Our study suggests that rubella enc

Our study suggests that rubella encephalitis should be suspected in children with eruptive fevers and neurologic impairments in the context of rubella outbreaks, even though eruptions were lacking on admission in 19% of cases. Suggestive routine laboratory tests are dominated by hyponatremia. In fact, a plasma sodium level

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Our study suggests that rubella encephalitis should be suspected in children with eruptive fevers and neurologic impairments in the context of rubella outbreaks, even though eruptions were lacking on admission in 19% of cases. Suggestive routine laboratory tests are dominated by hyponatremia. In fact, a plasma sodium level <135 mmol/L was found in 66.7% of cases. The exact mechanism leading to hyponatremia was not investigated in our study but we advance the hypothesis that it could be related to an inappropriate antidiuretic hormone secretion. Neuroimaging tests were performed on all our patients. Cerebral computed tomographic findings were normal in 85.7% of cases, whereas MRI results were normal in 6 of 11 (54.5%) cases. The most frequent abnormality was cerebral edema, which can be related to either hyponatremia or seizure. Moreover, unlike herpes encephalitis, there was no preferential localization of cerebral damage. The acute phase of rubella infection is marked by an increase of immunoglobulin (M) titer in the serum, with detectable levels lasting up to 8 to 12 weeks. However, specific immunoglobulin (M) may not be detectible until more than 7 days after typical rush onset.All our patients were positive for antirubella immunoglobulin (M). The diagnosis was definitively confirmed by the results of cerebrospinal fluid samples with the detection of immunoglobulin rubella antibodies

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่าโรคไข้สมองอักเสบโรคหัดเยอรมันควรจะสงสัยว่าในเด็กที่มีไข้ผื่นและความบกพร่องทางระบบประสาทในบริบทของการระบาดของโรคหัดเยอรมันแม้ว่าระเบิดขาดในการเข้าศึกษาใน 19% ของกรณี ทดสอบในห้องปฏิบัติการประจำชี้นำโดดเด่นภาวะ ในความเป็นจริงในระดับโซเดียมพลาสม่า <135 มิลลิโมล / ลิตรพบใน 66.7% ของกรณี กลไกที่แน่นอนที่นำไปสู่ภาวะที่ไม่ได้ตรวจสอบในการศึกษาของเรา แต่เราก้าวไปสู่สมมติฐานที่ว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับการหลั่งฮอร์โมน antidiuretic ที่ไม่เหมาะสม การทดสอบ Neuroimaging ได้ดำเนินการกับผู้ป่วยของเรา ผลการวิจัย tomographic สมองคำนวณเป็นปกติ 85.7% ของกรณีในขณะที่ผลการตรวจ MRI เป็นปกติใน 6 จาก 11 (54.5%) กรณี ผิดปกติที่พบบ่อยที่สุดคือสมองบวมซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับทั้งภาวะหรืออาการชัก นอกจากนี้ยังแตกต่างจากโรคไข้สมองอักเสบโรคเริมไม่มีการแปลพิเศษของความเสียหายสมอง.
ขั้นตอนการติดเชื้อเฉียบพลันของโรคหัดเยอรมันมีการทำเครื่องหมายโดยการเพิ่มขึ้นของอิมมูโน (M) titer ในซีรั่มที่มีระดับที่ตรวจพบเป็นเวลานานถึง 8 ถึง 12 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามอิมมูโนที่เฉพาะเจาะจง (M) อาจจะไม่ detectible จนเกิน 7 วันหลังจากที่วิ่งปกติ onset.All ผู้ป่วยของเราเป็นบวกสำหรับอิมมูโน antirubella (M) การวินิจฉัยได้รับการยืนยันอย่างแน่นอนโดยผลของตัวอย่างน้ำไขสันหลังมีการตรวจสอบของแอนติบอดีหัดเยอรมันอิมมูโนที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่าสมองอักเสบโรคหัดเยอรมันควรสงสัย ในเด็กที่มีไข้ผื่นประสาทวิทยาและบกพร่องในบริบทของหัดเยอรมันระบาด แม้ว่าจะขาดในการปะทุใน 19% ของกรณี แนะนการทดสอบเป็น dominated โดยภาวะธำรงดุล . ในความเป็นจริงระดับโซเดียมในพลาสมา < 135 มิลลิโมล / ลิตร พบว่าในส่วนของคดีกลไกที่แน่นอนที่นำไปสู่ภาวะธำรงดุลไม่ได้ตรวจสอบในการศึกษาของเรา แต่เราล่วงหน้า สมมติฐานที่ว่า มันอาจจะเกี่ยวข้องกับการหลั่งฮอร์โมนต้านการขับปัสสาวะไม่เหมาะสม ระบบประสาททดสอบกับคนไข้ของเราทุกคน สมองคำนวณ tomographic พบปกติใน 15 % ของคดี ส่วนผล MRI ปกติใน 6 11 ( 54.5 % ) กรณีความผิดปกติที่พบบ่อยที่สุดคือ สมองบวม ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับทั้งภาวะธำรงดุล หรือชัก ซึ่งแตกต่างจากโรคเริม โรคไข้สมองอักเสบ ไม่มีการจำกัดสิทธิพิเศษของความเสียหายที่สมอง
ระยะเฉียบพลันของการติดเชื้อหัดเยอรมันมีการทำเครื่องหมายโดยการเพิ่มขึ้นของระดับอิมมูโนโกลบูลิน ( M ) ในซีรั่ม กับระดับได้ยาวนานถึง 8 ถึง 12 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามอิมมูโนโกลบูลินเฉพาะ ( M ) อาจจะ detectible จนกระทั่งเกิน 7 วัน หลังจากเริ่มมีอาการ วิ่งปกติ คนไข้ของเราเป็นบวก สำหรับ antirubella อิมมูโนโกลบูลิน ( M ) การวินิจฉัยคือแตกหักยืนยันโดยผลของตัวอย่างน้ำไขสันหลังกับการตรวจหาภูมิคุ้มกันโรคหัดเยอรมัน
อิมมูโนโกลบูลิน