Tip #1: Establish classroom rules i

Tip #1: Establish classroom rules immediately and enforce them consistently.

Establish rules on the first day of class, and always follow through on the specified rewards for achievement and consequences for misbehavior. If you allow a student to get away with misbehavior without consequence even once, you’ve opened the door to future misbehavior and negotiation of rules. This is particularly important at the beginning of the year, when you’re building your students’ trust in you as their teacher.

Tip #2: Set logical rules and consequences.

Keep the goal of learning in mind and make sure students know why the rules are what they are: “We walk instead of running in the hallway because we want to make sure that everyone is safe.” And fit the consequence to the crime: If a student makes a mess of the art supplies, the logical consequence is to clean it up. Arbitrary punishments like losing recess, or something else unrelated to the offense, teach students that you are mean and trying to force a power struggle.

Tip #3: Use positive instead of negative language.

As soon as you tell someone not to do something, the first image in that person’s head is what you said not to do. I’ll show you: Don’t think about ducks wearing hats. Are you thinking about ducks wearing hats? Thought so. To avoid the meddlesome subconscious, opt for positive-language instead of negative-language rules. For example:

“Be prepared” instead of “Don’t forget your pencil.”
“Shut the door quietly” instead of “Don’t slam the door.”
“Listen to your teacher and peers” instead of “Don’t talk in class.”
And use the word “consequences” instead of the extremely negative “punishments.”

Tip #4: Make your students feel responsible for their own learning environment.

Give your students agency over their learning environment, which gets them feeling responsible for their own learning. Create rules together as a class, encourage those with leadership personalities to direct the in-class discussion, and walk around instead of standing up front for the entire lesson so that you aren’t the funnel for conversation. Ask students to “check” themselves, as in “Check yourself to see if you are using your indoor voice,” which sends the message that you see the students as individuals who are capable of handling themselves.

Tip #5: Praise efforts and achievements for their own sake, not for the sake of teacher approval.

Give constant feedback about good behaviors: “I notice that Danielle has her book out and is ready to go. Now her whole row is ready!” But keep the emphasis on the behavior, not on the teacher’s approval. Avoid saying, “I like how…” because it doesn’t matter what the teacher likes. Students shouldn’t do things to please the teacher; they should do things because they are the right things to do.

Tip #6: Be mindful of different learning paces and keep the students occupied.

Not all students learn at the same pace. Stick with those who don’t understand the topic and check in with them regularly to help them keep up to speed and don’t get frustrated and act out in response. On the flipside, bored students cause problems. Make sure that you are challenging the students who move more quickly through the material by over-planning and preparing extra, quiet activities. For example, if a student has finished their still life painting with 20 minutes to spare, challenge them to step up to the next level — introduce an unfamiliar object and a clean piece of paper.

Tip #7: Avoid confrontations in front of students.

It is never a good idea to make an example of a student by shaming them in front of his or her peers. If you’re dealing with a misbehavior, speak to the student in the hallway or after class to resolve the issue instead of allowing an in-class confrontation.

Tip #8: Connect with the parents.

Make contact with parents early and often. Encourage attendance at parent-teacher conferences, if your school uses them, and demonstrate that you want to work with the parents to instruct their children to the best of your ability. If you develop a good relationship with the parents, you’ll open a dialogue between parent, student, and teacher that allows for a freer flow of feedback — and it always helps to have the parents’ trust.

Tip #9: Interactively model behaviors.

Teacher Apple

The first time you do something, show the students how to do it. Then ask them to share what they noticed about what you did. Then ask a student to do it, and discuss that action with the class. Then have the whole class practice. If you go slow the first time, you’ll be able to go faster later with the assurance that all the students know how to perform the action the right way.

Tip #10: Get the attention of every student before beginning class.

This doesn’t require shouting “Be quiet, class is beginning” — in fact, that’s almost sure to backfire. Instead, stand silent and wait until the students shush each other and settle. Or, if that’s not your style, redirect the beginning-of-class chatter by throwing out an engaging question, comment, or observation: “It’s been snowing for three days straight! Has anyone been playing in the snow?” Once you have everyone’s attention, proceed with the day’s lesson plan.

Tip #11: Use proximity and directness to your advantage.

If a student is misbehaving in class, continue your lesson but walk over and stand next to them. Having a teacher so close usually shuts down a student’s misbehavior. You can also use a direct question to snap them back into the lesson: “Kevin, why do you think Hamlet is so indecisive?” Be sure to start the call-out with their name so that they hear the full question.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เคล็ดลับ #1: สร้างกฎห้องเรียนทันที และบังคับใช้ได้อย่างต่อเนื่องสร้างกฎในวันแรกของคลาส และจะสานต่อ misbehavior และรางวัลระบุสำหรับความสำเร็จ ถ้าคุณอนุญาตให้นักเรียนจะได้รับ ด้วย misbehavior ไม่มีสัจจะแม้แต่ครั้งเดียว คุณได้เปิดประตูการเจรจากฎและ misbehavior ในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นปี เมื่อคุณกำลังสร้างความน่าเชื่อถือของนักศึกษาในคุณเป็นครูเคล็ดลับ #2: ตั้งค่ากฎทางตรรกะและผลกระทบทำให้เป้าหมายของการเรียนรู้ในจิตใจ และแน่ใจว่านักเรียนรู้ว่าทำไมกฎ คืออะไร: "เราเดินแทนการใช้เสียงพูดเนื่องจากเราต้องการให้แน่ใจว่า ทุกคนปลอดภัย" และพอดีส่งผลต่อการเกิดอาชญากรรม: ถ้านักเรียนทำให้ระเบียบของศิลปะวัสดุ สัจจะตรรกะจะล้างมัน กำหนดลงโทษเช่นการสูญเสียการย่อมุม หรือสิ่งอื่น ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สอนนักเรียนที่ ต้องเฉลี่ยและพยายามต่อสู้อำนาจเคล็ดลับ #3: ใช้การบวกแทนการลบภาษาทันทีที่คุณบอกใครไม่ทำงาน รูปแรกในหน้าของคนนั้นเป็นสิ่งที่คุณกล่าวว่า ไม่ ฉันจะแสดง: ไม่คิดเป็ดที่สวมหมวก คุณกำลังคิดเกี่ยวกับการสวมหมวก ความคิดนั้น เพื่อหลีกเลี่ยง meddlesome subconscious เลือกภาษาบวกแทนภาษาลบกฎ ตัวอย่าง:"เตรียม" แทน "อย่าลืมดินสอของคุณ""ปิดประตูเงียบๆ" แทน "ไม่สแลประตู""ฟังครูและเพื่อนของคุณ" แทน "ไม่ได้พูดในชั้นเรียน"และใช้คำว่า "ผล" แทนที่มากลบ "ลงโทษแบบนี้"เคล็ดลับ #4: ทำให้นักเรียนของคุณรู้สึกรับผิดชอบของตนเองเรียนรู้สภาพแวดล้อมให้นักเรียนของหน่วยงานมากกว่าการเรียนรู้สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะให้ความรู้สึกรับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง สร้างกฎการเข้าด้วยกันเป็นชั้นเรียน ส่งเสริมให้ผู้ที่ มีบุคลิกเป็นผู้นำการอภิปรายในชั้นเรียนโดยตรง และเดินไปรอบ ๆ แทนที่จะยืนขึ้นหน้าในบทเรียนทั้งหมดเพื่อให้คุณไม่กรวยสำหรับการสนทนา ให้นักเรียน "ตรวจสอบ" ด้วยตนเอง ใน "ตรวจสอบตัวเองดูว่า คุณใช้เสียงของคุณในร่ม ที่ส่งข้อความที่คุณเห็นนักเรียนเป็นผู้ที่มีความสามารถในการจัดการตัวเองเคล็ดลับ #5: สรรเสริญความพยายามและความสำเร็จสำหรับสาเกตน ไม่เพื่ออนุมัติครูเสนอแนะเกี่ยวกับพฤติกรรมดีคง: "ผมสังเกตว่า แดเนียลล์ได้จองของเธอ และพร้อมที่จะไป ตอนนี้ แถวของเธอทั้งหมดพร้อม" แต่ให้เน้น ในลักษณะการทำงาน ในการอนุมัติของครูไม่ หลีกเลี่ยงการพูด, "ฉันชอบวิธี..." เพราะมันไม่สำคัญว่าครูชอบ นักเรียนควรทำกิจกรรมโปรดครู พวกเขาควรทำสิ่งต่าง ๆ เพราะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเคล็ดลับ #6: คำนึงถึงการเรียนรู้ที่แตกต่างกันก้าว และให้นักเรียนที่ครอบครองเรียนไม่เลื่อน ติดกับคนที่ไม่เข้าใจหัวข้อและตรวจสอบ ด้วยเป็นประจำจะช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นให้ถึงความเร็ว และไม่ได้รับผิดหวัง และดำเนินการออกในการตอบสนอง บน flipside เบื่อนักเรียนก่อให้เกิดปัญหา ตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณจะท้าทายนักเรียนที่มากขึ้นอย่างรวดเร็วเลื่อนวัสดุมากเกินไปการวางแผน และเตรียมกิจกรรมพิเศษ เงียบสงบ ท้าทายให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับเช่น ถ้าเรียนเสร็จของพวกเขาภาพนิ่งกับ 20 นาทีอะไหล่ — แนะนำวัตถุที่คุ้นเคยและทำความสะอาดชิ้นส่วนของกระดาษเคล็ดลับ #7: หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหน้านักเรียนมันไม่ควรทำตัวอย่างของนักเรียน โดย shaming พวกเขาหน้าเพื่อนของเขา หรือเธอ ถ้าคุณกำลังเผชิญกับการ misbehavior พูดคุยกับนักเรียนด้อย หรือหลัง เลิกเรียนเพื่อแก้ไขปัญหานี้แทนที่จะทำให้การเผชิญหน้าในชั้นเรียนเคล็ดลับ #8: เชื่อมต่อกับผู้ปกครองทำการติดต่อกับผู้ปกครองก่อน และมักจะ ส่งเสริมให้เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมหลัก ถ้าโรงเรียนของคุณใช้ และแสดงให้เห็นว่า คุณต้องการทำงานกับพ่อแม่สอนลูกให้ดีสุดของความสามารถในการ ถ้าคุณพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง คุณจะเปิดการสนทนาระหว่างแม่ ครู และนักเรียนที่อนุญาตให้กระแสอิสระความคิดเห็นของตัว และจะช่วยให้มีความน่าเชื่อถือของผู้ปกครองเคล็ดลับ #9: รูปแบบลักษณะการทำงานแบบโต้ตอบครูแอปเปิ้ลครั้งแรกที่คุณทำ แสดงนักเรียนวิธีการทำมัน แล้ว ขอให้สิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่คุณได้ใช้ร่วมกัน แล้วถามนักเรียนจะทำ และหารือเกี่ยวกับการดำเนินการที่ มีชั้น แล้ว มีแบบฝึกหัดทั้งชั้น ถ้าคุณไปช้าครั้งแรก คุณจะไปได้เร็วขึ้นในภายหลัง ด้วยความมั่นใจว่า นักเรียนทุกคนทราบวิธีการดำเนินการได้เคล็ดลับ #10: ได้รับความสนใจของนักเรียนทุกก่อนเริ่มคลาสนี้ไม่จำเป็นต้อง shouting "เงียบ เริ่มคลาส" ซึ่งในความเป็นจริง ที่มีเกือบ backfire แทน ยืนเงียบ และรอจนกว่านักเรียน shush กัน และชำระ หรือ ถ้านั่นไม่ใช่สไตล์ของคุณ เปลี่ยนเส้นทางที่เริ่มต้นเรียนเรื่องไร้สาระ โดยการขว้างปาการระบุคำถาม คิด หรือสังเกต: "มันมีถูกหิมะตก 3 วันตรง มีใครได้เล่นหิมะ" เมื่อคุณมีความสนใจของทุกคน ดำเนินการกับแผนการเรียนเคล็ดลับ #11: ใช้ความใกล้ชิดและความเด็ดขาดเพื่อประโยชน์ของคุณถ้านักเรียนเป็น misbehaving ในชั้นเรียน บทเรียนของคุณต่อไป แต่เดินผ่าน และวางต่อพวกเขา มีครูเพื่อปิดจะปิด misbehavior ของนักเรียน นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้คำถามตรงไปชิดนั้นกลับเป็นบทเรียน: "Kevin ทำไมคุณคิดว่า แฮมเลตเพื่อปล่อย" ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เริ่มออกเรียกชื่อของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาได้ยินคำถามเต็ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เคล็ดลับ # 1: สร้างกฎห้องเรียนทันทีและบังคับให้พวกเขาอย่างต่อเนื่อง. สร้างกฎในวันแรกของการเรียนและมักจะทำตามผลตอบแทนที่ระบุสำหรับความสำเร็จและผลกระทบสำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ถ้าคุณอนุญาตให้นักเรียนที่จะได้รับไปกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมโดยไม่ต้องผลที่ตามมาแม้แต่ครั้งเดียวที่คุณได้เปิดประตูไปสู่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในอนาคตและการเจรจาต่อรองของกฎ นี้เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นปีเมื่อคุณสร้างความไว้วางใจของนักเรียนในตัวคุณเป็นครูของพวกเขา. เคล็ดลับ # 2:. ตั้งกฎตรรกะและผลที่ตามมาให้เป้าหมายของการเรียนรู้ในใจและทำให้แน่ใจว่านักเรียนรู้ว่าทำไมกฎระเบียบที่มีสิ่งที่พวกเขาว่า "เราเดินแทนการทำงานในห้องโถงเพราะเราต้องการที่จะทำให้แน่ใจว่าทุกคนมีความปลอดภัย." และพอดีกับผลที่ตามมากับอาชญากรรม: ถ้านักเรียนทำให้ระเบียบของอุปกรณ์ศิลปะ, ผลตรรกะ ในการทำความสะอาดขึ้น การลงโทษโดยพลการเช่นการสูญเสียการพักผ่อนหรือสิ่งอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายที่สอนนักเรียนว่าคุณมีความหมายและพยายามที่จะบังคับให้ต่อสู้แย่งชิงอำนาจ. เคล็ดลับ # 3:. ใช้ในเชิงบวกแทนการใช้ภาษาเชิงลบทันทีที่คุณบอกใครบางคนที่จะไม่ทำบางสิ่งบางอย่างภาพแรกในหัวของคนเป็นสิ่งที่คุณบอกว่าจะไม่ทำ ฉันจะแสดงให้คุณ: อย่าคิดเกี่ยวกับการสวมใส่หมวกเป็ด คุณคิดเกี่ยวกับการสวมใส่หมวกเป็ด? คิดว่าดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการจิตใต้สำนึกยุ่งเลือกสำหรับภาษาในเชิงบวกแทนกฎเชิงลบภาษา ยกตัวอย่างเช่น: "เตรียม" แทน "อย่าลืมดินสอของคุณ." "ปิดประตูอย่างเงียบ ๆ " แทน "อย่ากระแทกประตู". "ฟังครูผู้สอนและเพื่อนของคุณ" แทน "ไม่ได้พูดคุย ในชั้นเรียน. "และใช้คำว่า" ผลกระทบ "แทนที่จะเป็นเชิงลบอย่างมาก" การลงโทษ ". # 4: ให้นักเรียนของคุณรู้สึกมีความรับผิดชอบสำหรับสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ของตัวเอง. ให้หน่วยงานของนักเรียนสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ของพวกเขาซึ่งพวกเขาได้รับความรู้สึกที่รับผิดชอบในการ เรียนรู้ของตนเอง สร้างกฎร่วมกันเป็นชั้นขอแนะนำให้ผู้ที่มีบุคลิกความเป็นผู้นำที่จะนำการอภิปรายในชั้นเรียนและเดินไปรอบ ๆ แทนการยืนขึ้นด้านหน้าสำหรับบทเรียนทั้งหมดเพื่อให้คุณไม่ได้ช่องทางสำหรับการสนทนา ให้นักเรียน "ตรวจสอบ" ตัวเองในขณะที่ "ตรวจสอบตัวเองเพื่อดูว่าคุณกำลังใช้เสียงในร่มของคุณ" ซึ่งจะส่งข้อความที่คุณเห็นนักเรียนเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการจัดการตัวเอง. เคล็ดลับ # 5: ความพยายามสรรเสริญและความสำเร็จ เพื่อประโยชน์ของตัวเองไม่ได้เพื่อประโยชน์ในการได้รับการอนุมัติครู. แสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ดี "ผมสังเกตเห็นว่าแดเนียลมีหนังสือของเธอออกมาและพร้อมที่จะไป ตอนนี้ทั้งแถวของเธอพร้อมแล้ว! "แต่ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการอนุมัติของครู หลีกเลี่ยงการพูดว่า "ผมชอบวิธีการ ... " เพราะมันไม่สำคัญว่าสิ่งที่ชอบครู นักเรียนไม่ควรทำสิ่งที่จะโปรดครู; พวกเขาควรจะทำสิ่งเพราะพวกเขาเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ. เคล็ดลับ # 6: มีสติรู้การเรียนรู้ที่ก้าวที่แตกต่างกันและให้นักเรียนที่ถูกครอบครอง. ไม่นักเรียนทุกคนเรียนรู้ที่ก้าวเดียวกัน ติดกับผู้ที่ไม่เข้าใจเรื่องและตรวจสอบในกับพวกเขาอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้พวกเขาเก็บได้ถึงความเร็วและไม่ได้รับความผิดหวังและทำหน้าที่ออกในการตอบสนอง ใน flipside นักเรียนเบื่อก่อให้เกิดปัญหา ให้แน่ใจว่าคุณมีความท้าทายนักเรียนที่ย้ายได้อย่างรวดเร็วผ่านวัสดุโดยกว่าการวางแผนและเตรียมความพร้อมเสริมกิจกรรมที่เงียบสงบ ตัวอย่างเช่นถ้านักเรียนได้เสร็จสิ้นการวาดภาพชีวิตของพวกเขายังคงมี 20 นาทีเพื่อสำรองท้าทายพวกเขาที่จะก้าวขึ้นไปอีกระดับ - แนะนำวัตถุที่ไม่คุ้นเคยและชิ้นส่วนของกระดาษที่สะอาด. เคล็ดลับ # 7: หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในด้านหน้าของนักเรียนมันไม่เคยคิดที่ดีที่จะทำให้ตัวอย่างของนักเรียนโดยบัดสีพวกเขาในด้านหน้าของคนรอบข้างของเขาหรือเธอ หากคุณกำลังจัดการกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่จะพูดคุยกับนักเรียนในห้องโถงหรือหลังเลิกเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาแทนที่จะปล่อยให้การเผชิญหน้าในชั้นเรียน. เคล็ดลับ # 8: การเชื่อมต่อกับผู้ปกครอง. ให้ติดต่อกับพ่อแม่ของต้นและมักจะ ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมประชุมในการประชุมผู้ปกครองหากโรงเรียนของคุณใช้พวกเขาและแสดงให้เห็นว่าคุณต้องการที่จะทำงานร่วมกับผู้ปกครองที่จะสั่งให้เด็กของพวกเขาที่ดีที่สุดของความสามารถของคุณ หากคุณมีการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ของคุณจะเปิดการเจรจาระหว่างผู้ปกครองนักเรียนและครูผู้สอนที่ช่วยให้การไหลอิสระของข้อเสนอแนะ - และมันก็ช่วยให้มีความไว้วางใจของพ่อแม่. เคล็ดลับ # 9: โต้ตอบพฤติกรรมรูปแบบ . ครูแอปเปิ้ลครั้งแรกที่คุณทำสิ่งที่แสดงให้นักเรียนวิธีที่จะทำมัน แล้วขอให้พวกเขาแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำ แล้วถามนักเรียนที่จะทำมันและหารือเกี่ยวกับการกระทำที่มีการเรียน จากนั้นมีการปฏิบัติทั้งชั้น ถ้าคุณไปชะลอตัวเป็นครั้งแรกที่คุณจะสามารถที่จะไปได้เร็วขึ้นในภายหลังด้วยความมั่นใจว่านักเรียนทุกคนรู้วิธีการดำเนินการในทางที่ถูกต้อง. เคล็ดลับ # 10: ได้รับความสนใจของนักเรียนทุกคนก่อนที่จะเริ่มเรียน. นี้ doesn 'ทีต้องตะโกนว่า "เงียบชั้นเป็นจุดเริ่มต้น" - ในความเป็นจริงที่แน่ใจว่าจะย้อนกลับมาเกือบ แต่ยืนเงียบและรอจนกว่านักเรียนจุ๊ ๆ กันและชำระ หรือถ้านั่นไม่ใช่สไตล์ของคุณเปลี่ยนเส้นทางจุดเริ่มต้นพูดคุยของชั้นโดยการขว้างปาออกเป็นคำถามที่มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นหรือข้อสังเกต: "มันถูกหิมะตกสามวันตรง! มีใครได้รับการเล่นในหิมะ "เมื่อคุณมีความสนใจของทุกคนดำเนินการกับแผนบทเรียนของวัน?. เคล็ดลับ # 11:. ใช้ความใกล้ชิดและตรงไปตรงมาเพื่อประโยชน์ของคุณถ้านักเรียนทำงานผิดปกติในชั้นเรียนต่อบทเรียนของคุณแต่เดินผ่านและยืน ถัดจากพวกเขา มีครูเพื่อให้ใกล้เคียงมักจะปิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียน นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เป็นคำถามที่ตรงไปตะครุบพวกเขากลับเข้าบทเรียน: "เควินทำไมคุณคิดว่าเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ไม่แน่ใจว่า" ให้แน่ใจว่าจะเริ่มต้นเรียกร้องออกมาพร้อมกับชื่อของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาได้ยินคำถามเต็มรูปแบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เคล็ดลับที่ 1 : สร้างกฎ#ห้องเรียนทันที และบังคับให้เสมอ

สร้างกฎในวันแรกของชั้นเรียน และมักจะทำตามที่ระบุรางวัลสำหรับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลสำหรับการประพฤติตนไม่สมควร ถ้าคุณอนุญาตให้นักเรียนออกไปด้วยความซุกซนที่ไม่มีผลอะไรเลยแม้แต่ครั้งเดียว เธอเปิดประตูให้ตัวเองในอนาคต และการเจรจาต่อรองของกฎนี้เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเริ่มต้นของปี เมื่อคุณสร้างความน่าเชื่อถือของคุณในคุณเป็นนักเรียน นักศึกษา ครู #

เคล็ดลับที่ 2 : ตั้งค่ากฎตรรกะและผล

ให้เป้าหมายของการเรียนรู้ ในจิตใจ และทำให้นักเรียนรู้ว่าทำไมกฎเป็นสิ่งที่พวกเขา : " เราเดินแทน วิ่งในทางเดิน เพราะเราต้องการที่จะทำให้แน่ใจว่าทุกคนปลอดภัย" พอดี ผลต่ออาชญากรรม : ถ้านักเรียนทำให้ยุ่งเหยิงของวัสดุศิลปะ ผลคือตรรกะเพื่อทำความสะอาด การลงโทษโดยพลการ เช่น การสูญเสียวัตถุหรือสิ่งอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด สอนนักเรียนที่คุณและพยายามที่จะบังคับให้พลังการต่อสู้

เคล็ดลับ# 3 : ใช้ในเชิงบวกแทนภาษาลบ

ทันทีที่คุณบอกคนอื่นไม่ต้องทำอะไรบางอย่างภาพแรกในหัวของคนๆ นั้นที่คุณบอกว่าไม่ต้องทำ ผมจะแสดงให้คุณไม่คิดเกี่ยวกับเป็ดใส่หมวก คุณกำลังคิดเกี่ยวกับเป็ดใส่หมวก คิดว่างั้น เพื่อหลีกเลี่ยงจิตใต้สำนึกจอมบงการ เลือกใช้ภาษาในเชิงบวกแทนกฎภาษาเชิงลบ ตัวอย่าง :

" เตรียม " แทน " อย่าลืมดินสอ "
" ปิดประตูอย่างเงียบๆ " แทน " อย่าปิดประตูแรง "
" ฟังครูและเพื่อน " แทน " อย่าพูดในชั้นเรียน "
และใช้คำว่า " ผล " แทนการลงโทษลบมาก " "

เคล็ดลับ# 4 : ให้นักเรียนรู้สึกรับผิดชอบ สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ของตัวเอง

ให้นักศึกษาหน่วยเหนือสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ของพวกเขาซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกรับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง สร้างกฎด้วยกัน เช่น คลาส ให้ผู้ที่มีบุคลิกความเป็นผู้นำ โดยในการอภิปรายในชั้นเรียน และเดินมายืนอยู่ข้างหน้าสำหรับบทเรียนทั้งหมดเพื่อให้คุณไม่มีช่องทางสำหรับการสนทนา ถามนักเรียนเพื่อ " ตรวจสอบ " นั่นเอง เช่นเดียวกับ " ตรวจสอบตัวเองเพื่อดูว่าคุณจะใช้เสียงในร่มของคุณ" ซึ่งส่งข้อความที่คุณเห็นนักเรียนเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการจัดการตัวเอง

เคล็ดลับ# 5 : ความพยายามสรรเสริญและความสำเร็จเพื่อประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของจากอาจารย์

ให้คงที่ความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ดี " ผมสังเกตเห็นว่าแดเนียลมีหนังสือของเธอออก และพร้อมที่จะ ไป ตอนนี้ทั้งแถวเธอพร้อมแล้ว " แต่ให้เน้นพฤติกรรมไม่ใช่ความเห็นชอบของอาจารย์ หลีกเลี่ยงการพูดว่า " ฉันชอบยังไง . . . . . " เพราะมันไม่สำคัญหรอกว่าครูชอบ นักเรียนไม่ควรทำสิ่งที่จะช่วยครู ก็ควรทำ เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ

เคล็ดลับ# 6 : มีสติในการเรียนที่แตกต่างกัน และให้นักเรียนแสดงความสามารถครอบครอง

ไม่ใช่นักเรียนทุกคนเรียนรู้ในจังหวะเดียวกันอยู่กับคนที่ไม่เข้าใจหัวข้อและตรวจสอบในกับพวกเขาเป็นประจำจะช่วยให้เร็วขึ้น และไม่ทำให้หงุดหงิดและแสดงออกในการตอบสนอง เกี่ยวกับ flipside , เบื่อนักเรียนเกิดปัญหา ให้แน่ใจว่าคุณกำลังท้าทายนักเรียนที่ย้ายได้อย่างรวดเร็วผ่านวัสดุโดยผ่านการวางแผนและเตรียมกิจกรรมพิเศษ , เงียบ ตัวอย่างเช่นถ้านักเรียนได้เสร็จสิ้นการวาดภาพชีวิตของพวกเขากับ 20 นาทีเพื่ออะไหล่ ท้าทายให้ก้าวขึ้นสู่ระดับถัดไป - แนะนำวัตถุไม่คุ้นเคยและชิ้นส่วนของกระดาษสะอาด

