Final Remarks on the Future of the

Final Remarks on the Future of the Thai Economy.

The Thai financial crisis was built upon macroeconomic imbalances of the country, and those imbalances were essentially attributable to the faulty structure of the nation’s financial sector. A financial restructuring thus became the first episode of its road to discovery. Beside that it would be ensured that a similar type of financial crisis would not happen again in the future, the financial restructuring would have an immediate or short term benefit to the economy as it would beef up the investors’ confidence to bring in credits or capital into the Thai economy in order to make the economy move again.

The next step was that Thailand needed to try to have a reliable and capable institution which could give it a safety net when such a crisis occurred. Unlike the Fed, the Bank of Thailand had a constraint on its foreign-currency reserves which were to be used to pay the nation’s debt. So the Bank of Thailand, at least in this ten or fifteen years, would not be able to function as a lender-of-last-resort. This job, therefore, needed to be given to a powerful international institution like IMF. The Bank of Thailand, however, should be reconstructed so that it became independent to the government in its policy making since politics was proved to be a crucial source of the unhealthiness of the economy.

Beside a strong financial structure and a good supporting institution in case of a future financial crisis, from this point on, Thailand needed to be careful in keeping things in a well order. For instance, current account deficit should not be much in excess of 5% of GDP especially if the deficit was financed in a way that could lead to rapid reversals according to the US Deputy Treasury Secretary Lawrence Summers[4]; Banks should be restricted in how fast their borrowing could grow (Mishkin)[5].

