Soybeans are well-recognized as all

Soybeans are well-recognized as allergenic foods. The soybean allergens are found in the protein fraction. The vast majority of this protein is removed in the soy lecithin manufacturing process. Soy lecithin does contain trace levels of soy proteins and these have been found to include soy allergens. However, apparently, soy lecithin does not contain sufficient soy protein residues to provoke allergic reactions in the majority of soy-allergic consumers. Many allergists do not even advise their soybean-allergic patients to avoid soybean lecithin when it is included as an ingredient on food products. From this practical standpoint, we can surmise that most soybean-allergic individuals do not react adversely to the ingestion of soybean lecithin.

Yet, there is, of course, the possibility that some of the more sensitive soybean-allergic consumers might react to ingestion of soybean lecithin, so of course we do advocate the source labeling of lecithin when it is used as a direct food ingredient.

The oily matrix of lecithin and the low protein levels provide a challenge to current analytical methodology. Regarding detection of soy lecithin in food products, the amount of soy lecithin used in most food products would leave residues at levels well below the limit of detection of currently available detection methods.

No conceivable allergenic risks would occur from the use of shared equipment for products that contain soybean lecithin and products that do not. The amount of soybean protein that could conceivably be transferred to the next product manufactured with this shared equipment is extraordinarily low. Therefore, "allergen clean-outs" are not necessary, in our opinion, for shared equipment in situations where the first product contains soy lecithin as an ingredient and the second does not, if soy lecithin is the only ingredient in the formulation that is derived from a commonly allergenic source.

The Food Allergen Labeling and Consumer Protection Act in the U.S. requires the labeling of soy lecithin when used in any capacity, including use as a processing aid. To date, the Food & Drug Administration has granted only one exemption to soybean lecithin labeling from this law. On February 22, 2013, FDA granted a source labeling exemption for select soy lecithins produced by Solae, LLC when used as a release agent applied directly to food contact surfaces. Soy lecithin products produced by other manufacturers are not currently exempt from source labeling for this purpose. Additionally, on February 25, 2013, the FDA withdrew its May 2, 2006 guidance entitled "Guidance on the Labeling of Certain Uses for Lecithin Derived from Soy Under Section 403(w) of the Federal Food, Drug, and Cosmetic Act" which originally indicated a willingness by FDA to use "regulatory discretion" in dealing with the labeling of soy lecithin in circumstances where soy lecithin is used as a stick-release or pan-release agent, a common processing aid use in the food industry. The FDA now requires source labeling of soy lecithin when used as a release agent applied directly to the food contact surfaces or as a direct ingredient in the product formulation, with the exception of the specific Solae soy lecithin products directly applied to food contact surfaces as outlined in the Exemption Notification.

