Ever wonder why we consider a tomat

Ever wonder why we consider a tomato a vegetable even though it is a fruit? You can lay part of the blame on the U.S. Supreme Court and maybe some on government greed. In 1887, U.S. tariff laws imposed a 10 percent duty on vegetables, but none on fruit. A tomato importer named John Nix sued the tax collector for the port of New York, Edward L. Hedden, arguing that tomatoes, since they were “really” fruits, should be exempt from the tax. Read Nix v. Hedden, 149 U.S. 304 (1893) here.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เคยสงสัยว่า ทำไมเราถึงคิดมะเขือเทศผักแม้จะเป็นผลไม้ คุณสามารถวางส่วนของตำหนิบนศาลฎีกาสหรัฐและอาจจะใช้ความโลภของรัฐบาล ในปี 1887 พิกัดอัตราภาษีของสหรัฐฯ กำหนดหน้าที่ 10 เปอร์เซ็นต์ของผัก แต่ไม่มีในผลไม้ นำมะเขือเทศที่ชื่อจอห์น Nix ฟ้องเก็บภาษีสำหรับพอร์ตนิวยอร์ก Edward L. Hedden เถียงว่า มะเขือเทศ ผลไม้ "จริงๆ" ก็ควรจะรับการยกเว้นภาษี Nix อ่าน v. Hedden, 149 สหรัฐฯ 304 นี่ (1893)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เคยสงสัยว่าทำไมเราพิจารณามะเขือเทศผักแม้ว่ามันจะเป็นผลไม้? คุณสามารถวางเป็นส่วนหนึ่งของโทษในศาลฎีกาสหรัฐและบางทีบางอย่างเกี่ยวกับความโลภของรัฐบาล ในปี 1887 กฎหมายภาษีของสหรัฐเรียกเก็บภาษีร้อยละ 10 ในผัก แต่ไม่มีผลไม้ ผู้นำเข้ามะเขือเทศชื่อจอห์นห้ามฟ้อ​​งเก็บภาษีสำหรับพอร์ตนิวยอร์กเอ็ดเวิร์ดลิตร Hedden เถียงว่ามะเขือเทศเพราะพวกเขาเป็น "จริงเหรอ" ผลไม้ที่ควรจะได้รับการยกเว้นภาษี อ่านห้าม v. Hedden 149 สหรัฐอเมริกา 304 (1893) ที่นี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เคยสงสัยไหมว่าทำไม เราพิจารณามะเขือเทศผักแม้ว่ามันเป็นผลไม้ คุณสามารถวางในส่วนของโทษในศาลฎีกาสหรัฐ และอาจมีต่อรัฐบาล " ในปี 1887 กฎหมายภาษีของสหรัฐฯ ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่มีในผัก ผลไม้ มะเขือเทศนำเข้าชื่อ จอห์น นิกซ์ ฟ้องเก็บภาษีสำหรับท่าเรือนิวยอร์ก เอ็ดเวิร์ดลิตร hedden เถียงว่ามะเขือเทศ , ตั้งแต่พวกเขาเป็น " ผลไม้จริงๆ ควรได้รับการยกเว้นภาษี อ่าน hedden นิกซ์ V 149 . 304 ( 1893 ) ที่นี่