4) Once formed, convection currents

4) Once formed, convection currents bring hot material from deeper
within the mantle up toward the surface.
5) As they rise and approach the surface, convection currents diverge at
the base of the lithosphere. The diverging currents exert a weak
tension or “pull” on the solid plate above it. Tension and high heat
flow weakens the floating, solid plate, causing it to break apart. The
two sides of the now-split plate then move away from each other,
forming a DIVERGENT PLATE BOUNDARY.
6) The space between these diverging plates is filled with molten rocks
(magma) from below. Contact with seawater cools the magma, which
quickly solidifies, forming new oceanic lithosphere. This continuous
process, operating over millions of years, builds a chain of submarine
volcanoes and rift valleys called a MID-OCEAN RIDGE or an
OCEANIC SPREADING RIDGE.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4) ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวกระแสการหมุนเวียนนำวัสดุร้อนจาก
ลึกภายในเสื้อคลุมขึ้นไปยังพื้นผิว.
5) ขณะที่พวกเขาลุกขึ้นและเข้าใกล้พื้นผิวที่กระแสการพาความร้อนที่แตกต่าง
ฐานของเปลือกโลก กระแสถ่างออกออกแรงความตึงเครียด
อ่อนแอหรือ "ดึง" บนแผ่นของแข็งข้างต้นนั้น ความตึงเครียดและความร้อนสูงไหล
อ่อนตัวลอยแผ่นแข็งทำให้มันแตกเป็นชิ้น
ทั้งสองด้านของแผ่นขณะนี้แยกแล้วย้ายออกไปจากกันและกัน
ขึ้นรูปแผ่นขอบเขตที่แตกต่างกัน.
6) ช่องว่างระหว่างแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นแยกเหล่านี้เต็มไปด้วยโขดหินหลอมเหลว
(หินหนืด) จากด้านล่าง ติดต่อกับน้ำทะเลเย็นหินหนืดซึ่ง
ได้อย่างรวดเร็วแข็งตัวสร้างใหม่ในมหาสมุทรเปลือกโลก กระบวนการนี​​้
อย่างต่อเนื่องในการดำเนินงานกว่าล้านปีที่ผ่านมาสร้างห่วงโซ่ของเรือดำน้ำ
ภูเขาไฟและหุบเขารอยแยกที่เรียกว่าสันเขากลางมหาสมุทรหรือมหาสมุทร
เชื้อสัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4) เมื่อเกิด กระแสการพานำวัสดุร้อนจากลึก
ภายในหิ้งขึ้นไปทางผิว
5) พวกเขาเพิ่มขึ้น และเข้าหาพื้นผิว กระแสการพา diverge ใน
ฐานธรณีภาค กระแส diverging แรงอ่อนแอการ
ความตึงเครียด หรือ "ดึง" ในจานทึบดังกล่าวข้างต้น ความตึงเครียดและความร้อนสูง
ไหลอ่อนลอย แข็งแผ่น ทำให้แยก ใน
ทั้งสองด้านของจานนี้แยกแล้วย้ายจากแต่ละอื่น ๆ,
ขึ้นขอบจานขันติธรรม.
6) ช่องว่างระหว่างแผ่น diverging เหล่านี้จะเต็มไป ด้วย rocks
(magma) หลอมละลายจากด้านล่าง ติดต่อกับทะเลน่าผับ ซึ่ง
เร็ว solidifies ธรณีภาคมหาสมุทรใหม่ขึ้น อย่างต่อเนื่องนี้
กระบวนการ การปฏิบัติมากกว่าล้านปี สร้างห่วงโซ่ของเรือดำน้ำ
เรียกว่าสมุทรแบบภูเขาและหุบเขาริฟท์หรือ
โอเชียนิค SPREADING ริดจ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 )แล้วกระแสการพาความร้อนนำวัสดุร้อนจากลึก
ภายใน เสื้อคลุมขึ้นไปบนพื้นผิว.
5 )ที่เพิ่มขึ้นและการใช้พื้นที่ที่ใช้กระแสไฟการพาความร้อนแตกออกไปที่ฐาน
ซึ่งจะช่วยในส่วนที่เป็นดินของโลกได้ กระแสไฟเรียนรู้เฉพาะประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างที่กำลังอ่อนแอ
ซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความเครียดหรือ"ดึง"บนแผ่นแข็งที่อยู่เหนือขึ้นไป ความตึงเครียดและความร้อนสูง
ซึ่งจะช่วยลดการไหลของแผ่นความร้อนลอยน้ำที่แข็งแกร่งทำให้หยุดพักแยกออก ที่
ตามมาตรฐานทั้งสองด้านของแผ่นความร้อนแล้วแยกจากนั้นจึงย้ายไปอยู่ห่างจากกัน
สร้างแตกออกไปแผ่นเขต.
6 )พื้นที่ที่อยู่ระหว่างแผ่นเรียนรู้เฉพาะประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนี้มีหินหล่อ
(หินเหลวลาวา)จากด้านล่าง ผู้ติดต่อพร้อมด้วยน้ำทะเลเย็นตัวลงหินเหลวลาวาที่
ซึ่งจะช่วยได้อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นส่วนที่เป็นดินของโลกแห่งท้องมหาสมุทรรวมใหม่ กระบวนการนี้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจะช่วยมากกว่าล้านปีสร้างห่วงโซ่ของเรือดำน้ำ
หุบเขาความแตกร้าวและ ภูเขา ไฟเรียกว่าแนวกลาง - มหาสมุทรหรือกระจายแนวสันเขา
แห่งท้องมหาสมุทรได้