In 1951, on the initiative of the U

In 1951, on the initiative of the UNHCR began operations, and through periodic renewals of its authority, continues as the general international agency for refugee protection. The office is non operational in its program and is thus dependent on governments and voluntary agencies for staffing the direct-care facilities for refugees. Excluded from the high commissioner's jurisdiction are refugees considered as nationals by the countries granting them asylum and refugees, such as the Palestine group, for whom separate United Nations programs have been established. At first no direct relief assistance was furnished by the UNHCR, but gradually this restriction has been relaxed. However, with an annual budget for both regular and special programs of $500 million raised by voluntary contributions, the office must depend primarily on other agencies for the direct aid that refugees require. The mandate for the UNHCR is thus very similar to that of the League of Nations high commissioner. The main functions are (1) furnishing legal protection to refugees; (2) facilitating repatriation, resettlement, and assimilation of refugees; (3) coordinating the efforts of governments and private agencies; (4) stimulating international action on behalf of refugees; and (5) providing technical assistance on a very modest scale.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน 1951 ในความคิดริเริ่มของยูเอ็นเอชซีเริ่มการดำเนินงาน และผ่าน renewals ประจำงวดของความ ยังคงเป็นหน่วยงานนานาชาติทั่วไปคุ้มครองผู้ลี้ภัย สำนักงานไม่ใช่งานในตน และจึงขึ้นอยู่กับรัฐบาลและหน่วยงานที่สมัครใจสำหรับพนักงานบริการโดยตรงดูแลผู้ลี้ภัย แยกออกจากอำนาจของข้าจะถือว่าเป็นชาวประเทศให้ลี้ภัยโดยผู้ลี้ภัยและผู้ลี้ภัย เช่นกลุ่มปาเลสไตน์ ซึ่งได้มีการกำหนดแยกต่างหากโปรแกรมสหประชาชาติ ครั้งแรกขอความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์โดยตรงไม่ได้ตกแต่ง โดยยูเอ็นเอชซี แต่ข้อจำกัดนี้ได้ผ่อนคลายแล้วค่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยงบประมาณการประจำปีทั้งประจำ และพิเศษโปรแกรมของ $500 ล้านขึ้น โดยระดม สำนักงานต้องเป็นหลักขึ้นอยู่กับหน่วยงานอื่น ๆ สำหรับความช่วยเหลือโดยตรงที่ผู้ลี้ภัยต้องการ ข้อบังคับสำหรับยูเอ็นเอชซีจึงคล้ายคลึงกับของสันนิบาตชาติข้า หน้าที่หลักคือ (1) เฟอร์นิเจอร์ตามกฎหมายคุ้มครองผู้ลี้ภัย (2) การส่งกลับ การตั้งถิ่นฐานใหม่ และผสมกลมกลืนของผู้ลี้ภัย อำนวยความสะดวก (3) ความพยายามของรัฐบาลและหน่วยงานเอกชน ประสานงาน (4) การดำเนินการระหว่างประเทศในนามของผู้ลี้ภัย กระตุ้น และ (5) ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคในระดับที่เจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1951 ในความคิดริเริ่มของ UNHCR เริ่มดำเนินการและผ่านการต่ออายุเป็นระยะ ๆ ของผู้มีอำนาจของมันยังคงเป็นหน่วยงานระหว่างประเทศทั่วไปสำหรับการป้องกันผู้ลี้ภัย สำนักงานไม่ใช่การดำเนินงานในโครงการและจึงขึ้นอยู่กับรัฐบาลและหน่วยงานที่สมัครใจสำหรับพนักงานโดยตรงสิ่งอำนวยความสะดวกดูแลผู้ลี้ภัย แยกออกจากอำนาจราชทูตมีผู้ลี้ภัยถือเป็นชาติของประเทศอนุญาตให้ลี้ภัยและผู้ลี้ภัยเช่นกลุ่มปาเลสไตน์ซึ่งแยกโปรแกรมสหประชาชาติได้รับการจัดตั้งขึ้น ตอนแรกไม่มีความช่วยเหลือบรรเทาโดยตรงตกแต่งโดย UNHCR แต่ค่อยๆข้อ จำกัด นี้ได้รับการผ่อนคลาย แต่ด้วยงบประมาณประจำปีสำหรับทั้งโปรแกรมปกติและพิเศษของ $ 500,000,000 เพิ่มขึ้นโดยความสมัครใจของสำนักงานจะต้องขึ้นอยู่กับหลักในหน่วยงานอื่น ๆ สำหรับความช่วยเหลือโดยตรงว่าผู้ลี้ภัยต้อง อาณัติสำหรับ UNHCR จึงคล้ายกับที่ของสันนิบาตแห่งชาติราชทูต หน้าที่หลักคือ (1) การป้องกันการตกแต่งตามกฎหมายที่จะลี้ภัย; (2) การอำนวยความสะดวกในการส่งกลับ, การตั้งถิ่นฐานและการดูดซึมของผู้ลี้ภัย; (3) การประสานงานความพยายามของรัฐบาลและหน่วยงานภาคเอกชน; (4) การกระตุ้นการดำเนินการระหว่างประเทศในนามของผู้ลี้ภัย; และ (5) การให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคในระดับเจียมเนื้อเจียมตัวมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1951 , ความคิดริเริ่มของยูเอ็นเอชซีอาร์ เริ่มดําเนินการและผ่านระยะเวลาต่ออายุอำนาจของมันยังคงเป็นหน่วยงานทั่วไประหว่างประเทศเพื่อการคุ้มครองผู้ลี้ภัย ออฟฟิศไม่ปฏิบัติในโปรแกรมของตนและจึงขึ้นอยู่กับรัฐบาลและหน่วยงานอาสาสมัครของพนักงานที่ดูแลโดยตรงเครื่อง สำหรับผู้อพยพแยกออกจากข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยเป็นเขตอำนาจของประเทศ โดยประเทศที่อนุญาตให้ผู้อพยพลี้ภัย และ เช่น กลุ่มปาเลสไตน์ ซึ่งโปรแกรมสหประชาชาติแยกได้รับการจัดตั้งขึ้น ตอนแรกไม่ตรงโล่ง ตกแต่งโดยได้รับความช่วยเหลือจากยูเอ็นเอชซีอาร์ แต่ค่อย ๆ ข้อ จำกัด นี้ได้รับการผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามด้วยงบประมาณประจำปี สำหรับโปรแกรมทั้งภาคปกติและพิเศษของ $ 500 ล้านบาท โดยยกผลงานอาสาสมัคร สำนักงานต้องขึ้นอยู่กับหลักในหน่วยงานอื่น ๆสำหรับความช่วยเหลือโดยตรงที่ผู้ลี้ภัยต้องการ อาณัติสำหรับผู้ลี้ภัยจึงคล้ายกับที่ของสันนิบาตชาติ ข้าหลวงใหญ่ . หน้าที่หลักคือ ( 1 ) การคุ้มครองทางกฎหมายแก่ผู้ลี้ภัย ;( 2 ) ส่งเสริมการส่งกลับ , การอพยพโยกย้ายถิ่นฐาน และการผสมผสานของผู้ลี้ภัย ( 3 ) การประสานงานความพยายามของรัฐบาลและเอกชน ; ( 4 ) กระตุ้นการกระทำระหว่างประเทศในนามของผู้ลี้ภัย และ ( 5 ) การให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคในระดับเจียมเนื้อเจียมตัวมาก