This brings us to our first questio

This brings us to our first question - is leadership a birth-talent distributed randomly by divinity or can it be infused and learned under proper environmental control?

We have throughout our lives met proponents of both theories and it would empirically appear that leadership-is-natural believers hold the better advantage.

Supporters of this theory note that world leaders in the past were not people grilled at training schools; they just had it in them, or as many people say, they were "born leaders".

The bigger issue here is: Can leadership be taught? Well, let us analyse this in brief.

The 'natural' leaders mentioned above did not know during their childhood that they were supposed to be leaders someday. They led normal lives until one day they consciously decided to pursue their staunch belief and pursue a passion to bring about change for the better.

They stood for change intensely challenged by the then prevalent societal thinking. Granted that they had the opportunity but I guess, we all have had our opportunities if we reflect back and will continue having them…we just fail to seize them.

The great names above and many more leaders of note saw, seized and capitalized upon those little opportunities to bind people together for common motives. They did not pick leadership as their driving force, nor did they anticipate the mass following they would have. My bet is they did not even know what leadership is in terms of modern-day business lingo. They just decided to step up and lead.

The lesson for entrepreneurs is clear. We need to understand leadership as a natural consequence of what we stand to achieve, resonating in the aims and desires of corresponding groups that work for and with us.

So the first task for a would-be leader is to have perspective. We need to believe that things are not fine just the way they are. More importantly, a leader in the making must have the attitude of "I can do it…I can give direction".

Until this belief is internalized, the motive and the momentum for leadership shall remain elusive and so will the consequence of your leadership…whether that be to grow a startup company, change the world or do both at the same time.

The desire to progressive reform has to stem from within. It is this association between our strong inside beliefs and the outside world that ensures that leadership skills can be developed and nurtured in any one of us under the right conditions.

Rahul Kumar writes about entrepreneurial topics while he completes his Masters in Management degree at the ESCP-EAP European School of Management. He completed his undergraduate studies at the Indian Institute of Technology (IIT) in Delhi, India.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทำให้เราคำถามแรกของเรา - มีภาวะผู้นำเกิดช่างกระจายแบบสุ่ม โดย divinity หรือสามารถจะผสมผสาน และได้เรียนรู้ภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมหรือไม่เราได้ตลอดชีวิตรู้จัก proponents ของทฤษฎีทั้งสอง และก็ empirically ปรากฏว่า เป็นผู้นำเป็นธรรมชาติผู้เชื่อถือข้อดีดีกว่าหัวใจของทฤษฎีนี้หมายเหตุที่โลกไม่มีคนที่เป็นผู้นำในอดีตย่างโรงเรียน ฝึกอบรม พวกเขาเพิ่งมีก็ได้ หรือหลายคนบอกว่า พวกเขา "เกิดผู้นำ"ปัญหาใหญ่ที่นี่คือ: สามารถเป็นผู้นำได้รับการสอนหรือไม่ ดี เราวิเคราะห์นี้สังเขปผู้นำ 'ธรรมชาติ' ที่กล่าวถึงข้างต้นไม่รู้ในช่วงวัยเด็กของพวกเขาว่า พวกเขาควรจะเป็นผู้นำสักวันหนึ่ง พวกเขานำชีวิตปกติจนกระทั่งวันหนึ่งพวกเขาสติตัดสินใจไล่ตามความเชื่อของพวกเขา staunch และไล่ตามความรักก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดีกว่าพวกเขายืนสำหรับการเปลี่ยนแปลงความท้าทาย โดยคิดนิยมแพร่หลายแล้ว อนุญาตให้ พวกเขามีโอกาส แต่ผมคิด ว่า เราทุกคนมีโอกาสของเราถ้าเราสะท้อนกลับ และจะยังคงมี...เราเพียงไม่แย่งไปชื่อดีเหนือและผู้นำเพิ่มเติมในหมายเหตุเห็น ยึด และบันทึกตามโอกาสน้อยผูกคนกันทั่วไปไม่สนคำครหา พวกเขาไม่ได้รับเป็นแรงผลักดันของพวกเขา หรือพวกเขาไม่ได้มีดังต่อไปนี้โดยรวมก็ เดิมพันของฉันคือ พวกเขาไม่ได้รู้เป็นอะไรเป็นผู้นำในธุรกิจสมัย lingo เพียงแค่พวกเขาตัดสินใจไปอีกขั้น และนำบทเรียนสำหรับผู้ประกอบการที่ชัดเจนได้ เราต้องเข้าใจเป็นเวรธรรมชาติอะไรที่เรายืนอยู่เพื่อให้บรรลุ resonating ในเป้าหมายและความต้องการของกลุ่มที่เกี่ยวข้องที่ทำงานสำหรับ และเราดังนั้น งานแรกสำหรับผู้นำที่ปรากฏคือการ มีมุมมอง เราต้องเชื่อสิ่งไม่ดีเพียงวิธีที่จะ ที่สำคัญ ผู้นำในการทำต้องมีทัศนคติของ "สามารถทำได้...ฉันจะให้ทิศทาง"จนกว่าความเชื่อนี้มี internalized โมเมนตัมนำและแรงจูงใจจะยังคงเปรียว และจะสัจจะเป็นผู้นำของคุณ...ดังนั้น ไม่ว่าจะการเติบโตบริษัทเริ่มต้น เปลี่ยนโลก หรือทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันความปรารถนาที่จะก้าวหน้าปฏิรูปต้องเกิดจากภายในได้ การเชื่อมโยงระหว่างของเราแข็งแรงภายในความเชื่อและโลกภายนอกที่ว่า การฝึกสามารถพัฒนา และหล่อเลี้ยงอย่างใดอย่างหนึ่งของเราภายใต้เงื่อนไขเหมาะสม ได้กุมารราหุลเขียนเกี่ยวกับหัวข้อมองขณะเขาทำต้นแบบของเขาในระดับบริหารที่ ESCP EAP ยุโรปจัดการ เขาเสร็จเขาศึกษาระดับปริญญาตรีที่ สถาบันอินเดียของเทคโนโลยี (มุมไบ) ในเดลี อินเดีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นี้ทำให้เราคำถาม - แรกของเราคือผู้นำเกิดความสามารถพิเศษกระจายแบบสุ่มโดยพระเจ้าหรือจะผสมและเรียนรู้ภายใต้การควบคุมสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม

เราตลอดชีวิตของเราพบกับผู้เสนอทั้งทฤษฎี และมันจะใช้ปรากฎว่าภาวะผู้นำคือศรัทธาธรรมชาติถือประโยชน์ดีกว่า

ผู้สนับสนุนทฤษฎีนี้ทราบว่าผู้นำโลกในอดีตไม่ได้เป็นคนย่างที่โรงเรียนฝึกอบรม พวกเขาเพิ่งมีในพวกเขาหรือ ตามที่หลายคนกล่าวว่าพวกเขา " เกิดผู้นำ " .

ปัญหาที่ใหญ่กว่านี้คือสามารถเป็นผู้นำที่จะสอน ? ดี ให้เราวิเคราะห์นี้ในช่วงสั้น ๆ

' ธรรมชาติ ' ผู้นำที่กล่าวข้างต้นไม่ได้รู้ในวัยเด็กของพวกเขาที่พวกเขาควรจะเป็นผู้นำในสักวันหนึ่งพวกเขานำชีวิตปกติ จนกระทั่งวันหนึ่งพวกเขามีสติตัดสินใจที่จะไล่ตามความเชื่อที่หนักแน่น และไล่กิเลสเพื่อนำมาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น พวกเขายืนสำหรับเปลี่ยน

การท้าทายโดยแล้วแพร่หลายสังคมคิด รางวัลที่พวกเขาได้รับโอกาส แต่ฉันเดาว่า เราทุกคน มี โอกาสของเราถ้าเราสะท้อนกลับและจะต้อง . . . . . . . ต่อไปเราก็ล้มเหลวที่จะจับพวกเขา

ดีชื่อข้างต้นและอีกหลายบันทึกของผู้นำและผู้ใหญ่เมื่อเห็น ยึดน้อยโอกาสที่จะผูกคนด้วยกันแรงจูงใจทั่วไป พวกเขาไม่ได้เลือกผู้นำที่เป็นแรงขับ หรือทำพวกเขาคาดว่าจะมีมวลต่อไปนี้พวกเขาจะมี พนันได้เลยว่าพวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าอะไรคือความเป็นผู้นำในแง่ของภาษาธุรกิจสมัยใหม่พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะก้าวขึ้นและนำ

บทเรียนสำหรับผู้ประกอบการที่ชัดเจน เราจำเป็นต้องเข้าใจภาวะผู้นำเป็นผลตามธรรมชาติของสิ่งที่เรายืน เพื่อให้บรรลุก่อนในจุดมุ่งหมายและความต้องการของกลุ่มงาน และสอดคล้องกับเรา

ดังนั้นงานแรกสำหรับหัวหน้าจะเป็นต้องมีมุมมอง เราต้องเชื่อว่า สิ่งที่ไม่ดีอย่างที่พวกเขาเป็นที่สำคัญ ผู้นำในการทำต้องมีท่าทีของ " ฉันทำได้ . . . . . . . ผมสามารถให้ทิศทาง " .

จนความเชื่อนี้เป็น internalized แรงจูงใจและแรงผลักดันภาวะผู้นำจะยังคงเข้าใจยาก แล้ว ผลของภาวะผู้นำ . . . ไม่ว่าจะเป็น เติบโต บริษัท เริ่มต้น เปลี่ยนโลก หรือทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน

ความปรารถนาที่จะปฏิรูปก้าวหน้าต้องเกิดจากภายใน มันคือความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อที่แข็งแกร่งของเราภายในและโลกภายนอกที่ช่วยให้มั่นใจว่า สามารถพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำและใหม่ในใด ๆ ของเราภายใต้เงื่อนไขด้านขวา

แยมเขียนเกี่ยวกับผู้ประกอบการหัวข้อในขณะที่เขาเสร็จสิ้นของเขาในการจัดการระดับปริญญาโทที่ escp-eap ยุโรปโรงเรียนการจัดการเขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีของเขาในสถาบันเทคโนโลยีแห่งอินเดีย ( IIT ) ในนิวเดลี , อินเดีย