The Economy of the Philippines is t

The Economy of the Philippines is the 39th largest in the world, according to 2013 World Bank statistics, and is also one of the emerging markets in the world.[24] The Philippines is considered as a newly industrialized country, which has been transitioning from being one based on agriculture to one based more on services and manufacturing. According to the World Bank ICP 2011, the estimated 2011 GDP (purchasing power parity) was $543.7 billion.[25] Goldman Sachs estimates that by the year 2050, the Philippines will be the 14th largest economy in the world, Goldman Sachs also included the Philippines in its list of the Next Eleven economies. According to HSBC, the Philippine economy will become the 16th largest economy in the world, 5th largest economy in Asia and the largest economy in the Southeast Asian region by 2050.[26]

Primary exports include semiconductors and electronic products, transport equipment, garments, copper products, petroleum products, coconut oil, and fruits. Major trading partners include the United States, Japan, China, Singapore, South Korea, the Netherlands, Hong Kong, Germany, Taiwan, and Thailand. The Philippines has been named as one of the Tiger Cub Economies together with Indonesia, Malaysia and Thailand. It is currently one of Asia's fastest growing economies. However, major problems remain, mainly having to do with alleviating the wide income and growth disparities between the country's different regions and socioeconomic classes, reducing corruption, and investing in the infrastructure necessary to ensure future growth.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์เป็น 39th ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามโลก 2013 ธนาคารสถิติ และยังเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ในโลก[24] ฟิลิปปินส์ถือว่าเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งได้ถูกเปลี่ยนจากตามเกษตรไปใช้บริการและการผลิตมากขึ้น ตามธนาคารโลก ICP 2011, 2011 ประเมิน GDP (ความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ) เป็น $543.7 พันล้าน[25] โกลด์แมนแซคส์ประเมินว่า ภายในปี 2050 ฟิลิปปินส์จะ 14 เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก โกลด์แมนแซคส์ยังรวมฟิลิปปินส์ในรายชื่อถัดไปคถูกเศรษฐกิจ ตามเอชเอสบีซี เศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะกลายเป็น 16 เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก เศรษฐกิจ 5 ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2050[26]ส่งออกหลักได้แก่อิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ขนส่ง เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ทองแดง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม น้ำมันมะพร้าว และผลไม้ คู่ค้าสำคัญได้แก่สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ Hong Kong เยอรมัน ไต้หวัน และประเทศไทย ฟิลิปปินส์ถูกตั้งชื่อเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจ Cub เสือร่วมกับอินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทย ก็ปัจจุบันเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญครั้ง ส่วนใหญ่ต้องทำบรรเทาการทั้งรายได้และการเติบโตความแตกต่างระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศและประชากรชั้น ลดความเสียหาย และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจำเป็นเพื่อให้เจริญเติบโตในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์เป็น 39 ใหญ่ที่สุดในโลกตามสถิติ 2013 World Bank, และยังเป็นหนึ่งในตลาดที่เกิดขึ้นใหม่ในโลก. [24] ฟิลิปปินส์ถือเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ซึ่งได้รับการเปลี่ยนจาก ถูกอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นอยู่กับการเกษตรเพื่อหนึ่งขึ้นอยู่กับการให้บริการและการผลิต ตามที่ธนาคารโลก ICP 2011, ประมาณ 2011 จีดีพี (กำลังซื้อภาค) เป็น $ 543,700,000,000. [25] โกลด์แมนแซคส์คาดการณ์ว่าภายในปี 2050 ที่ฟิลิปปินส์จะเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด 14 ในโลกที่โกลด์แมนแซคส์ยังรวมถึง ประเทศฟิลิปปินส์ในรายการของเศรษฐกิจ Eleven ถัดไป ตามที่เอสบีซี, เศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด 16 ในโลกที่เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ในเอเชียและเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2050 [26] ส่งออกหลัก ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์, อุปกรณ์การขนส่งเสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ทองแดงผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมน้ำมันมะพร้าวและผลไม้ ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, จีน, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์, ฮ่องกง, เยอรมัน, ไต้หวันและไทย ฟิลิปปินส์ได้รับเสนอชื่อเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจเสือร่วมกับอินโดนีเซีย, มาเลเซียและไทย ขณะนี้เป็นหนึ่งของเอเชียเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามปัญหาที่สำคัญยังคงอยู่ส่วนใหญ่มีจะทำอย่างไรกับการบรรเทารายได้กว้างและความแตกต่างระหว่างการเจริญเติบโตของประเทศในภูมิภาคที่แตกต่างกันและชั้นเรียนทางเศรษฐกิจและสังคมลดการทุจริตและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการเติบโตในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์มีงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามสถิติปี 2556 ธนาคารโลก และยังเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ในโลก [ 24 ] ฟิลิปปินส์ถือว่าเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งได้มีการเปลี่ยนจากการเป็นหนึ่งขึ้นอยู่กับการเกษตรหนึ่งใช้เพิ่มเติมในการบริการและการผลิต ตามที่ธนาคารทั่วโลก ICP 2011ประมาณปี 2554 GDP ( อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย ) คือ $ 543.7 พันล้าน [ 25 ] Goldman Sachs ประมาณการว่าภายในปี ค.ศ. 2050 ฟิลิปปินส์จะเป็นเศรษฐกิจ 14 ที่ใหญ่ที่สุดในโลก , โกลด์แมน แซคส์ ยังรวมถึง ฟิลิปปินส์ ในรายการของประเทศที่ 11 ต่อไป ตามที่ ธนาคารเอชเอสบีซี เศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด 16 ของโลกเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 5 ในเอเชียและเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดย 2050 . [ 26 ]

หลักส่งออก ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ และ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การขนส่ง เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ทองแดง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม น้ำมันมะพร้าว และผลไม้ ประเทศคู่ค้าหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ เกาหลี เนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง เยอรมนี ไต้หวันและประเทศไทย ฟิลิปปินส์ได้รับการตั้งชื่อเป็นหนึ่งในเสือเศรษฐกิจร่วมกับ อินโดนีเซีย , มาเลเซีย และไทย มันเป็นปัจจุบันหนึ่งในเอเชียของประเทศที่เติบโตเร็วที่สุด . อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักยังคงเป็นหลักที่เกี่ยวข้องกับรายได้ที่กว้างและแก้ไขความแตกต่างระหว่างการเจริญเติบโตของประเทศภูมิภาคที่แตกต่างกันและชั้นเรียนและการลดความเสียหายและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจการเติบโตในอนาคต