The left side of the image is a 4-s

The left side of the image is a 4-shade non-dithered image; the right side is a 4-shade image WITH dithering
When few colors are available, dithering preserves more nuances than a non-dithered image, but the trade-off is a "dirty," speckled look. Some dithering algorithms are better than others; the one I've used falls somewhere in the middle, which is why I selected it.

As a final example, here is a 16-color grayscale image with full dithering, followed by a side-by-side comparison with the non-dithered version:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ด้านซ้ายของภาพเป็น 4 เฉดไม่ dithered ภาพ ด้านขวาเป็นภาพ 4 สีพร้อม ditheringเมื่อไม่กี่สีที่มีอยู่ dithering รักษาความแตกต่างมากขึ้นกว่ารูป dithered ไม่ แต่เป็นการปิด "สกปรก จุดด่างดำดู อัลกอริทึม dithering บางจะดีกว่าคนอื่น ๆ หนึ่งผมเคยใช้สักอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผมเลือกเป็นอย่างสุดท้าย นี่คือเป็นภาพสี 16 สีเทากับ dithering เต็ม ตาม ด้วยการเปรียบเทียบเคียงข้างกันกับรุ่นปลอด dithered:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ด้านซ้ายของภาพเป็น 4 เฉดสีของภาพที่ไม่ dithered; ด้านขวาเป็นภาพ 4 สีกับ dithering
เมื่อไม่กี่สีที่มีความแตกต่าง dithering เก็บรักษามากกว่าไม่ใช่ภาพแหลก แต่การออกเป็น "สกปรก" จุดด่างดำดู บางขั้นตอนวิธีการ dithering ดีกว่าคนอื่น; อย่างใดอย่างหนึ่งที่ผมได้ใช้ตกอยู่ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ตรงกลางซึ่งเป็นเหตุผลที่ฉันเลือกมัน.

เป็นตัวอย่างสุดท้ายนี่คือภาพระดับสีเทา 16 สีกับ dithering เต็มตามด้วยการเปรียบเทียบเคียงข้างกับไม่ใช่แหลก รุ่น:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ด้านซ้ายของภาพเป็น 4-shade ไม่ dithered ภาพ ด้านขวาเป็นภาพที่ 4-shade กับการเกลี่ยสีเมื่อสีน้อยมีอยู่การเกลี่ยสีรักษาความแตกต่างมากกว่า ไม่ dithered ภาพ แต่แลกเป็น " สกปรก " จุดดู บางขั้นตอนวิธีการเกลี่ยสีได้ดีกว่าคนอื่น คนหนึ่งที่ผมเคยใช้อยู่ตรงกลาง , ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฉันเลือกมันเป็นตัวสุดท้าย ที่นี่มี 16 สีสีเทาภาพเต็มด้วยการเกลี่ยสี ตามด้วยการเปรียบเทียบเคียงข้างกับไม่ dithered รุ่น :