fruits and the pathogen has become

fruits and the pathogen has become resistant to some of the fungicides currently in use (Djioua et al., 2010). With increased interest in non-fungicidal management approaches, researchers are looking for new ways to maintain disease-free fruit in the postharvest milieu (Ali et al., 2010).
Calcium is a key plant nutrient that has a significant role in cell functions, including reducing softening and senescence of fruits (Barker and Pilbeam, 2007). Many disorders of crops, such as bitter pit in apple, cork spot in pear, and blossom end rot in tomato that are caused by calcium deficiency could be reduced by calcium spraying (Kader, 2002). However, there are few reports about effects of calcium on infection of tropical fruits by C. gloeosporioides. Ghani et al. (2011) found that calcium can increase anthracnose resistance in dragon fruit. In addition, calcium decreased susceptibility to anthracnose in banana (Chillet et al., 2000). In papaya, there are a few reports about the role of calcium in anthracnose disease, and they are mostly related to postharvest uses (Mahmud et al., 2008). There is some evidence that calcium is antagonistic to C. gloeosporioides and it may have potential use as an alternative method in integrated disease management (Biggs et al., 2000). The objective of this study was to examine the effect of pre-harvest applications of calcium chloride on anthracnose disease of papaya.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลไม้และการศึกษาได้จะทนไปซึ่งเกิดจากเชื้อ (Djioua et al., 2010) ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีความสนใจเพิ่มขึ้นในวิธีการจัดการไม่ใช่ fungicidal นักวิจัยกำลังมองหาวิธีใหม่ในการรักษาโรคฟรีผลไม้ฤทธิ์หลังการเก็บเกี่ยว (Ali et al., 2010) แคลเซียมเป็นธาตุอาหารพืชหลักที่มีบทบาท significant เซลล์ฟังก์ชัน รวมถึงลดลงนุ่มนวลและ senescence ผลไม้ (บาร์คเกอร์และ Pilbeam, 2007) หลายโรคของพืช เช่นหลุมขมในแอปเปิ้ล คอร์กจุดในลูกแพร์ และสามารถลดดอกสิ้น rot ในมะเขือเทศที่เกิดจากแคลเซียม deficiency โดยแคลเซียมพ่น (Kader, 2002) อย่างไรก็ตาม มีรายงานน้อยเกี่ยวกับผลของแคลเซียมในการติดเชื้อของผลไม้โดย C. gloeosporioides ฆอนีค็อยยา et al. (2011) พบว่า แคลเซียมสามารถเพิ่มความต้านทาน anthracnose ในมังกร นอกจากนี้ แคลเซียมลดลงง่าย anthracnose ในบานาน่า (Chillet et al., 2000) ในมะละกอ มีรายงานบางอย่างเกี่ยวกับบทบาทของแคลเซียมโรค anthracnose และพวกเขาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการหลังการเก็บเกี่ยวใช้ (เชอรัล et al., 2008) มีหลักฐานบางอย่างว่า แคลเซียมจะเป็นปรปักษ์กับ C. gloeosporioides และอาจมีอาจมีการใช้อีกวิธีในการจัดการโรครวม (Biggs et al., 2000) วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบผลของการใช้งานก่อนการเก็บเกี่ยวของแคลเซียมคลอไรด์โรค anthracnose ของมะละกอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และป้องกันเชื้อโรคได้กลายเป็นบางส่วนของสารเคมีที่ใช้ในปัจจุบันผลไม้ ( djioua et al . , 2010 ) ที่มีความสนใจที่เพิ่มขึ้นในแนวทางปลอด fungicidal การจัดการนักวิจัยกำลังมองหาวิธีใหม่ในการรักษาปลอดโรคหลังการเก็บเกี่ยวผลไม้ในสภาพแวดล้อม ( Ali et al . , 2010 )
แคลเซียมเป็นคีย์ธาตุอาหารพืชที่มี signi จึงไม่สามารถบทบาทในการทำงานของเซลล์รวมทั้งการลดจุดอ่อนและการเสื่อมสภาพของผลไม้ ( บาร์เกอร์ และ พิลบีม , 2007 ) ความผิดปกติหลายของพืช เช่น ขมหลุมในแอปเปิ้ล , ก๊อกจุดในลูกแพร์ และบานปลายเน่าในมะเขือเทศที่เกิดจากแคลเซียม เดอ ประสิทธิภาพจึงสามารถลดการฉีดพ่นแคลเซียม ( kader , 2002 ) อย่างไรก็ตาม มีรายงานเกี่ยวกับผลของแคลเซียมต่อการติดเชื้อของผลไม้เมืองร้อน โดย C . gloeosporioides ไม่กี่ กานี et al .( 2011 ) พบว่า แคลเซียมสามารถเพิ่มความต้านทานโรคแอนแทรคโนสในแก้วมังกร นอกจากนี้แคลเซียมลดลง เกิดโรคแอนแทรคโนสในกล้วยหอม ( chillet et al . , 2000 ) มะละกอ มีไม่กี่ที่รายงานเกี่ยวกับบทบาทของแคลเซียมในโรคแอนแทรกโนส และพวกเขาส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการใช้วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว ( Mahmud et al . , 2008 ) มีหลักฐานบางอย่างที่เป็นปฏิปักษ์กับ ซี แคลเซียมต่างๆและอาจจะใช้ศักยภาพเป็นวิธีทางเลือกในการบริหารจัดการโรคเชิงบูรณาการ ( บิ๊กส์ et al . , 2000 ) การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้แคลเซียมคลอไรด์ ก่อนเก็บเกี่ยว โรคแอนแทรคโนส
มะละกอ .