Buffett worked from 1951 to 1954 at

Buffett worked from 1951 to 1954 at Buffett-Falk & Co. as an investment salesman; from 1954 to 1956 at Graham-Newman Corp., as a securities analyst; from 1956 to 1969 at Buffett Partnership, Ltd. as a general partner and beginning in 1970 as Berkshire Hathaway Inc Chairman and CEO.

By 1950, at 20, Buffett had made and saved $9,800 (over $96,000 inflation adjusted for the 2014 USD[29]).[30] In April 1952, Buffett discovered that Graham was on the board of GEICO insurance. Taking a train to Washington, D.C. on a Saturday, he knocked on the door of GEICO's headquarters until a janitor admitted him. There he met Lorimer Davidson, Geico's Vice President, and the two discussed the insurance business for hours. Davidson would eventually become Buffett's lifelong friend and a lasting influence,[31] and would later recall that he found Buffett to be an "extraordinary man" after only fifteen minutes. Buffett wanted to work on Wall Street, however, both his father and Ben Graham urged him not to. He offered to work for Graham for free, but Graham refused.[32]

Buffett returned to Omaha and worked as a stockbroker while taking a Dale Carnegie public speaking course.[33] Using what he learned, he felt confident enough to teach an "Investment Principles" night class at University of Nebraska-Omaha. The average age of his students was more than twice his own. During this time he also purchased a Sinclair Texaco gas station as a side investment. However, this was not successful.[citation needed]

In 1952,[34] Buffett married Susan Thompson at Dundee Presbyterian Church. The next year they had their first child, Susan Alice. In 1954, Buffett accepted a job at Benjamin Graham's partnership. His starting salary was $12,000 a year (approximately $105,000 inflation adjusted for the 2012 USD[29]). There he worked closely with Walter Schloss. Graham was a tough boss. He was adamant that stocks provide a wide margin of safety after weighting the trade-off between their price and their intrinsic value. The argument made sense to Buffett but he questioned whether the criteria were too stringent and caused the company to miss out on big winners that had other appealing features.[citation needed] That same year the Buffetts had their second child, Howard Graham. In 1956, Benjamin Graham retired and closed his partnership. At this time Buffett's personal savings were over $174,000 ($1.47 million 2012 USD[29]) and he started Buffett Partnership Ltd..

