In the past, It is not just about m

In the past, It is not just about made ​​up for entertainment only horrifying. Belief in vampires have come from very ancient times, beginning from the ancient Persian empire, which has unearthed old pitcher leaves one image that appears on the pitcher's so afraid of roller Thunderbirds. Because a man struggling with large creatures that try to suck his blood! Some legend. The statue is called "Lilith" is the archetypal woman who likes to drink the blood of babies, so she's a timeless style for most not. Remember that in the Hebrew Bible the old recalls. Indian goddess, she is the first drug of Adam. Later, leaving Adam to be the queen of the Devil. Vampire in Chinese history India, Malaysia Poly Polynesia was there as well. In a story about a zombie Or those who return from the dead. The source of the vampire is much reference as possible is a myth that record. Starting from the early days of ancient Greece become a vampire goddess figure from them, some of them prefer to live in the human body to lure victims early days but it is not a zombie. But when Christianity began to be recognized in later periods. The misconception about Flesh and blood Jesus Christ because that part of the Eucharist that drinking red wine, which symbolizes the blood. Jesus and eat the bread that represents the flesh. Which were misinterpreted And those who do not respect God, ritual eating of human flesh and blood reality in the 11th century, the then named as the blood of virgins to qualify for the treatment. And those still believed something like that. Sick people who die without baptized. People who committed suicide or people who were expelled from Christianity to return to this world again as a zombie. Or that vampires! fear the vampire has happened seriously. In the mid-15th century due to a case of Frenchman Gilles de Rais old former general, after he had retired to the south west of France to devote himself to discovering the secrets of rock types. He used torture, killing more than three hundred people used to take a blood test. Later in the 19th century has led him to write the story that he was a vampire.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในอดีต มันไม่เพียงเกี่ยวกับประกอบเพื่อความบันเทิงเท่านั้นน่าสะพรึงกลัว ความเชื่อในแวมไพร์มีมาครั้งแต่โบราณกาล เริ่มจากจักรวรรดิเปอร์เซียโบราณ ซึ่งได้ค้นพบเก่าเหยือกใบหนึ่งภาพที่ปรากฏบนเหยือกของกลัวของ Thunderbirds ลูกกลิ้ง เนื่องจากเป็นคนที่ดิ้นรนกับใหญ่สิ่งมีชีวิตที่พยายามดูดเลือดของเขา บางตำนาน รูปปั้นเรียกว่า "Lilith" เป็นอย่างไร archetypal ผู้หญิงที่ชอบดื่มเลือดของทารก เพื่อเธอเป็นสไตล์ตกแต่งสำหรับส่วนใหญ่ไม่ จำได้ว่า