เคล็ดลับ# 7 : หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในด้านหน้าของนักเรียน

มันไม่เป็นความคิดที่ดีที่จะให้นักเรียน โดย shaming ต่อหน้าเพื่อน ของเขาหรือเธอ ถ้าคุณกำลังเผชิญกับการประพฤติผิด ,พูดกับนักเรียนในห้องโถงหรือหลังเลิกเรียนเพื่อแก้ไขปัญหา แทนที่จะให้ในชั้นเรียนกัน

เคล็ดลับ# 8 : เชื่อมต่อกับผู้ปกครอง

ติดต่อกับพ่อแม่ก่อน และมักจะ กระตุ้นให้เข้าร่วมประชุมในการประชุมครูผู้ปกครอง หากโรงเรียนของคุณใช้พวกเขาและแสดงให้เห็นว่าคุณต้องการทำงานกับพ่อแม่ สอนให้เด็กของพวกเขาเพื่อที่ดีที่สุดของความสามารถของคุณถ้าคุณพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ คุณจะเปิดบทสนทนาระหว่างผู้ปกครอง นักเรียน และครูที่ช่วยให้สำหรับการไหลแบบอิสระ - และมันก็ช่วยให้มีความไว้วางใจพ่อแม่

เคล็ดลับ# 9 : โต้ตอบจำลองพฤติกรรม

ครูแอปเปิ้ล

เป็นครั้งแรกที่คุณทำบางอย่าง ให้นักเรียนทำ แล้วถามพวกเขาที่จะแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำจากนั้นถามนักเรียนที่จะทำมัน และอภิปรายการกระทำแบบนั้นกับชั้น จากนั้น ได้ฝึกทั้งชั้น ถ้าคุณไปช้า ครั้งแรก คุณจะสามารถไปได้เร็วขึ้นในภายหลัง มีความเชื่อมั่นว่านักเรียนทุกคนรู้วิธีการดำเนินการทางที่ถูกต้อง

เคล็ดลับ# 10 : ได้รับความสนใจจากนักเรียนทุกคน ก่อนที่จะเริ่มเรียน

ไม่ต้องตะโกน " เงียบๆชั้นเรียนจะเริ่มแล้วนะ " -- ในความเป็นจริงที่เกือบจะแน่นอนจะส่งผลตรงข้าม แทนยืนเงียบรอจนกว่านักเรียนเงียบกัน และจัดการ หรือถ้าไม่ใช่สไตล์ของคุณ เปลี่ยนเส้นทางจุดเริ่มต้นของชั้นเรียน คุย โดยทิ้งการถามความคิดเห็น หรือสังเกต : " มันถูกหิมะ 3 วันตรง ! มีใครเคยเล่นในหิมะ" เมื่อคุณมีความสนใจของทุกคน ดำเนินการตามแผนการของวัน

เคล็ดลับ# 11 : ใช้ความใกล้ชิดและความตรงไปตรงมาเพื่อประโยชน์ของคุณ .

ถ้าเป็นนักเรียนก็เกเรในชั้นเรียน สอนต่อ แต่เดินไปยืนข้างๆ มัน มีครูที่สนิทกันมักจะปิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียน นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้คำถามตรง snap พวกเขากลับเข้าสู่บทเรียน : " เควินทำไมคุณถึงคิดว่าแฮมเล็ตจึงลังเล ? " ให้แน่ใจว่าได้เริ่มต้นเรียกด้วยชื่อของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาได้ยินคำถามเต็ม