Siam Commercial Bank aims to resume

Siam Commercial Bank aims to resume the growth path in 2015, focusing on the SME and wholesale sectors rather than retail loans, because of the high level of household debt and the poor outlook for auto loans.
Last year was the first one in a while when SCB witnessed below-market loan growth, as slow domestic consumption could not support much retail lending, which accounts for 42 per cent of its outstanding loans. SCB's corporate portfolio accounts for 37 per cent, and small and medium-sized enterprises 20 per cent.

SCB president Kannikar Chalitaporn said the economic slowdown in 2014 forced the bank to be more cautious about non-performing loans (NPLs), and so it concentrated on customers who had to restructure their debts to ensure they were able to recover in 2015.

She said that with the positive economic outlook for this year, loan growth should be higher than in 2014 but would still not outpace the market average, because there were several risk factors that might affect the bank.

"Lending at SCB should grow by 5-6 per cent, in line with the banking industry, based on the assumption that gross domestic product will expand by 3.5 per cent. The drivers of growth will be SMEs and corporates, because 2014 was not a good year for retail lending, particularly auto loans," she said.

SCB will focus more on SMEs and corporates, as the trend for both sectors is positive momentum.

Kannikar said the high level of household debt would continue to put downward pressure on purchasing power, so SCB does not anticipate any sharp increase in mortgage lending. However, this is not all bad, as it would coincide with a lower property supply.

The lower prices of commodities also affect the purchasing power of people in the agricultural sector, another reason the bank will be less active in retail lending.

She added that the amended law on loan guarantees, which will come into effect on February 11, would be a barrier to auto and SME lending. Half of those borrowing for auto purchases use guarantors.

Following the amendment, banks will be required to notify the guarantor within 60 days if a borrower is in default, and the banks will be required to pursue defaulting borrowers before pursuing guarantors.

"In the case of debt restructuring, if the bank cannot contact the guarantor within 90 days, a borrower in need of be restructuring will default, and we don't want to see NPLs result from such cases. We want to help the customers, but we have to comply with the law as well," Kannikar said. She said the law might not have a serious impact on a bank business plan focusing on SMEs.

Separately, SCB is interested in opening a branch in Myanmar even though it has failed to acquire a licence to operate there. At present, it supports corporate clients doing business in Myanmar from its branches in Thailand.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ธนาคารไทยพาณิชย์มุ่งหวังกลับมาเส้นทางเติบโตใน 2015 เน้น SME และภาคการขายส่ง มากกว่าขายปลีกเงิน กู้ หนี้ครัวเรือนในระดับสูงและ outlook ไม่ดีสำหรับสินเชื่อรถยนต์ปีเป็นคนแรกในขณะเมื่อธนาคารเห็นเติบโตต่ำกว่าตลาดเงินกู้ยืม ตามปริมาณการใช้ในประเทศช้าสามารถสนับสนุนได้มากขายปลีกให้ยืม การบัญชีสำหรับ 42 ร้อยละของเงินกู้ยืมที่ค้างชำระ ผลงานของบริษัทธนาคารบัญชีสำหรับร้อยละ 37 และวิสาหกิจ ขนาดกลาง และขนาดเล็กร้อยละ 20กรรณิกาชลิตอาภรณ์กล่าวว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในปี 2014 บังคับธนาคารต้องระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับประธานธนาคารไม่ทำเงินกู้ (ก่อให้เกิด และอื่น ๆ มันเข้มข้นในลูกค้าที่มีการจัดโครงสร้างหนี้ให้พวกเขาสามารถกู้คืนใน 2015 เธอกล่าวว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจเป็นบวกในปีนี้ เจริญเติบโตของสินเชื่อควรจะสูงกว่าในปี 2014 แต่จะยังไม่ outpace ค่าเฉลี่ยตลาด เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่อาจส่งผลกระทบต่อธนาคาร"ให้กู้ยืมที่ธนาคารควรเติบโตโดย 5-6 ร้อยละ โดยอุตสาหกรรมการธนาคาร ตามสมมติฐานในประเทศที่รวมผลิตภัณฑ์จะขยายโดยร้อยละ 3.5 ไดรเวอร์ของการเจริญเติบโตจะเป็น SMEs และรู้สึก เพราะปี 2014 ไม่ใช่ปีที่ดีสำหรับการขายปลีกให้ยืม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์สินเชื่อ เธอกล่าวธนาคารจะเน้นมากขึ้น SMEs และรู้สึก เป็นแนวโน้มสำหรับภาคทั้ง โมเมนตัมในเชิงบวก กรรณิกากล่าวว่า ระดับของหนี้ครัวเรือนสูงจะยังคงวางลงดันกำลังซื้อ ดังนั้น SCB คาดสินเชื่อจำนองใด ๆ เพิ่มคมชัด อย่างไรก็ตาม นี้ไม่ได้เลว มันจะสอดคล้องกับอุปทานคุณสมบัติต่ำกว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของคนในภาคการเกษตร เหตุผลอื่นธนาคารจะงานน้อยให้ยืมขายปลีกเธอกล่าวเพิ่มเติมว่า ตามกฎหมายค้ำประกันสินเชื่อ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ แก้ไขจะเป็นอุปสรรคต่อรถยนต์และสินเชื่อ SME ครึ่งหนึ่งของผู้กู้ยืมสำหรับซื้อรถยนต์ใช้ guarantorsธนาคารจะต้องแจ้งให้ผู้ค้ำประกันภายใน 60 วันถ้าผู้กู้ยืมเริ่มต้น และธนาคารจะต้องไล่ผู้กู้เริ่มต้นก่อนที่จะใฝ่หา guarantors ต่อแก้ไข"ในกรณีของการปรับโครงสร้างหนี้ ถ้าธนาคารไม่สามารถติดต่อผู้ค้ำประกันภายใน 90 วัน กู้ไร้สามารถปรับโครงสร้างจะเริ่มต้น และเราไม่อยากดูก่อให้เกิดผลจากกรณีดังกล่าว กรรณิกากล่าวว่า เราต้องการช่วยเหลือลูกค้า แต่เราต้องปฏิบัติตามกฎหมายเช่น, " เธอกล่าวว่า กฎหมายอาจมีผลกระทบร้ายแรงในแผนธุรกิจธนาคารที่เน้น SMEsแยก ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับความสนใจในการเปิดสาขาในพม่าแม้จะไม่สามารถได้รับใบอนุญาตการใช้งานมี ปัจจุบัน สนับสนุนลูกค้าบริษัทที่ทำธุรกิจในพม่าจากสาขาในประเทศไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ธนาคารไทยพาณิชย์มีเป้าหมายที่จะดำเนินการต่อเส้นทางการเจริญเติบโตในปี 2015 โดยมุ่งเน้นที่ธุรกิจ SME และภาคการค้าส่งมากกว่าสินเชื่อรายย่อยเพราะระดับสูงของหนี้ภาคครัวเรือนและแนวโน้มที่ไม่ดีสำหรับสินเชื่อรถยนต์.
ปีที่ผ่านมาเป็นคนแรกในขณะที่เมื่อ ธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมเป็นสักขีพยานต่ำกว่าตลาดการเติบโตของสินเชื่อในขณะที่การบริโภคภายในประเทศชะลอตัวอาจไม่สนับสนุนสินเชื่อรายย่อยมากซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 42 ของเงินให้สินเชื่อที่โดดเด่น ธนาคารไทยพาณิชย์บัญชีผลงานขององค์กรเป็นร้อยละ 37 และองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางร้อยละ 20. ประธานธนาคารไทยพาณิชย์กรรณิกาชลิตอาภรณ์กล่าวว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจในปี 2014 บังคับให้ธนาคารที่จะต้องระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) และดังนั้นจึงมีความเข้มข้น กับลูกค้าที่มีการปรับโครงสร้างหนี้ของพวกเขาเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถที่จะฟื้นตัวในปี 2015 เธอกล่าวว่ามีแนวโน้มเศรษฐกิจในเชิงบวกสำหรับปีนี้การเติบโตของสินเชื่อควรจะสูงกว่าในปี 2014 แต่ยังไม่แซงหน้าค่าเฉลี่ยของตลาดเพราะมี หลายปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อธนาคาร. "สินเชื่อที่ธนาคารไทยพาณิชย์จะเติบโตร้อยละ 5-6 ในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมการธนาคารที่อยู่บนสมมติฐานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศจะขยายตัวร้อยละ 3.5. ไดรเวอร์ของการเจริญเติบโตจะเป็น ผู้ประกอบการ SMEs และ บริษัท เอกชนเพราะ 2014 ไม่ได้เป็นปีที่ดีสำหรับสินเชื่อรายย่อยโดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ "เธอกล่าว. ไทยพาณิชย์จะเน้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ประกอบการ SMEs และ บริษัท เอกชนเป็นแนวโน้มสำหรับทั้งภาคเป็นโมเมนตัมเชิงบวก. กรรณิการ์กล่าวว่าระดับสูงของหนี้ภาคครัวเรือน จะยังคงสร้างแรงกดดันลดลงเมื่อกำลังซื้อดังนั้นธนาคารไทยพาณิชย์ไม่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อจำนอง แต่นี้ไม่ได้เลวร้ายทั้งหมดมันจะตรงกับการจัดหาสถานที่ให้บริการที่ต่ำกว่า. ลดราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ยังส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของคนในภาคเกษตรอีกเหตุผลหนึ่งที่ธนาคารจะมีการใช้งานน้อยลงในสินเชื่อรายย่อย. เธอเสริมว่า แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเกี่ยวกับการค้ำประกันเงินกู้ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์จะเป็นอุปสรรคต่อการอัตโนมัติและการปล่อยสินเชื่อ SME ครึ่งหนึ่งของผู้กู้ยืมเงินสำหรับการซื้อรถยนต์ใช้ค้ำประกัน. แก้ไขดังต่อไปนี้ธนาคารจะต้องแจ้งให้ผู้ค้ำประกันภายใน 60 วันหากผู้กู้ผิดนัดและธนาคารจะต้องไล่ตามผู้กู้ผิดนัดก่อนที่จะใฝ่หาผู้ค้ำประกัน. "ในกรณีที่ การปรับโครงสร้างหนี้ถ้าธนาคารไม่สามารถติดต่อผู้ค้ำประกันภายใน 90 วันผู้กู้ในความต้องการของการปรับโครงสร้างจะจะเริ่มต้นและเราไม่ต้องการที่จะเห็น NPLs เป็นผลมาจากกรณีดังกล่าว. เราต้องการที่จะช่วยให้ลูกค้า แต่เราจะต้อง ปฏิบัติตามกฎหมายเช่นกัน "นางกรรณิกากล่าวว่า เธอกล่าวว่ากฎหมายไม่อาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อแผนธุรกิจที่ธนาคารมุ่งเน้นไปที่ผู้ประกอบการ SMEs. แยกธนาคารไทยพาณิชย์ที่มีความสนใจในการเปิดสาขาในพม่าแม้จะล้มเหลวที่จะได้รับใบอนุญาตให้ประกอบมี ในปัจจุบันจะสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่ทำธุรกิจในพม่าจากสาขาในประเทศไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ธนาคารมุ่งที่จะต่อเส้นทางการเติบโตในปี 2558 เน้น SMEs และภาคค้าปลีกขายส่งมากกว่าเงินกู้ เพราะระดับของหนี้ภาคครัวเรือน และมุมมองที่ไม่ดีสำหรับเงินให้สินเชื่อรถยนต์ .
เมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรกในขณะเมื่อมหาชนเห็นด้านล่าง การเติบโตของสินเชื่อในตลาด ขณะที่การบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัว อาจไม่ สนับสนุนสินเชื่อมากขายปลีกที่บัญชีสำหรับ 42 ร้อยละของสินเชื่อที่โดดเด่นของ ผลงานของ บริษัท บัญชีธนาคาร สำหรับ 37 เปอร์เซ็นต์ และ องค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางร้อยละ 20