ในพระคัมภีร์ฮิบรู เก่าเรียกคืน เจ้าอินเดีย เธอเป็นยาแรกของอาดัม ภายหลัง ออกจากอาดัมเป็น ควีนของมาร แวมไพร์ในประวัติศาสตร์จีนอินเดีย มาเลเซียโพลีโปลินีเซีได้มีเช่น ในเรื่องเกี่ยวกับผีดิบ หรือที่ส่งคืนจากความตาย แหล่งที่มาของแวมไพร์ถูกอ้างอิงมากที่สุดคือตำนานที่บันทึก เริ่มต้นจากกรีซโบราณยุคแรก ๆ เป็น รูปเทพธิดาเป็นแวมไพร์ออก บางส่วนของพวกเขาต้องอาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์เพื่อล่อเหยื่อวันแรก ๆ แต่มันไม่ได้ผีดิบ แต่เมื่อศาสนาคริสต์เริ่มได้รับการรับรองในรอบระยะเวลาภายหลัง ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเลือดเนื้อและพระเยซูคริสต์เนื่องจากไวน์ที่ส่วนหนึ่งของศีลมหาสนิทที่ดื่มสีแดง ซึ่งสัญลักษณ์เลือด พระเยซู และกินขนมปังที่เนื้อ ซึ่งมี misinterpreted และผู้ที่เคารพพระเจ้าพิธีกินของจริงเนื้อเลือดมนุษย์ในศตวรรษ 11 แล้วได้ชื่อว่าเป็นเลือดของเทวราชาเพื่อรับการรักษา และที่ยังคงเชื่อว่าสิ่งที่ต้องการ ผู้ป่วยที่ตายโดยไม่มีการรับบัพติศมา เป็นคนที่มุ่งมั่นที่ฆ่าตัวตายหรือคนที่ถูกไล่ออกจากศาสนาคริสต์เพื่อกลับสู่โลกนี้อีกเป็นผีดิบ หรือว่าแวมไพร์ กลัวแวมไพร์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ในศตวรรษ 15 กลางเนื่องจากกรณีของ Frenchman จิลล์เดอไร่เก่าอดีตทั่วไป หลังจากเขาได้ถอนใต้ทางตะวันตกของฝรั่งเศสจะอุทิศตัวเองเพื่อค้นพบความลับของหินชนิดนี้ เขาใช้ทรมาน ฆ่าคนมากกว่าสามร้อยใช้เลือด ต่อมาในศตวรรษที่ 19 ได้นำให้เขาเขียนเรื่องราวว่า เป็นแวมไพร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในอดีตที่ผ่านมามันไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับการทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้นที่น่ากลัว ความเชื่อในแวมไพร์มีมาตั้งแต่สมัยโบราณมากเริ่มต้นจากจักรวรรดิเปอร์เซียโบราณซึ่งได้ค้นพบเหยือกเก่าใบหนึ่งภาพที่ปรากฏบนเพื่อเหยือกกลัวรึ่ลูกกลิ้ง เพราะเป็นคนที่ดิ้นรนกับสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ที่พยายามที่จะดูดเลือดของเขา! บางตำนาน รูปปั้นที่เรียกว่า "ลิลิ ธ " เป็นผู้หญิงคนเทพที่ชอบที่จะดื่มเลือดของทารกเพื่อให้เธอเป็นสไตล์อมตะส่วนใหญ่ไม่ได้ จำไว้ว่าในพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูเรียกคืนเก่า เทพธิดาอินเดียเธอเป็นยาตัวแรกของอาดัม ต่อมาออกจากอดัมที่จะเป็นราชินีของปีศาจ แวมไพร์ในประวัติศาสตร์จีนอินเดียมาเลเซียโพลีนีเซียอยู่ที่นั่นเช่นกัน ในเรื่องเกี่ยวกับผีดิบหรือผู้ที่กลับมาจากความตาย แหล่งที่มาของแวมไพร์คือการอ้างอิงที่เป็นไปได้มากที่สุดเท่าที่เป็นตำนานที่บันทึก เริ่มต้นจากวันแรกของกรีกโบราณกลายเป็นรูปเทพธิดาแวมไพร์จากพวกเขาบางคนชอบที่จะอาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์เพื่อล่อเหยื่อวันแรก แต่มันไม่ได้เป็นผีดิบ แต่เมื่อศาสนาคริสต์เริ่มที่จะรับรู้ในงวดต่อมา ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเนื้อและเลือดพระเยซูคริสต์เพราะส่วนหนึ่งของศีลมหาสนิทว่าการดื่มไวน์แดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเลือด พระเยซูและกินขนมปังที่แสดงถึงเนื้อ ซึ่งถูกตีความผิดและบรรดาผู้ที่ไม่เคารพพระเจ้ารับประทานอาหารพิธีกรรมของเนื้อมนุษย์และความเป็นจริงในเลือดในศตวรรษที่ 11 ที่มีชื่อแล้วเป็นเลือดบริสุทธิ์จะมีคุณสมบัติสำหรับการรักษา และผู้ที่ยังคงเชื่อว่าสิ่งที่ต้องการที่ คนป่วยที่ตายโดยไม่ต้องบัพติศมา คนที่ฆ่าตัวตายหรือคนที่ถูกขับออกจากศาสนาคริสต์จะกลับไปยังโลกนี้อีกครั้งเป็นผีดิบ หรือว่าแวมไพร์! กลัวแวมไพร์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 เกิดจากกรณีที่ชาวฝรั่งเศสกิลส์เดไร่เก่าทั่วไปอดีตหลังจากที่เขาได้ออกไปทางทิศตะวันตกตอนใต้ของฝรั่งเศสที่จะอุทิศตัวเองเพื่อค้นพบความลับของชนิดของหิน เขาใช้การทรมานฆ่ามากกว่าสามร้อยคนใช้เวลาการทดสอบเลือด ต่อมาในศตวรรษที่ 19 ได้นำเขาไปเขียนเรื่องที่ว่าเขาเป็นแวมไพร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในอดีต ไม่ใช่แค่เรื่องทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น​​สยอง ความเชื่อเรื่องแวมไพร์มาตั้งแต่สมัยโบราณมาก เริ่มจากอาณาจักรเปอร์เซียโบราณ ซึ่งได้ขุดพบเหยือกเก่าใบหนึ่ง ภาพที่ปรากฏบนของพิชเชอร์กลัวธันเดอร์เบิร์ดลูกกลิ้ง เพราะคนที่ดิ้นรนกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่พยายามดูดเลือดของเขา ! บางตำนานรูปปั้นเรียกว่า " ลิลิธ " เป็นเทพผู้หญิงที่ชอบดื่มเลือดของทารก ดังนั้นเธอจึงเป็นสไตล์ Timeless สำหรับที่สุดไม่ จำได้ว่าในคัมภีร์ไบเบิลฮีบรูที่เล่าเก่า เทพธิดาแห่งอินเดีย เป็นยาครั้งแรกของอาดัม ต่อมา ทิ้งให้อดัมเป็นราชินีแห่งปีศาจ แวมไพร์ในประวัติศาสตร์จีน อินเดีย มาเลเซีย โพลี โปลินีเซียก็มีเช่นกันในเรื่องเกี่ยวกับซอมบี้ หรือ ผู้ที่กลับมาจากความตาย แหล่งที่มาของแวมไพร์เป็นอ้างอิงมากที่สุดคือตำนานบันทึกว่า เริ่มจากวันแรกของกรีกโบราณเป็นรูปเทพธิดาแวมไพร์จากพวกเขา พวกเขาชอบที่จะอาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์เพื่อล่อเหยื่อวันแรก แต่มันไม่ได้เป็นผีดิบ แต่เมื่อศาสนาคริสต์เริ่มที่จะได้รับการยอมรับในช่วงเวลาต่อมาความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเนื้อและเลือดของพระเยซูคริสต์ เพราะส่วนนั้นของศีลมหาสนิทที่ดื่มไวน์แดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเลือด พระเยซูและกินขนมปังที่เป็นเนื้อ ซึ่งถูกตีความผิด ๆ และผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้า พิธีกรรมกินเนื้อมนุษย์ และเลือด ความเป็นจริงในศตวรรษที่ ๑๑ แล้ว ชื่อ เป็น เลือดสาวบริสุทธิ์ เพื่อรับการรักษาและผู้ที่ยังคงเชื่อแบบนั้น คนป่วยที่ตายโดยไม่รับบัพติศมา คนที่ฆ่าตัวตาย หรือคนที่ถูกไล่ออกจากศาสนาคริสต์เพื่อกลับไปยังโลกนี้อีกครั้งเป็นผีดิบ หรือที่เหล่าแวมไพร์ กลัวแวมไพร์เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ในศตวรรษที่ mid-15th เนื่องจากกรณีของชาวฝรั่งเศส Gilles de ไร่เก่าอดีตทั่วไปหลังจากที่เขาเกษียณไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสที่จะอุทิศตัวเองเพื่อการค้นพบความลับของชนิดหิน เขาใช้ทรมาน , การฆ่ามากกว่าสามร้อยคนเคยตรวจเลือด ต่อมาในศตวรรษที่ 19 ได้ชักนำให้เขาเขียนว่าเขาเป็นแวมไพร์