With respect to the cleaning of shared equipment following the processing of formulations containing soy lecithin, FALCPA does not stipulate the conditions under which extensive allergen clean-up must be conducted. When processing equipment is then used to manufacture other products that do not contain intentionally added soy lecithin, dilution would occur with the other product and would quickly reduce any soy allergen residues by additional orders of magnitude. With this reasoning, no conceivable risk exists from the use of shared equipment in this circumstance and no need exists for extensive allergen cleaning if soy lecithin is the only source of allergen concern. Attempts to assess the adequacy of any preventative controls would be unnecessary because the allergen residue testing methods would be insufficiently sensitive to detect soy protein/allergen residues on processing equipment surfaces, rinse water or in any subsequent products manufactured on shared equipment. Allergen clean-up after formulations containing soy lecithin as the sole ingredient derived from commonly allergenic sources is not necessary in our opinion as outlined above.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถั่วเหลืองจะรู้จักดีเป็นอาหารที่แพ้ สารก่อภูมิแพ้ในถั่วเหลืองพบในเศษโปรตีน โปรตีนนี้ส่วนใหญ่จะถูกเอาออกในเลซิตินถั่วเหลืองกระบวนการผลิต เลซิตินถั่วเหลืองประกอบด้วยการติดตามระดับของโปรตีนถั่วเหลือง และเหล่านี้พบการรวมถั่วเหลืองสารก่อภูมิแพ้ อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัด เลซิตินถั่วเหลืองไม่ประกอบด้วยตกโปรตีนถั่วเหลืองเพียงพอไปกระตุ้นปฏิกิริยาภูมิแพ้ส่วนใหญ่ของผู้บริโภคที่แพ้ถั่วเหลือง Allergists หลายไม่แจ้งของผู้ป่วยที่แพ้ถั่วเหลืองเพื่อหลีกเลี่ยงถั่วเหลืองเลซิตินเมื่อถูกรวมเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารได้ จากนี้อันที่จริง เราสามารถเล็งเห็นว่า บุคคลที่แพ้ถั่วเหลืองส่วนใหญ่ไม่ตอบสนองส่งกินถั่วเหลืองเลซิตินได้ ได้ แน่นอน ความเป็นไปได้ว่า บางส่วนของผู้บริโภคที่แพ้ถั่วเหลืองอ่อนไหวอาจตอบสนองการกินถั่วเหลืองเลซิติน เพื่อให้หลักสูตร เราบอกมาติดฉลากของเลซิตินเมื่อใช้เป็นส่วนประกอบเป็นอาหารโดยตรงเมตริกซ์ของเลซิตินและระดับโปรตีนต่ำมันให้ท้าทายวิธีวิเคราะห์ปัจจุบัน เกี่ยวกับการตรวจสอบของเลซิตินถั่วเหลืองในผลิตภัณฑ์อาหาร จำนวนของเลซิตินถั่วเหลืองที่ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารส่วนใหญ่จะปล่อยตกระดับดีต่ำกว่าขีดจำกัดของการตรวจสอบวิธีการตรวจหารายการที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เสี่ยงแพ้หลากหลายจะเกิดขึ้นจากการใช้อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยเลซิตินถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ จำนวนโปรตีนถั่วเหลืองที่สามารถโอนได้ผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันนี้ผลิตภัณฑ์ถัดไปดักรอ เป็นรองต่ำ ดังนั้น "allergen สะอาดลึกหนาบาง" ไม่จำเป็น ในความคิดของเรา อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันในกรณีที่ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ประกอบด้วยถั่วเหลือง เลซิตินเป็นส่วนผสมและที่สองไม่ได้ ถ้าถั่วเหลืองเลซิตินเป็นส่วนผสมเฉพาะในการกำหนดที่มาจากแหล่งแพ้โดยทั่วไปติดฉลาก Allergen อาหารและพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาต้องติดฉลากของเลซิตินถั่วเหลืองเมื่อใช้กำลังใด ๆ รวมถึงใช้เป็นตัวช่วยประมวลผล วันที่ อาหารและยาได้ให้ยกเว้นที่เดียวกับถั่วเหลืองเลซิตินติดฉลากจากกฎหมายนี้ บน 22 กุมภาพันธ์ 2013, FDA ได้รับแหล่งติดฉลากยกเว้นการเลือกถั่วเหลือง lecithins ผลิต โดย Solae, LLC เมื่อใช้เป็นตัวแทนนำใช้โดยตรงกับอาหารผิวติดต่อ ผลิตภัณฑ์เลซิตินถั่วเหลืองที่ผลิต โดยผู้ผลิตรายอื่นไม่ได้ยกเว้นอยู่ต้นทางติดฉลากสำหรับวัตถุประสงค์นี้ นอกจากนี้ บน 25 กุมภาพันธ์ 2013, FDA ต้องถอนคำแนะนำของ 2 may, 2006 ที่ได้รับ "คำแนะนำบน Labeling ของใช้บางอย่างสำหรับเลซิตินมาจากถั่วเหลืองภายใต้ 403(w) ในส่วนของรัฐบาลกลางอาหาร ยา และพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง" ซึ่งเดิมระบุยินดี โดยองค์การอาหารและยาที่จะใช้ "พิจารณากฎระเบียบ" ในการจัดการกับการติดฉลากของเลซิตินถั่วเหลืองในสถานการณ์ที่มีใช้ถั่วเหลืองเลซิตินเป็นตัวแทนติดปล่อยหรือปล่อยแพน ใช้ช่วยการประมวลผลทั่วไปในอุตสาหกรรมอาหาร FDA ตอนนี้จำเป็นต้องติดฉลากแหล่งของเลซิตินถั่วเหลืองเมื่อใช้ เป็นตัวแทนรุ่นที่ใช้กับพื้นผิวอาหารติดต่อโดยตรง หรือ เป็นส่วนผสมโดยตรงในผลิตภัณฑ์แบ่ง ยกเว้นเฉพาะ Solae ถั่วเหลืองเลซิตินผลิตภัณฑ์โดยตรงกับพื้นผิวติดต่ออาหารตามที่ระบุไว้ในการแจ้งเตือนยกเว้นเกี่ยวกับการทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันต่อการประมวลผลของสูตรที่ประกอบด้วยถั่วเหลืองเลซิติน FALCPA ไม่ stipulate เงื่อนไขที่ต้องดำเนินอย่างละเอียด allergen ล้าง เมื่ออุปกรณ์การประมวลผลแล้วใช้ในการผลิต ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ไม่ประกอบด้วยเจตนาเพิ่มถั่วเหลืองเลซิติน เจือจางจะเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ และอย่างรวดเร็วจะลดใด ๆ ตกค้าง allergen ถั่วเหลือง โดยขนาดของใบสั่งเพิ่มเติม ด้วยเหตุผลนี้ ไม่มีความเสี่ยงที่หลากหลายที่มีอยู่จากการใช้อุปกรณ์ร่วมกันในสถานการณ์นี้ และไม่จำเป็นต้องอยู่ทำความสะอาดอย่างละเอียด allergen ถ้าถั่วเหลืองเลซิตินเป็นแหล่งเดียวของ allergen กังวล พยายามประเมินความเพียงพอของการควบคุมเชิงป้องกันจะไม่จำเป็นเนื่องจากสารตกค้าง allergen ที่ทดสอบวิธีจะมีความไวต่อ insufficiently ตรวจสอบถั่วเหลือง โปรตีน/allergen ตกบนพื้นผิวของอุปกรณ์ การประมวลผลล้างน้ำ หรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ภายหลังที่ผลิตบนอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน Allergen ล้างหลังสูตรที่ประกอบด้วยถั่วเหลืองเลซิตินเป็นส่วนผสมแต่เพียงผู้เดียวที่ได้รับมาจากแหล่งทั่วไปแพ้ไม่จำเป็นในความเห็นของเราตามที่อธิบายไว้ข้างต้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถั่วเหลืองเป็นอย่างดีจำได้ว่าเป็นอาหารที่เป็นภูมิแพ้ สารก่อภูมิแพ้ถั่วเหลืองจะพบในส่วนของโปรตีน ส่วนใหญ่ของโปรตีนนี้จะถูกลบออกในกระบวนการผลิตเลซิตินจากถั่วเหลือง เลซิตินจากถั่วเหลืองจะมีร่องรอยของระดับโปรตีนถั่วเหลืองและเหล่านี้ได้พบว่าสารก่อภูมิแพ้รวมถึงถั่วเหลือง แต่เห็นได้ชัดว่าเลซิตินจากถั่วเหลืองไม่ได้มีสารตกค้างโปรตีนถั่วเหลืองเพียงพอที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้ในส่วนของผู้บริโภคถั่วเหลืองแพ้ โรคภูมิแพ้หลายคนไม่แนะนำให้ผู้ป่วยถั่วเหลืองแพ้ของพวกเขาเพื่อหลีกเลี่ยงการเลซิตินถั่วเหลืองเมื่อมีการรวมเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหาร จากมุมมองในทางปฏิบัตินี้เราสามารถคาดการณ์ว่าส่วนใหญ่บุคคลถั่วเหลืองแพ้ไม่ตอบสนองในทางลบที่จะบริโภคของเลซิตินถั่วเหลือง. ยังมีเป็นของหลักสูตรเป็นไปได้ว่าบางส่วนของผู้บริโภคถั่วเหลืองแพ้ความสำคัญมากขึ้นอาจจะตอบสนองต่อการบริโภคของ เลซิตินถั่วเหลืองดังนั้นแน่นอนเราทำสนับสนุนแหล่งที่มาของการติดฉลากของเลซิตินเมื่อมันถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมอาหารโดยตรง. เมทริกซ์มันของเลซิตินและระดับโปรตีนต่ำให้ความท้าทายที่จะวิธีการวิเคราะห์ในปัจจุบัน เกี่ยวกับการตรวจสอบของเลซิตินจากถั่วเหลืองในผลิตภัณฑ์อาหารปริมาณของเลซิตินจากถั่วเหลืองที่ใช้มากที่สุดในผลิตภัณฑ์อาหารที่จะออกจากสารตกค้างในระดับที่ต่ำกว่าขีด จำกัด ของการตรวจสอบของวิธีการตรวจสอบที่มีอยู่ในปัจจุบัน. ไม่มีความเสี่ยงที่เป็นภูมิแพ้เป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจากการใช้งานของอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันสำหรับผลิตภัณฑ์ ที่มีเลซิตินถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ที่ทำไม่ได้ ปริมาณของโปรตีนถั่วเหลืองที่กลัวจะถูกโอนไปยังผลิตภัณฑ์ต่อไปผลิตด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันนี้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษ ดังนั้น "สารก่อภูมิแพ้ลึกหนาบางสะอาด" ไม่จำเป็นต้องมีในความคิดของเราสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันในสถานการณ์ที่ผลิตภัณฑ์แรกที่มีเลซิตินจากถั่วเหลืองเป็นส่วนผสมและครั้งที่สองไม่ได้ถ้าเลซิตินจากถั่วเหลืองเป็นส่วนผสมเฉพาะในการกำหนดที่ได้รับมา