When looked at the literature (e.g.

When looked at the literature (e.g. Marler & Fisher, 2013; Ruel & Kaap, 2012; Strohmeier, 2007), it can be seen that
there is still no grand or integrative multi-level theory of e-HRM. It can be observed that the major theoretical framework
of these studies emerges as (1) The contingency theory, (2) The resource-based view theory; (3) Transaction cost theory
(4) New institutional theory. Lawrance and Lorsh’s (1967) contingency theory stipulates that organizations are
influenced by their environment. Therefore, the success of the organization depends on the extent to which it shapes its
internal structuring by taking into account the limitations imposed by their environment (Lawrance & Lorsh, 1967). In
other words, ıt has to be “fit” between “micro” and “macro” environmental factors or variables and organizational
structure in such a way that the ideal outcome is obtained (Ruel & Kaap, 2012:265).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อมองวรรณคดี (เช่น Marler & Fisher, 2013 Ruel และ Kaap, 2012 Strohmeier, 2007), สามารถดูได้ที่ยังมีไม่แกรนด์ หรือแบบบูรณาการหลายระดับทฤษฎีอี-HRM มันสามารถจะสังเกตที่กรอบทฤษฎีหลักของการศึกษาเหล่านี้ขึ้นเป็นทฤษฎีฉุกเฉิน (1), (2)ทรัพยากรมุมมองแบบทฤษฎี (3) ทฤษฎีต้นทุนธุรกรรม(4) ทฤษฎีสถาบันใหม่ Lawrance และของ Lorsh (1967) ฉุกเฉินทฤษฎีสถานภาพองค์กรรับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมของพวกเขา ดังนั้น ความสำเร็จขององค์กรขึ้นอยู่กับขอบเขตที่จะรูปร่างของจัดโครงสร้างภายใน โดยคำนึงถึงข้อจำกัดที่กำหนด โดยสภาพแวดล้อมของพวกเขา (Lawrance & Lorsh, 1967) ในคำอื่น ๆ ıt ได้ให้ "พอดี" ระหว่าง "ไมโคร" และ "โค" ปัจจัยสิ่งแวดล้อมหรือตัวแปร และองค์กรโครงสร้างในลักษณะที่ได้รับผลเหมาะ (Ruel & Kaap, 2012:265)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อมองไปที่วรรณกรรม (เช่นมาร์เลอร์และฟิชเชอร์, 2013; Ruel & Kaap 2012; Strohmeier 2007)
ก็จะเห็นได้ว่ายังคงไม่มีแกรนด์หรือบูรณาการทฤษฎีหลายระดับของe-HRM ก็สามารถที่จะตั้งข้อสังเกตว่ากรอบทฤษฎีที่สำคัญของการศึกษาเหล่านี้โผล่ออกมาเป็น (1) ทฤษฎีฉุกเฉินที่ (2) ทฤษฎีมุมมองทรัพยากรตาม;
(3) การทำธุรกรรมทฤษฎีค่าใช้จ่าย
(4) สถาบันทฤษฎีใหม่ Lawrance และ Lorsh ของ (1967)
ทฤษฎีฉุกเฉินกำหนดว่าองค์กรจะได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมของพวกเขา ดังนั้นความสำเร็จขององค์กรขึ้นอยู่กับขอบเขตที่มันรูปร่างของโครงสร้างภายในโดยคำนึงถึงข้อ จำกัด ที่กำหนดจากสภาพแวดล้อมของพวกเขา (และ Lawrance Lorsh, 1967)
ในคำอื่น ๆ ก็จะต้องมี "พอดี" ระหว่าง "ไมโคร" และ "แมโคร" ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมหรือตัวแปรและองค์กรโครงสร้างในลักษณะที่ว่าผลที่เหมาะจะได้รับ(Ruel & Kaap 2012: 265)