ธนาคารถือครองหลักทรัพย์ กล่าวว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปี 2014 บังคับธนาคารจะระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับหนี้ )และดังนั้นจึงเน้นลูกค้าที่มีการปรับโครงสร้างหนี้ของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถกู้ในปี 2015

เธอกล่าวว่า ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจในเชิงบวกสำหรับปีนี้ การเติบโตของสินเชื่อจะสูงกว่าในปี 2014 แต่ก็ยังไม่ไปเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด เนื่องจากมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อธนาคาร

" การให้กู้ยืมเงินธนาคารควรจะเติบโต 5-6 เปอร์เซ็นต์สอดคล้องกับอุตสาหกรรมการธนาคาร อยู่บนสมมติฐานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจะขยายตัวร้อยละ 3.5 เปอร์เซ็นต์ . ไดรเวอร์ของการเจริญเติบโตจะเป็น SMEs และบุคคลธรรมดา เพราะ 2014 ไม่ใช่ปีที่ดีสำหรับสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ , " เธอกล่าว .

ธนาคารจะมุ่งเน้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SMEs และบุคคลธรรมดา เป็นแนวโน้มสำหรับทั้งสองภาคเป็นโมเมนตัมที่เป็นบวก

กรรณิการ์กล่าวว่า ระดับหนี้ครัวเรือนจะยังคงให้ลงดันกำลังซื้อ ดังนั้นธนาคารไม่ได้คาดหวังการเพิ่มขึ้นในการให้กู้ยืมจำนอง อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ไม่ดีทั้งหมด มันจะตรงกับที่จัดหาทรัพย์สินที่ลดลง

ลดราคาของสินค้าที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในภาคเกษตรอีกเหตุผลที่ธนาคารจะใช้งานน้อยลงในการปล่อยสินเชื่อรายย่อย

เธอเสริมว่า การแก้ไขกฎหมายค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ จะเป็นอุปสรรคต่ออัตโนมัติ และเอสเอ็มอี ที่ให้ยืม ครึ่งหนึ่งของผู้กู้เงินซื้อรถยนต์ใช้ไว้

ต่อไปนี้การแก้ไข ธนาคารจะต้องแจ้งให้บริษัทภายใน 60 วัน ถ้าผู้กู้เป็นค่าเริ่มต้นและธนาคารจะต้องติดตามผู้กู้ผิดนัดก่อนการใฝ่หาไว้

" ในกรณีของการปรับโครงสร้างหนี้ หากธนาคารไม่สามารถติดต่อบริษัทภายใน 90 วัน ผู้กู้ต้องมีการปรับโครงสร้าง จะเริ่มต้น และเราไม่อยากให้มี ผลจากกรณีดังกล่าว เราต้องการที่จะช่วยให้ลูกค้า แต่เราต้องทำตามกฎหมายเช่นกัน " กรรณิการ์กล่าวเธอกล่าวว่ากฎหมายไม่อาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธนาคาร แผนธุรกิจเน้น SMEs

แยกธนาคารมีความสนใจในการเปิดสาขาในประเทศพม่า ถึงแม้ว่ามันจะล้มเหลวที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้อยู่ ปัจจุบันสนับสนุนลูกค้าองค์กรธุรกิจในพม่า จากสาขาในประเทศไทย