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บัฟเฟตต์ทำจาก 1951 1954 ที่บัฟเฟตต์เซฟจำกัดเป็นการลงทุนขาย จาก 1954 1956 ที่นิวแมนเกรแฮม Corp. เป็นเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ การ จากปี 1956 ถึง 1969 ที่บัฟเฟตต์หุ้นส่วน จำกัดเป็นหุ้นส่วนทั่วไปและจุดเริ่มต้นในปี 1970 เป็นสัน Hathaway Inc ประธานและซีอีโอโดย 1950 ที่ 20 บัฟเฟตต์ได้ และบันทึกไว้ $9,800 (มากกว่าเงินเฟ้อ $96,000 ที่ปรับปรุงสำหรับ 2014 USD[29]) [30] ในเดือน 1952 เมษายน บัฟเฟตต์พบว่า เกรแฮมอยู่บนบอร์ดของ GEICO ประกัน การรถไฟไป Washington, dc ในวันเสาร์ เขากังวานประตูสำนักงานใหญ่ของ GEICO จน janitor ยอมรับเขา มีเขาได้พบกับ Lorimer Davidson ของ Geico รองประธาน และสองกล่าวถึงธุรกิจประกันสำหรับชั่วโมง Davidson ในที่สุดจะเป็น เพื่อนของบัฟเฟตต์และอิทธิพลยั่งยืน, [31] และจะต่อนึกว่า เขาพบบัฟเฟตต์ให้ เป็น "คนพิเศษ" หลังเพียง 15 นาที บัฟเฟตต์ต้องการทำงานใน Wall Street ไร ทั้งบิดาและเบนเกรแฮมที่กระตุ้นให้เขาไม่ เขานำเสนอการทำงานสำหรับแกรแฮมฟรี แต่เกรแฮมปฏิเสธ [32]บัฟเฟตต์กลับโอ และทำงานเป็นแบบ stockbroker ในขณะที่การพูดในที่สาธารณะหลักสูตรเดลคาร์เนกี [33] โดยใช้สิ่งที่เขาเรียน เขารู้สึกมั่นใจพอที่จะสอน "หลักการลงทุน" คืนชั้นเรียนที่มหาวิทยาลัยของรัฐเนแบรสกาโอ อายุเฉลี่ยของนักเรียนของเขามีมากกว่าสองของเขาเอง ระหว่างนี้ เขายังซื้อสถานีก๊าซนแคลร์เท็กซาโกเป็นการลงทุนด้านการ อย่างไรก็ตาม นี้ไม่สำเร็จ [ต้องการอ้างอิง]ใน 1952 บัฟเฟตต์ [34] แต่งงานกับซูซานทอมป์สันที่คริสตจักร Presbyterian ดันดี ปีหน้าพวกเขาแรกลูก ซูซานอลิซ บัฟเฟตต์ยอมรับงานที่เบนจามินเกรแฮมร่วมใน 1954 เงินเดือนของเขาเริ่มต้น $12000 ต่อปี (ประมาณ $105,000 เงินเฟ้อปรับ 2012 USD[29]) มีเขาทำงานอย่างใกล้ชิดกับวอลเตอร์ลอทท์ เกรแฮมเป็นบอสที่ยาก เขามีความมุ่งมั่นว่า หุ้นมีกำไรกว้างปลอดภัยหลังน้ำหนัก trade-off ระหว่างราคาของและค่าของ intrinsic อาร์กิวเมนต์จะรู้สึกบัฟเฟตต์ แต่เขาสอบสวนว่า เงื่อนไขเข้มงวดเกินไป และเกิดจากบริษัทที่จะพลาดโอกาสในผู้ชนะใหญ่ที่มีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่น่าสนใจ [ต้องการอ้างอิง] ในปีเดียวกัน Buffetts ที่มีสองลูก โฮวาร์ดเกรแฮม ในปี 1956 เบนจามินเกรแฮมถอน และปิดหุ้นส่วนของเขา ขณะนี้ การออมส่วนบุคคลของบัฟเฟตต์ได้กว่า $174,000 ($1.47 ล้าน 2012 USD[29]) และเขาเริ่มบัฟเฟตต์ห้างหุ้นส่วน จำกัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บัฟเฟตทำงาน 1951-1954 ที่บัฟเฟต-Falk & Co เป็นพนักงานขายการลงทุน; 