจากการเป็นฐาน สำมะโนประชากร ถ่ายมาทั้งหมดกำลังคนของสงครามแขนและม้า และ ช้าง ( ช้างเผือก ) ถูกจับ และสะสมในการเตรียมการสำหรับสงครามเต็มรูปแบบ

พระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งกลายมาเป็นกษัตริย์ในนี้หลังจากความตายของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ เมื่อได้ยินเรื่อง ช้างขาว ขอบ้าง เป็นสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ปฏิเสธที่จะให้พวกเขาออก กษัตริย์พม่าเดินทัพไปที่อยุธยา พระเจ้าบุเรงนองทรงพิชิตอาณาจักรทั้งหมดของล้านนาในคิดเห็นพร้อมเสริมทัพจากล้านนา เขานำทัพใหญ่เข้ามาในราชอาณาจักรสุโขทัย สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชและตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของทัพพระเจ้าบุเรงนอง และพร้อมสละให้พิษณุโลกเป็นพม่าและแคว ที่ชัยนาท พระเจ้าบุเรงนองปะทะกับกองทัพของเจ้าชายกรุงศรีอยุธยา แต่ก็สามารถตีฝ่า .

กองทัพพม่าและอยุธยา ก็บุกมาถึงเมืองที่มีอย่างมหาศาลที่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ฟ้องเพื่อสันติภาพในเกมส์ . กษัตริย์และรัชทายาท สมเด็จพระราเมศวรได้นำกลับไปหงสาวดีในฐานะตัวประกัน พระเจ้าบุเรงนองซ้ายสมเด็จพระมหินทราธิราช หนึ่งในบุตรชายของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เป็นขุนนาง กษัตริย์ พร้อมกับทหาร 3 , 000 คน ที่หงสาวดี พระสมเด็จพระมหาจักรพรรดิผ่านการบวช [ 1 ]