6 CONCLUSIONSThe study acted as a p

6 CONCLUSIONS
The study acted as a preliminary study to find out how elderly people utilize information and
communication technology. To find answers 12 elderly people were interviewed. Prior to the
interviews the researchers did not know if the interviewees were familiar with computer and what their
activity in social media was. In this sense, the study started without presuppositions. However, prior
literature reveals that old people utilize less technology than the younger generations do (e.g.
Goodman et al. 2003, Morris & Venkatesh 2000).
While our study explored the experiences of current elderly who consisted of computer-users and nonusers,
we reflected on the wish by Selwyn (2004): "Older adults should be involved in changing ICT
to be more of an attractive, interesting or useful option for many older adults" (p. 382).
When talking with the elderly, we also found out hidden wishes for the future technology. For
example, Helen (86 yrs) did not send SMS with her mobile phone, neither did she receive any. One
might ask if a simple user interface that enables the use of SMSs would be a good choice for elderly.
In other words, the elderlies' mobile phones should be reshaped to fit better with the lives of older
adults (Selwyn 2004). On the other hand, Helen (86 yrs) also regretted for not taking her time to learn
chatting. This feeling shows that age is not a hindrance when a person would like to learn new skills.
However, Helen already had found a solution for teaching elderly people – she thought that the other
learners should be about her age.
Selwyn (2004) also notes the nature of the products in online shopping that largely are based on
leisure and entertainment products such as CDs, videos, DVDs and computing equipment. He argues
that older adults will not begin purchasing such products online if they are not already doing so in
local stores. We might interpret that this idea was expressed also in our study with the comment of
"nonsense". However, one respondent was concerned over the safety issues in buying online.
Despite the small number of interviewees in our study, we were able to find out realistic comments
and experiences from the elderly. We did not inquire if the interviewees lived alone or in intimate
relationship, for instance. Interestingly, we found out that an intimate relationship may act as an
obstacle to utilise ICT and social media. Therefore we suggest that this finding requires more research.
In addition, we did not inquire the educational level of the interviewees, which would have explained
some non-use or lack of interest.

However, it was interesting to notice that even if the people were aware of the benefits of ICT, the
elderly perceived the machines useless. It might be that the elderly had no personal experiences of the
described benefits.
In all, as the role of ICT and social media is still increasing in the society, it is reasonable to carry out
a proper study on the subject.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

6
สรุปการศึกษาทำหน้าที่เป็นผู้ศึกษาเบื้องต้นเพื่อหาวิธีการที่ผู้สูงอายุใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เพื่อค้นหาคำตอบ 12 คนผู้สูงอายุถูกสัมภาษณ์ ก่อนที่จะมีการสัมภาษณ์
นักวิจัยไม่ทราบว่าถ้าสัมภาษณ์คุ้นเคยกับคอมพิวเตอร์และสิ่งที่กิจกรรมของพวกเขา
ในสื่อสังคมคือ ในแง่นี้การศึกษาเริ่มต้นโดยไม่ต้อง presuppositions อย่างไรก็ตามก่อนวรรณกรรม
เผยให้เห็นว่าคนเฒ่าคนแก่ใช้เทคโนโลยีน้อยกว่ารุ่นน้องทำ (เช่น
กู๊ดแมน, et al. 2003, มอร์ริส& Venkatesh 2000).
ในขณะที่การศึกษาของเราสำรวจประสบการณ์ของผู้สูงอายุที่ปัจจุบันประกอบด้วยผู้ใช้คอมพิวเตอร์และ nonusers
เราสะท้อนให้เห็นความปรารถนาโดยวายน์ (2004): "ผู้สูงอายุควรมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลง ICT
จะเป็นของที่น่าสนใจ,เลือกที่น่าสนใจหรือมีประโยชน์สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่ามาก "(พี 382).
เมื่อพูดคุยกับผู้สูงอายุที่เรายังพบความปรารถนาที่ซ่อนอยู่สำหรับเทคโนโลยีในอนาคต. เช่น
เฮเลน (86 ปี) ไม่ได้ส่ง sms กับโทรศัพท์มือถือของเธอ ทั้งที่เธอไม่ได้รับใด ๆ . หนึ่ง
อาจจะถามว่าถ้าส่วนติดต่อผู้ใช้ที่เรียบง่ายที่ช่วยให้การใช้งานของ SMSs จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ.
ในคำอื่น ๆผู้สูงอายุ 'โทรศัพท์มือถือควรจะเปลี่ยนโฉมหน้าเพื่อให้พอดีกับที่ดีกับชีวิตของผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า
(วายน์ 2004) บนมืออื่น ๆ , เฮเลน (86 ปี) ยังรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้สละเวลาของเธอที่จะเรียนรู้การพูดคุย
ความรู้สึกนี้แสดงให้เห็นว่าอายุไม่ได้เป็นอุปสรรคเมื่อมีคนต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่
แต่เฮเลนแล้วได้พบวิธีแก้ปัญหาสำหรับการเรียนการสอนผู้สูงอายุ -. เธอคิดว่าที่อื่น ๆ
ผู้เรียนควรจะเกี่ยวกับอายุของเธอ.
วายน์ (2004) ยังบันทึกธรรมชาติของผลิตภัณฑ์ในการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับ
ผลิตภัณฑ์พักผ่อนและความบันเทิงเช่นซีดี, วิดีโอ, ดีวีดีและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เขาระบุว่า
ผู้สูงอายุจะไม่ได้เริ่มต้นการซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออนไลน์ถ้าพวกเขาจะไม่ทำอยู่แล้วดังนั้นในร้านค้าในท้องถิ่น
เราอาจจะแปลความหมายว่าความคิดนี้ก็ยังแสดงในการศึกษาของเราด้วยกับความคิดเห็นของ
"สาระ" แต่หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาเป็นห่วงมากกว่าปัญหาความปลอดภัยในการซื้อออนไลน์.
แม้จะมีขนาดเล็กจำนวนมากจากการสัมภาษณ์ในการศึกษาของเราเรามีความสามารถที่จะหาออกความเห็นมีเหตุผล
และประสบการณ์จากผู้สูงอายุ เราไม่ได้สอบถามว่าการสัมภาษณ์ที่อาศัยอยู่คนเดียวหรืออยู่ในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด
,เช่น ที่น่าสนใจที่เราพบว่ามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดอาจทำหน้าที่เป็นอุปสรรค
การใช้ไอซีทีและสื่อสังคม ดังนั้นเราจึงขอแนะนำว่าการค้นพบนี้ต้องวิจัยมากขึ้น.
นอกจากนี้เราไม่ได้สอบถามระดับการศึกษาจากการสัมภาษณ์ซึ่งจะได้อธิบาย
บางส่วนที่ไม่ได้ใช้งานหรือขาดความสนใจ.

