Vitamin C deficiency globally affec

Vitamin C deficiency globally affects several hundred million people and has been associated with increased morbidity and mortality in numerous studies. In this study, bioavailability of the oxidized form of vitamin C (l-dehydroascorbic acid or DHA)—commonly found in vitamin C containing food products prone to oxidation—was studied. Our aim was to compare tissue accumulation of vitamin C in guinea pigs receiving different oral doses of either ascorbate or DHA. In all tissues tested (plasma, liver, spleen, lung, adrenal glands, kidney, muscle, heart, and brain), only sporadic differences in vitamin C accumulation from ascorbate or DHA were observed except for the lowest dose of DHA (0.25 mg/ml in the drinking water), where approximately half of the tissues had slightly yet significantly less vitamin C accumulation than from the ascorbate source. As these results contradicted data from rats, we continued to explore the ability to recycle DHA in blood, liver and intestine in guinea pigs, rats and mice. These investigations revealed that guinea pigs have similar recycling capacity in red blood cells as observed in humans, while rats and mice do not have near the same ability to reduce DHA in erythrocytes. In liver and intestinal homogenates, guinea pigs also showed a significantly higher ability to recycle DHA compared to rats and mice. These data demonstrate that DHA in guinea pigs—as in humans—is almost as effective as ascorbate as vitamin C source when it comes to taking up and storing vitamin C and further suggest that the guinea pig is superior to other rodents in modeling human vitamin C homeostasis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขาดวิตามินซีมีผลต่อหลายร้อยล้านคนทั่วโลก และได้เชื่อมโยงกับการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นและตายในการศึกษาจำนวนมาก ในการศึกษานี้ การดูดซึมแบบออกซิไดซ์ของวิตามินซี (กรด l dehydroascorbic หรือดีเอชเอ) ซึ่งมักพบในผลิตภัณฑ์อาหารมีแนวโน้มการเกิดออกซิเดชันที่ประกอบด้วยวิตามินซี — เป็นศึกษา เป้าหมายของเราคือการ เปรียบเทียบเนื้อเยื่อสะสมของวิตามินซีในหนูตะเภารับปริมาณช่องปากแตกต่างกันของ ascorbate หรือ DHA ในเนื้อเยื่อทั้งหมดผ่านทดสอบ (พลา ตับ ม้าม ปอด ต่อมหมวกไต ไต กล้ามเนื้อ หัวใจ และสมอง), วิตามินซีสะสมจาก ascorbate หรือ DHA เพียงประปรายต่างถูกสังเกตยกเว้นปริมาณ DHA (0.25 mg/ml ในน้ำดื่ม), ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งของเนื้อเยื่อได้เล็กน้อยแต่สะสมวิตามินซีมากน้อยกว่าจากแหล่ง ascorbate ต่ำสุด ฐานะเหล่านี้ contradicted ข้อมูลผลจากหนู เรายังคงสำรวจความสามารถในการรีไซเคิล DHA ในเลือด ตับ และลำไส้หนูตะเภา หนู และหนู ตรวจสอบเหล่านี้เปิดเผยว่า หนูตะเภามีจุรีไซเคิลที่คล้ายกันในเซลล์เม็ดเลือดแดงสังเกตในมนุษย์ ในขณะที่หนูและหนูไม่ได้ใกล้ความสามารถเดียวกันเพื่อลดดีเอชเอในเม็ดเลือดแดง ในตับและลำไส้ homogenates หนูตะเภายังพบความนัยรีไซเคิล DHA เมื่อเทียบกับหนูและหนู ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า DHA ในหนูตะเภา — เช่นเดียวกับในมนุษย์ — เกือบเป็นที่มีประสิทธิภาพเป็น ascorbate เป็นแหล่งวิตามินซีเมื่อมันมาถึงการขึ้น และการจัดเก็บวิตามินซี และแนะนำเพิ่มเติม ว่าตะเภาเหนืออื่น ๆ หนูในสภาวะสมดุลมนุษย์วิตามินซี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การขาดวิตามินซีมีผลกระทบต่อทั่วโลกหลายร้อยล้านคนและมีความเกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นในการศึกษาจำนวนมาก ในการศึกษานี้การดูดซึมของรูปแบบออกซิไดซ์ของวิตามิน C (วิตามิน L-dehydroascorbic หรือ DHA) พบ -commonly วิตามินซีที่มีผลิตภัณฑ์อาหารที่มีแนวโน้มที่จะถูกออกซิเดชั่ศึกษา จุดมุ่งหมายของเราคือการเปรียบเทียบการสะสมเนื้อเยื่อของวิตามินซีในหนูตะเภาได้รับในปริมาณที่แตกต่างกันในช่องปากของทั้ง ascorbate หรือดีเอชเอ ในเนื้อเยื่อทดสอบทั้งหมด (พลาสม่า, ตับ, ม้ามปอดต่อมหมวกไต, ไต, กล้ามเนื้อหัวใจและสมอง) ที่แตกต่างกันเป็นระยะ ๆ เฉพาะในการสะสมวิตามิน C จาก ascorbate หรือ DHA ถูกตั้งข้อสังเกตยกเว้นปริมาณต่ำสุดของดีเอชเอ (0.25 mg / มิลลิลิตรในน้ำดื่ม) ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งของเนื้อเยื่อมีเล็กน้อย ๆ อย่างมีนัยสำคัญการสะสมวิตามินซีน้อยกว่าจากแหล่ง ascorbate ในฐานะที่เป็นผลลัพธ์เหล่านี้ขัดแย้งกับข้อมูลจากหนูเราอย่างต่อเนื่องในการสำรวจความสามารถในการรีไซเคิล DHA ในเลือดตับและลำไส้ในหนูตะเภาหนู ตรวจสอบเหล่านี้เผยให้เห็นว่าหนูตะเภามีความสามารถในการรีไซเคิลที่คล้ายกันในเซลล์เม็ดเลือดแดงเป็นข้อสังเกตในมนุษย์ในขณะที่หนูไม่ได้มีความสามารถใกล้เดียวกันเพื่อลด DHA ในเม็ดเลือดแดง ในตับและลำไส้ homogenates หนูตะเภายังแสดงให้เห็นความสามารถที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการรีไซเคิล DHA เมื่อเทียบกับหนู ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าดีเอชเอในประเทศกินีในสุกรในฐานะมนุษย์เกือบจะเป็นที่มีประสิทธิภาพเป็น ascorbate เป็นแหล่งวิตามินซีเมื่อมันมาถึงการขึ้นและการจัดเก็บวิตามินซีและยังชี้ให้เห็นว่าหนูตะเภาจะดีกว่าหนูที่อื่น ๆ ในการสร้างแบบจำลองวิตามินมนุษย์ C สภาวะสมดุล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาวะขาดวิตามินซีมีผลหลายร้อยล้านคนทั่วโลก และได้รับการเกี่ยวข้องกับการเพิ่มอัตราการเจ็บป่วยและการตายในการศึกษามากมาย ในการศึกษานี้ได้จากการดูดซึมของรูปแบบของวิตามินซี ( กรด l-dehydroascorbic หรือ DHA ) มักพบในวิตามิน C ที่มีผลิตภัณฑ์อาหารเสี่ยงเกิดเรียน เป้าหมายของเราคือเพื่อเปรียบเทียบการสะสมของวิตามิน ซี ในหนูทดลองที่ได้รับแตกต่างกันในช่องปากยาให้ชาหรือ DHA . ในเนื้อเยื่อทุกการทดสอบ ( พลาสม่า , ตับ , ม้าม , ปอด , ต่อมหมวกไต ไต กล้ามเนื้อ หัวใจ และสมอง ) , ความแตกต่างเพียงประปรายในวิตามินที่สะสมจากการเปลี่ยนแปลงหรือ DHA ที่พบ ยกเว้นปริมาณต่ำสุดของ DHA ( 0.25 มก. / มล. ในน้ำ ) ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งของเนื้อเยื่อได้ เล็กน้อย แต่น้อยกว่าการสะสมมากกว่าวิตามิน C จากจากแหล่งที่มา ขณะที่ผลลัพธ์เหล่านี้ขัดแย้งกับข้อมูลจากหนู เรายังคงสำรวจความสามารถในการรีไซเคิล DHA ในเลือด ตับ และลำไส้ในหนูทดลอง และหนู การตรวจสอบเหล่านี้พบว่า หนูทดลองมีความสามารถคล้ายกันรีไซเคิลในเซลล์เม็ดเลือดแดงที่พบในมนุษย์ ในขณะที่หนูและหนูไม่ได้มีใกล้ความสามารถเดียวกันเพื่อลดกรดไขมันในเซลล์ . ในตับและลำไส้ homogenates หนูตะเภา พบว่า ความสามารถในการรีไซเคิล DHA สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับหนูและหนู ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า DHA ในหนูตะเภาที่เป็นมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพเกือบเท่าเป็นวิตามินซีจากแหล่งที่เมื่อมันมาถึงการจัดเก็บ และวิตามิน ซี และ เพิ่มเติม พบว่า หนูทดลองจะเหนือกว่าสัตว์อื่น ๆในการสร้างสมดุล วิตามิน ซี ของมนุษย์