จากแหล่งที่เป็นภูมิแพ้ทั่วไป. สารก่อภูมิแพ้อาหารติดฉลากและการคุ้มครองผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาต้องมีการติดฉลากของเลซิตินจากถั่วเหลืองเมื่อใช้ในความสามารถใด ๆ รวมถึงการใช้เป็นตัวช่วยในการประมวลผล ในวันที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้รับเพียงคนเดียวที่ได้รับการยกเว้นการติดฉลากเลซิตินจากถั่วเหลืองกฎหมายนี้ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2013 องค์การอาหารและยาได้รับการยกเว้นการติดฉลากแหล่งที่มาสำหรับการเลือก lecithins ถั่วเหลืองที่ผลิตโดย Solae, LLC เมื่อใช้เป็นตัวแทนออกมาใช้โดยตรงกับพื้นผิวที่สัมผัสกับอาหาร ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองเลซิตินที่ผลิตโดยผู้ผลิตอื่น ๆ ไม่ได้รับการยกเว้นจากการติดฉลากในปัจจุบันแหล่งที่มาเพื่อการนี้ นอกจากนี้เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2013 องค์การอาหารและยาถอนตัวออกเดือนพฤษภาคม 2, 2006 คำแนะนำเรื่อง "คำแนะนำเกี่ยวกับการแสดงฉลากของใช้บางอย่างสำหรับเลซิตินที่ได้มาจากถั่วเหลืองภายใต้มาตรา 403 (w) แห่งชาติอาหารยาเครื่องสำอางและวางตัว" ซึ่ง แต่เดิม ชี้ให้เห็นความตั้งใจโดย FDA จะใช้ "ดุลยพินิจกฎระเบียบ" ในการจัดการกับการติดฉลากของเลซิตินจากถั่วเหลืองในกรณีที่เลซิตินจากถั่วเหลืองที่ใช้เป็นไม้วางจำหน่ายหรือตัวแทนกระทะปล่อยประมวลผลร่วมกันใช้เครื่องช่วยในอุตสาหกรรมอาหาร องค์การอาหารและยาตอนนี้ต้องแหล่งที่มาของการติดฉลากของเลซิตินจากถั่วเหลืองเมื่อใช้เป็นตัวแทนรุ่นที่ใช้โดยตรงกับพื้นผิวที่สัมผัสกับอาหารหรือเป็นส่วนผสมโดยตรงในการกำหนดผลิตภัณฑ์ที่มีข้อยกเว้นของถั่วเหลืองที่เฉพาะเจาะจง Solae ผลิตภัณฑ์เลซิตินใช้โดยตรงกับพื้นผิวที่สัมผัสกับอาหารที่ระบุไว้ ประกาศได้รับการยกเว้น. ส่วนที่เกี่ยวกับการทำความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันดังต่อไปนี้การประมวลผลของสูตรที่มีเลซิตินจากถั่วเหลืองที่ FALCPA ไม่ได้กำหนดภายใต้เงื่อนไขที่กว้างขวางสารก่อภูมิแพ้ที่สะอาดขึ้นจะต้องมีการดำเนินการ เมื่อการประมวลผลอุปกรณ์ที่ใช้แล้วเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ไม่ได้มีเลซิตินจากถั่วเหลืองเพิ่มเจตนาเจือจางจะเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็วและจะช่วยลดสารตกค้างสารก่อภูมิแพ้ถั่วเหลืองใด ๆ โดยการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นของขนาด ด้วยเหตุผลนี้ไม่มีความเสี่ยงที่เป็นไปได้ที่มีอยู่จากการใช้อุปกรณ์ร่วมกันในกรณีนี้และไม่จำเป็นต้องมีอยู่สำหรับการทำความสะอาดสารก่อภูมิแพ้ที่กว้างขวางถ้าเลซิตินจากถั่วเหลืองเป็นแหล่งเดียวของความกังวลสารก่อภูมิแพ้ ความพยายามที่จะประเมินความเพียงพอของการควบคุมป้องกันใด ๆ จะไม่จำเป็นเพราะวิธีการทดสอบสารตกค้างสารก่อภูมิแพ้จะมีความละเอียดอ่อนไม่เพียงพอในการตรวจสอบโปรตีนถั่วเหลือง / สารก่อภูมิแพ้ตกค้างบนพื้นผิวการประมวลผลอุปกรณ์ล้างน้ำหรือในผลิตภัณฑ์ใด ๆ ภายหลังการผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันบน สารก่อภูมิแพ้ที่สะอาดขึ้นหลังจากที่สูตรที่มีเลซิตินจากถั่วเหลืองเป็นส่วนผสม แต่เพียงผู้เดียวที่ได้มาจากแหล่งที่มาที่เป็นภูมิแพ้โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องอยู่ในความคิดของเราที่ระบุไว้ข้างต้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถั่วเหลืองเป็นที่รู้จักดีเป็นอาหารภูมิแพ้ ถั่วเหลือง สารก่อภูมิแพ้ที่พบในโปรตีนเศษส่วน ส่วนใหญ่ของโปรตีนนี้จะถูกลบออกในถั่วเหลืองในการผลิต ถั่วเหลืองจะมีติดตามระดับของโปรตีนถั่วเหลือง และสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ได้ถูกพบ ได้แก่ ถั่วเหลือง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าถั่วเหลืองไม่ได้มีเพียงพอที่จะกระตุ้นปฏิกิริยาการแพ้โปรตีนถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง แพ้ในส่วนใหญ่ของผู้บริโภค หลาย allergists ไม่ได้แนะนำผู้ป่วยของพวกเขาเพื่อหลีกเลี่ยงการแพ้ถั่วเหลืองเลซิตินถั่วเหลืองเมื่อมันรวมเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหาร จากมุมมองในทางปฏิบัตินี้เราสามารถสันนิษฐานว่าบุคคลที่แพ้ถั่วเหลืองส่วนใหญ่ไม่ตอกกลับส่งการรับประทานเลซิตินถั่วเหลือง .