6. Conclusion

To achieve Macroeconomic balances, great care and prudent policy management are needed. To be prudent was to be far-sighted and realistic. In the Thai financial crisis case, policies had not been prudently thought out. The collapse of the economy was a very tough lesson for the Thais. It would take long for the economy to recover. (It was predicted to be longer than that of Mexico concisely because the other countries of the region were also hit. Thus, Thailand could not gain much terms of trade after the devaluation of the baht to help improving its economy. Plus, the slow down of Japanese economy had made it unable to give much aid to Thailand unlike Mexico who had a huge support from the US for the road to its recovery.) But hopefully, during that long road, the Thais would maximally utilize the time to thought out wise policies and beef up a real strength so that when the next storm came, it would not turn over again.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หมายเหตุสุดท้ายในอนาคตของเศรษฐกิจไทยวิกฤตไทยถูกสร้างขึ้นตามความไม่สมดุลของเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ และความไม่สมดุลเหล่านั้นได้รวมเป็นโครงสร้างที่ผิดพลาดของภาคการเงินของประเทศ การเงินปรับโครงสร้างจึงกลายเป็น ตอนแรกของการค้นพบของ นอกจาก มันจะจะมั่นใจได้ว่า วิกฤตการณ์ทางการเงินชนิดหนึ่งคล้ายจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต การปรับโครงสร้างทางการเงินจะมีการคำทันที หรือสั้นประโยชน์เศรษฐกิจมันจะเนื้อค่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะนำเครดิตหรือทุนในเศรษฐกิจเพื่อให้เศรษฐกิจย้ายอีกขั้นตอนต่อไปคือ ประเทศไทยที่ต้องพยายามที่จะมีสถาบันที่เชื่อถือได้ และความสามารถในการที่สามารถให้ความปลอดภัยสุทธิเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ดังกล่าว ต่างจากเฟด ธนาคารแห่งประเทศไทยมีข้อจำกัดในการสำรองของสกุลเงินต่างประเทศซึ่งจะใช้ในการชำระหนี้ของประเทศ ดังนั้น ธนาคารไทย น้อยในปีนี้สิบ หรือสิบห้า จะไม่สามารถทำงานเป็นผู้ให้กู้ของสุดท้ายรีสอร์ท งานนี้ ดังนั้น จำเป็นที่จะกำหนดให้สถาบันนานาชาติที่มีประสิทธิภาพเช่น IMF ธนาคารแห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ควรถูกเชิดให้เป็นอิสระของนโยบายทำให้เนื่องจากที่เมืองถูกพิสูจน์ได้ว่า เป็นแหล่งสำคัญของ unhealthiness ของเศรษฐกิจแก่รัฐบาลนอกจากโครงสร้างทางการเงินแข็งแกร่งและสถาบันการสนับสนุนที่ดีในกรณีวิกฤตการเงินในอนาคต ทั้ง ไทยต้องระวังในการรักษาสิ่งที่อยู่ในลำดับดี ตัวอย่าง ดุลบัญชีไม่ควรมากเกินกว่า 5% ของ GDP โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าดุลถูกเงินในทางที่ผิดกลับอย่างรวดเร็วตามสหรัฐฯ รองบริหารเลขานุการลอว์เรนซ์ฤดูร้อน [4]; ธนาคารควรจำกัดในความเร็วยืมของพวกเขาสามารถเติบโต (Mishkin) [5] 6. บทสรุป เพื่อให้บรรลุยอดดุลเศรษฐกิจมหภาค ดูแลที่ดีและการจัดการนโยบายระมัดระวังมีความจำเป็น ต้องระมัดระวังที่จะมองการณ์ไกล และเป็นจริง ในกรณีวิกฤตเศรษฐกิจไทย นโยบายก็ไม่ได้รัดกุมคิดออก การล่มสลายของเศรษฐกิจเป็นบทที่ยากมากสำหรับคนไทย มันจะใช้เวลานานสำหรับเศรษฐกิจการกู้คืน (มันก็คาดว่า จะยาวกว่าของเม็กซิโก concisely เนื่องจากประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคก็ยังตี ดังนั้น ไทยอาจไม่มากเงื่อนไขทางการค้าหลังจาก devaluation บาทเพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศรับ บวก การชะลอของเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ทำไม่ได้ให้ความช่วยเหลือมากในประเทศไทยต่างจากเม็กซิโกที่มีการสนับสนุนอย่างมากจากสหรัฐอเมริกาสำหรับถนนการกู้คืนของ) แต่หวังว่า ถนนที่ยาว คนไทยจะ maximally ใช้เวลาคิดออกนโยบายฉลาด และเนื้อค่าแรงจริงเพื่อว่าเมื่อพายุถัดมา มันจะไม่หงายอีก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หมายเหตุรอบชิงชนะเลิศในอนาคตของเศรษฐกิจไทย. วิกฤตการณ์ทางการเงินของไทยได้รับการสร้างขึ้นบนความไม่สมดุลของเศรษฐกิจมหภาคของประเทศและความไม่สมดุลเหล่านั้นเป็นหลักส่วนที่เป็นโครงสร้างผิดพลาดของภาคการเงินของประเทศ ปรับโครงสร้างทางการเงินจึงกลายเป็นครั้งแรกของถนนที่จะค้นพบ นอกจากนั้นก็จะทำให้มั่นใจได้ว่าประเภทที่คล้ายกันของวิกฤตการเงินจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคต, การปรับโครงสร้างทางการเงินจะมีประโยชน์ในระยะทันทีหรือสั้นต่อเศรษฐกิจมันจะเนื้อขึ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะนำมาในเครดิตหรือเงินทุน เข้าสู่เศรษฐกิจไทยในการที่จะทำให้เศรษฐกิจย้ายอีกครั้ง. ขั้นตอนต่อไปคือการที่ประเทศไทยจำเป็นในการพยายามที่จะมีสถาบันที่เชื่อถือได้และมีความสามารถที่จะให้ความปลอดภัยสุทธิเมื่อวิกฤตดังกล่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งแตกต่างจากเฟดธนาคารแห่งประเทศไทยมีข้อ จำกัด ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสกุลเงินซึ่งถูกนำมาใช้ในการชำระหนี้ของประเทศ ดังนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างน้อยในนี้สิบหรือสิบห้าปีที่ผ่านมาจะไม่สามารถที่จะทำงานเป็นผู้ให้กู้ของรีสอร์ทสุดท้าย งานนี้จึงจำเป็นที่จะมอบให้กับสถาบันต่างประเทศที่มีประสิทธิภาพเช่นกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ควรจะสร้างขึ้นใหม่เพื่อที่จะกลายเป็นอิสระให้กับรัฐบาลในการกำหนดนโยบายตั้งแต่การเมืองได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นแหล่งที่มาสำคัญของโรคภัยไข้เจ็บของเศรษฐกิจ. นอกจากนี้โครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งและสถาบันสนับสนุนที่ดีในกรณี ของวิกฤตการณ์ทางการเงินในอนาคตจากจุดนี้ประเทศไทยจำเป็นจะต้องระมัดระวังในการรักษาสิ่งที่อยู่ในคำสั่งเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่นการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดไม่ควรมากเกินกว่า 5% ของ GDP โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าขาดดุลเป็นทุนในลักษณะที่อาจนำไปสู่การพลิกผันอย่างรวดเร็วตามที่สหรัฐอเมริการองรัฐมนตรีคลังอเรนซ์ซัมเมอร์ส [4]; ธนาคารควรจะ จำกัด ในวิธีการที่รวดเร็วการกู้ยืมเงินของพวกเขาสามารถเติบโต (Mishkin) [5]. 6 สรุปเพื่อให้บรรลุยอดคงเหลือเศรษฐกิจมหภาค, การดูแลที่ดีและการจัดการนโยบายที่ชาญฉลาดที่มีความจำเป็น การจะมีความรอบคอบจะเป็นมองการณ์ไกลและเป็นจริง ในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินไทยนโยบายไม่ได้รับการคิดอย่างรอบคอบออก การล่มสลายของเศรษฐกิจเป็นบทเรียนที่ยากมากสำหรับคนไทย มันจะใช้เวลานานสำหรับเศรษฐกิจที่จะกู้คืน (มันถูกคาดว่าจะนานกว่านั้นเม็กซิโกรัดกุมเพราะประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคได้รับผลกระทบยัง. ดังนั้นประเทศไทยไม่สามารถรับเงื่อนไขมากของการค้าหลังจากการลดค่าเงินบาทที่จะช่วยให้การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ. Plus, ชะลอตัวลง ของเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ทำให้มันไม่สามารถที่จะให้ความช่วยเหลือมากเพื่อไทยแตกต่างจากเม็กซิโกที่มีการสนับสนุนอย่างมากจากสหรัฐอเมริกาสำหรับถนนเพื่อการกู้คืนของตน.) แต่หวังว่าในช่วงที่ถนนยาวคนไทยที่สุดที่จะใช้เวลาที่จะคิดออกที่ชาญฉลาด นโยบายและเนื้อวัวขึ้นความจริงเพื่อที่ว่าเมื่อพายุถัดมาก็จะไม่เปิดอีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หมายเหตุขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจไทย

ไทยวิกฤตทางการเงินที่ถูกสร้างขึ้นจากความไม่สมดุลของเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ และความไม่สมดุลเหล่านั้นเป็นหลักจากโครงสร้างที่ผิดพลาดของภาคการเงินของประเทศ ปรับโครงสร้างทางการเงินจึงเป็นครั้งแรกของถนนของการค้นพบนอกจากที่มันจะมั่นใจว่าประเภทที่คล้ายกันของวิกฤตการณ์ทางการเงินจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต การปรับโครงสร้างทางการเงินได้ทันทีหรือระยะสั้นผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมันจะเนื้อถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ให้เครดิต หรือ ทุนในไทย เพื่อให้เศรษฐกิจ
ย้ายอีกครั้ง
ขั้นตอนต่อไปคือการที่ประเทศไทยต้องพยายามมีความน่าเชื่อถือและความสามารถของสถาบันซึ่งสามารถให้สุทธิความปลอดภัยเมื่อวิกฤตการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งแตกต่างจากเฟด ธนาคารแห่งประเทศไทยมีข้อจำกัดของเงินตราต่างประเทศสำรองซึ่งจะใช้ในการชำระหนี้ของประเทศ ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย อย่างน้อยในสิบหรือสิบห้าปีจะไม่สามารถทำงาน ในฐานะที่เป็นผู้ให้กู้ของสุดท้าย . งานนี้จึงต้องได้รับพลังนานาชาติสถาบันเช่นกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย , อย่างไรก็ตาม , จะถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มันเป็นอิสระ รัฐบาลมีนโยบายในการทำ ตั้งแต่การเมืองได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นแหล่งสำคัญของการมีสุขภาพไม่แข็งแรงของเศรษฐกิจ .

ข้างแข็งแรงโครงสร้างทางการเงินและสถาบันการสนับสนุนที่ดีในกรณีของวิกฤตการณ์ทางการเงินในอนาคต ในจุดนี้ ประเทศไทยต้องการที่จะระมัดระวังในการรักษาสิ่งที่อยู่ในลำดับที่ดี สำหรับอินสแตนซ์ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลไม่ควรมากเกิน 5 % ของ GDP โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าขาดดุล 1 ในลักษณะที่อาจนำไปสู่การพลิกกลับอย่างรวดเร็วตามสหรัฐธนารักษ์เลขานุการนายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส [ 4 ] ; ธนาคารควรถูก จำกัด ในวิธีที่รวดเร็วการกู้ยืมของพวกเขาสามารถเติบโต ( มิชคิ้น ) [ 5 ]

6 สรุป

เพื่อให้บรรลุยอดดุลเศรษฐศาสตร์ระดับมหภาคนโยบายการจัดการที่ชาญฉลาดและการดูแลที่ดีจะต้อง จะระมัดระวังที่จะมีวิสัยทัศน์กว้างไกล และสมจริง ในไทย กรณีวิกฤติการเงิน นโยบายยังไม่รอบคอบคิดออก การล่มสลายของเศรษฐกิจคือบทเรียนที่ยากมากสำหรับคนไทย มันจะใช้เวลานานเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว( มันทำนายจะยาวกว่าของเม็กซิโกที่รัดกุม เพราะประเทศอื่นในภูมิภาคก็ยังโดน ดังนั้นประเทศไทยอาจไม่ได้รับมากของเงื่อนไขการค้าหลังการลดค่าเงินบาท เพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของ บวกกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจญี่ปุ่นทำให้มันไม่สามารถที่จะให้ความช่วยเหลือมากไทยแตกต่างจากเม็กซิโกที่มีการสนับสนุนใหญ่จากเราสำหรับถนนเพื่อการกู้คืนของ แต่หวังว่าในช่วงถนนที่ยาวที่สุดที่คนไทยจะใช้เวลาในการคิดนโยบายที่ชาญฉลาดและเพิ่มความแข็งแกร่งที่แท้จริง ดังนั้นเมื่อ พายุ ถัดมาก็จะไม่เปิดอีกครั้ง