1954-1956 ที่เกรแฮมนิวแมนคอร์ปเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ 1956-1969 ที่บัฟเฟตหุ้นส่วน จำกัด ในฐานะหุ้นส่วนทั่วไปและเริ่มต้นในปี 1970 เป็น Berkshire Hathaway ประธาน Inc และซีอีโอ. 1950 โดยที่ 20, บัฟเฟตได้ทำและบันทึก $ 9,800 (กว่า $ 96,000 อัตราเงินเฟ้อปรับ 2,014 เหรียญสหรัฐ [29] ). [30] ในเดือนเมษายน 1952 พบว่าบัฟเฟตเกรแฮมอยู่ในคณะของการประกันไกโคแอนด์ การรถไฟไปยังกรุงวอชิงตันดีซีในวันเสาร์เขาเคาะประตูของสำนักงานใหญ่ไกโคแอนด์จนภารโรงเขาเข้ารับการรักษา ที่นั่นเขาได้พบกับอริเมอร์เดวิดสันรองประธานของ Geico และทั้งสองกล่าวถึงธุรกิจประกันภัยเป็นเวลาหลายชั่วโมง เดวิดสันในที่สุดก็จะกลายเป็นเพื่อนตลอดชีวิตของบัฟเฟตและอิทธิพลที่ยั่งยืน [31] และหลังจากนั้นก็จะจำได้ว่าเขาพบว่าบัฟเฟตที่จะเป็น "คนพิเศษ" หลังจากนั้นเพียงสิบห้านาที บัฟเฟตต้องการที่จะทำงานใน Wall Street แต่ทั้งพ่อของเขาและเบนเกรแฮมกระตุ้นให้เขาไม่ให้ เขาเสนอที่จะทำงานให้เกรแฮมฟรี แต่เกรแฮมปฏิเสธ. [32] บัฟเฟตกลับไปที่โอมาฮาและทำงานเป็นนายหน้าซื้อขายหุ้นในขณะที่การเดลคาร์เนกีแน่นอนพูดในที่สาธารณะ. [33] การใช้สิ่งที่เขาได้เรียนรู้ว่าเขารู้สึกมั่นใจพอที่จะสอน " หลักการลงทุน "ชั้นคืนที่ University of Nebraska-Omaha อายุเฉลี่ยของนักเรียนของเขาได้มากขึ้นกว่าสองเท่าของตัวเอง ช่วงเวลานี้เขาได้ซื้อสถานีบริการน้ำมันซินแคลปั๊มน้ำมันเป็นเงินลงทุนด้าน แต่นี้ไม่ประสบความสำเร็จ. [อ้างจำเป็น] ในปี 1952 [34] บัฟเฟตซูซาน ธ อมป์สันที่แต่งงานกับคริสตจักรเพรสไบทีดันดี ปีต่อมาพวกเขามีลูกคนแรกของซูซานอลิซ ในปี 1954 บัฟเฟรับงานที่เป็นหุ้นส่วนเบนจามินเกรแฮม เงินเดือนเริ่มต้นของเขาคือ $ 12,000 ต่อปี (ประมาณ $ 105,000 อัตราเงินเฟ้อปรับ 2,012 เหรียญสหรัฐ [29]) ที่นั่นเขาได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับวอลเตอร์ปราสาท เกรแฮมเป็นเจ้านายที่ยากลำบาก เขาก็ยังยืนกรานว่าหุ้นให้อัตรากำไรกว้างของความปลอดภัยหลังจากที่น้ำหนักค้าระหว่างราคาและมูลค่าที่แท้จริงของพวกเขา ข้อโต้แย้งที่จะทำให้ความรู้สึกที่บัฟเฟต แต่เขาถามว่ามีเกณฑ์ที่เข้มงวดเกินไปและก่อให้เกิด บริษัท ที่จะพลาดโอกาสในการได้รับรางวัลใหญ่ที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่น ๆ . [อ้างจำเป็น] ในปีเดียวกันนั้น Buffetts มีลูกคนที่สองของพวกเขาโฮเวิร์ดเกรแฮม ในปี 1956 เบนจามินเกรแฮมเกษียณและปิดหุ้นส่วนของเขา ในเวลานี้การออมส่วนบุคคลของบัฟเฟตได้มากกว่า $ 174,000 ($ 1,470,000 เหรียญสหรัฐปี 2012 [29]) และเขาก็เริ่มบัฟเฟห้างหุ้นส่วน จำกัด ..