ยังไม่มี แน่นอน ความเป็นไปได้ว่าบางส่วนของถั่วเหลืองอ่อนไหวแพ้ผู้บริโภคอาจตอบสนองกับการรับประทานเลซิตินถั่วเหลือง ดังนั้นแน่นอนเราสนับสนุนการติดฉลากที่มาจากเมื่อมันถูกใช้เป็น อาหาร

ตรงส่วนผสมเมทริกซ์เลี่ยนของเลซิตินและระดับโปรตีนต่ำให้ความท้าทายเพื่อการวิเคราะห์ด้วยวิธีการในปัจจุบัน เกี่ยวกับการตรวจสอบของถั่วเหลืองในผลิตภัณฑ์อาหาร ปริมาณของถั่วเหลืองที่ใช้ส่วนใหญ่ในผลิตภัณฑ์อาหาร จะทิ้งสารตกค้างในระดับดีด้านล่างขีด จำกัด ของการตรวจสอบของที่มีอยู่

วิธีตรวจจับ .ไม่เสี่ยงภูมิแพ้ที่เป็นไปได้จะเกิดขึ้นจากการใช้อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีเลซิตินถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ที่ทำ ปริมาณของโปรตีนถั่วเหลืองที่น่ากลัวจะถูกโอนไปยังผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันนี้ต่ำเป็นพิเศษ ดังนั้น " ภูมิแพ้สะอาดลึกหนาบาง " โดยไม่จำเป็น ในความเห็นของเราสำหรับแชร์อุปกรณ์ ในสถานการณ์ที่เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่มีถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบ และอีกไม่ ถ้าถั่วเหลืองเป็นส่วนผสมในสูตรที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลทั่วไป

อาหารฉลากสารก่อภูมิแพ้และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคในสหรัฐฯ ต้องมีการติดฉลากของถั่วเหลืองที่ใช้ในการผลิตใด ๆ ,รวมทั้งใช้เป็นขั้นตอนการช่วยเหลือ วันที่ , &อาหารและยา ได้รับเพียงหนึ่งยกเว้นถั่วเหลืองเลซิติน การติดฉลาก จากกฎหมายนี้ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2013 , FDA ได้รับแหล่งที่มาของการติดฉลากยกเว้นเลือกขณะที่เลซิทินถั่วเหลืองที่ผลิตโดย solae , LLC เมื่อใช้เป็นตัวแทนรุ่นโดยตรงใช้กับพื้นผิวสัมผัสอาหารถั่วเหลืองผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยผู้ผลิตรายอื่นจะไม่ได้รับการยกเว้นจากการติดฉลากเพื่อวัตถุประสงค์นี้แหล่ง นอกจากนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 25 , 2013 , FDA ถอนของวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 เรื่อง " คำแนะนำบนฉลากคำแนะนำการใช้เลซิทินจากถั่วเหลือง ซึ่งบางมาตรา 403 ( W ) ของสหพันธ์อาหาร , ยาและทำ " เครื่องสำอางซึ่งแต่เดิมพบความตั้งใจโดย FDA เพื่อใช้ " ดุลยพินิจ " กฎระเบียบในการจัดการกับการติดฉลากของถั่วเหลืองในสภาพแวดล้อมที่ถั่วเหลืองใช้เป็นไม้รุ่นหรือตัวแทนรุ่นแพน ร่วมกันช่วยเหลือใช้แปรรูปในอุตสาหกรรมอาหารองค์การอาหารและยาในขณะนี้ต้องมีการติดฉลากของถั่วเหลืองเมื่อใช้เป็นตัวแทนรุ่นที่ใช้โดยตรงกับพื้นผิวสัมผัสอาหารได้โดยตรงหรือเป็นส่วนผสมในสูตรผลิตภัณฑ์แหล่งมีข้อยกเว้นเฉพาะ solae ถั่วเหลืองผลิตภัณฑ์โดยตรงใช้กับพื้นผิวสัมผัสอาหาร ตามที่ระบุในการแจ้งเตือน .

ด้วยความเคารพต่อความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันตามการประมวลผลของสูตรผสมถั่วเหลือง falcpa ไม่ได้กำหนดสภาวะการล้างสารก่อภูมิแพ้ที่กว้างขวางจะต้องดำเนินการ เมื่ออุปกรณ์การประมวลผลที่ใช้แล้วเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆที่ไม่ได้มีการเพิ่มจงใจ ถั่วเหลืองเจือจางจะเกิดขึ้นกับสินค้าอื่น ๆและจะได้อย่างรวดเร็วลดถั่วเหลืองภูมิแพ้ตกค้าง โดยสั่งเพิ่มขนาด ด้วยเหตุผลนี้ ไม่ได้เสี่ยงอยู่แล้วจากการใช้อุปกรณ์ร่วมกันได้ในสถานการณ์นี้ และไม่ต้องมีการทำความสะอาดอย่างละเอียด allergen ถ้าถั่วเหลืองเป็นแหล่งเดียวของสารก่อภูมิแพ้ที่เกี่ยวข้องพยายามที่จะประเมินความเพียงพอของการป้องกันการควบคุมก็ไม่จําเป็นเพราะวิธีการทดสอบสารก่อภูมิแพ้ตกค้างจะไม่ไวต่อการตรวจจับโปรตีนถั่วเหลือง / สารก่อภูมิแพ้ตกค้างในการประมวลผลพื้นผิวอุปกรณ์ บ้วนน้ำ หรือการใด ๆที่ตามมา ผลิตภัณฑ์ที่ผลิต อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันสะอาดขึ้นหลังจากสารก่อภูมิแพ้สูตรที่มีถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลเดียวที่ไม่ถูกต้องในความคิดของเราตามที่ระบุไว้ข้างต้น .