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บัฟเฟตทำงานจาก 2494 ถึง 1954 ที่ Buffett ฟอล์ค&บริษัทขายเงินลงทุน จาก 1954 ถึง 2499 ที่เกรแฮม นิวแมน คอร์ป เป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ จากปี 1956 ถึง 1969 ที่บัฟเฟต ห้างหุ้นส่วน จำกัด เป็นพันธมิตรทั่วไปและเริ่มต้นในปี 1970 ไหมเป็น Berkshire Hathaway Inc ประธานและ CEO

โดย 1950 ที่ 20 บัฟเฟตได้และบันทึก $ 9 , 800 ( มากกว่า $ 96 , 000 อัตราเงินเฟ้อปรับ 2014 USD [ 29 ] )[ 30 ] เมษายน 2495 บัฟเฟตค้นพบว่าเกรแฮมเป็นคณะกรรมการของ Geico ประกันภัย ขึ้นรถไฟไปที่ วอชิงตัน ดีซี ในวันเสาร์ เขาเคาะประตูสำนักงาน Geico จนกระทั่งภารโรงยอมรับเขา เขาก็พบกับ จอร์จ เดวิดสัน , Geico ก็เป็นรองประธาน และ สอง กล่าวถึงธุรกิจประกันภัยสำหรับชั่วโมงและในที่สุดก็จะกลายเป็น บัฟเฟตก็เพื่อนรักและอิทธิพลที่ยั่งยืน [ 31 ] และจะเรียกคืนในภายหลังว่าเขาได้พบบัฟเฟตต์เป็น " ผู้ชาย " พิเศษหลังจากเพียงสิบห้านาที บัฟเฟตต์ต้องการทำงานใน Wall Street , อย่างไรก็ตาม ทั้งพ่อ และ เบน เกรแฮม กระตุ้นให้เขาไม่ได้ เขาเสนอที่จะทำงานให้ เกรแฮม ฟรี แต่กราแฮมปฏิเสธ [ 32 ]

บัฟเฟตต์กลับโอมาฮาและทำงานเป็นนายหน้าค้าหุ้น ขณะที่ เดล คาร์เนกี หลักสูตรการพูดในที่สาธารณะ [ 33 ] ใช้สิ่งที่เขาได้เรียนรู้ เขารู้สึกมั่นใจพอที่จะสอนให้ " หลักการ " ลงทุนคืนห้องที่มหาวิทยาลัยเนบราสก้าโอมาฮา อายุโดยเฉลี่ยของนักเรียนของเขามากกว่าสองของเขาเอง ในช่วงเวลานี้เขายังซื้อ ซินแคลร์ ปั๊มน้ำมันปั๊มน้ำมันเป็นด้านการลงทุน อย่างไรก็ตามนี้ไม่สําเร็จ . [ อ้างอิงที่จำเป็น ]

ในปี 1952 [ 34 ] Buffett แต่งงานกับซูซาน ทอมสันที่ดันดีโบสถ์เพรสไบทีเรียน ปีหน้ามีเด็กแรกของพวกเขา ซูซาน อลิซ ในปี 1954 บัฟเฟต ยอมรับงานของเบนจามิน เกรแฮม หุ้นส่วน เงินเดือนเริ่มต้นของเขาคือ $ 12 , 000 ปี ( ประมาณ $ จากอัตราเงินเฟ้อปรับ 2012 USD [ 29 ] ) เค้าทำงานอย่างใกล้ชิดกับวอลเตอร์ได้ไม่ .เกรแฮมเป็นเจ้านายยาก เขายืนกรานว่า หุ้นให้ขอบกว้างของตู้ หลังจากน้ำหนักแลกระหว่างราคาและมูลค่าที่แท้จริงของพวกเขา ข้อโต้แย้งที่สมเหตุสมผล บัฟเฟตต์ แต่เขาถามว่าเกณฑ์ที่เข้มงวดเกินไป และทำให้บริษัทพลาดรางวัลใหญ่ที่น่าสนใจอื่น ๆ คุณสมบัติ[ อ้างอิงที่จำเป็น ] ในปีเดียวกัน buffetts ได้ลูกที่สองของ Howard เกรแฮม ในปี 1956 , เบนจามิน เกรแฮมเกษียณและปิดหุ้นส่วนของเขา ในช่วงเวลานี้ บัฟเฟตต์เป็นเงินออมส่วนบุคคลเป็นมากกว่า $ 174 000 ( $ 1.47 ล้านเหรียญสหรัฐ [ 29 ]   2012 ) และเขาเริ่มบัฟเฟตห้างหุ้นส่วนจำกัด .