แต่มันก็น่าสนใจที่จะสังเกตเห็นว่าแม้คนได้รับรู้ถึงประโยชน์ของไอซีที
ผู้สูงอายุรับรู้เครื่องไร้ประโยชน์ มันอาจเป็นไปได้ว่าผู้สูงอายุที่มีประสบการณ์ส่วนบุคคลที่ไม่มี
อธิบายผลประโยชน์.
ในทุกขณะที่บทบาทของไอซีทีและสื่อสังคมยังคงเพิ่มขึ้นในสังคมมันก็มีเหตุผลที่จะดำเนินการ
การศึกษาที่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องนี้.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทสรุป 6
การศึกษาที่ได้ปฏิบัติเป็นการศึกษาเบื้องต้นเพื่อค้นหาผู้สูงอายุวิธีใช้ข้อมูล และ
เทคโนโลยีการสื่อสาร หาคำตอบของผู้สูงอายุ 12 ถูกสัมภาษณ์ ก่อน
สัมภาษณ์นักวิจัยไม่รู้ถ้า interviewees จะได้คุ้นเคยกับคอมพิวเตอร์และสิ่งที่พวกเขา
มีกิจกรรมในสังคม ในความรู้สึกนี้ การศึกษาเริ่มต้น โดย presuppositions อย่างไรก็ตาม ก่อน
วรรณกรรมเผยว่า คนเก่าใช้เทคโนโลยีน้อยกว่ารุ่นอายุไม่ (e.g.
Goodman et al. 2003, Morris & Venkatesh 2000) .
ในขณะที่เราสำรวจประสบการณ์ของผู้สูงอายุปัจจุบันที่ประกอบด้วยผู้ใช้คอมพิวเตอร์และ nonusers,
เราสะท้อนในต้องโดย Selwyn (2004): "ผู้ใหญ่รุ่นเก่าควรมีส่วนร่วมในการเปลี่ยน ICT
เพื่อที่น่าสนใจ น่าสนใจ หรือเป็นประโยชน์เลือกสำหรับผู้ใหญ่มากเก่า" (p. 382) .
เมื่อพูดคุยกับผู้สูงอายุ เรายังพบความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในเทคโนโลยีในอนาคต สำหรับ
ตัวอย่าง เฮเลน (86 ปี) ไม่ได้ส่ง SMS กับโทรศัพท์มือถือของเธอ ไม่ได้เธอรับ หนึ่ง
อาจถามถ้า อินเทอร์เฟซผู้ใช้ง่ายซึ่งช่วยให้การใช้ SMSs จะเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ.
ในคำอื่น ๆ ควร reshaped ของ elderlies โทรศัพท์มือถือให้พอดีกับชีวิตของเก่าดีกว่า
ผู้ใหญ่ (Selwyn 2004) บนมืออื่น ๆ เฮเลน (86 ปี) regretted ที่สละเวลาของเธอเพื่อเรียนรู้ไม่ยัง
สนทนา ความรู้สึกนี้แสดงว่า อายุไม่ใช่กำแพงเมื่อบุคคลต้องการจะเรียนรู้ทักษะใหม่
อย่างไรก็ตาม เฮเลนแล้วได้พบปัญหาการสอนผู้สูงอายุ – เธอคิดว่า ที่อื่น ๆ
ผู้เรียนควรจะเกี่ยวกับอายุของเธอ
Selwyn (2004) นอกจากนี้ยังบันทึกธรรมชาติผลิตภัณฑ์ในออนไลน์ช้อปปิ้งที่ส่วนใหญ่อยู่บน
ผลิตภัณฑ์สนุกสนานเช่นซีดี วิดีโอ ดีวีดี และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เขาจน
ว่า ผู้ใหญ่รุ่นเก่าจะได้เริ่มต้นซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออนไลน์ถ้าพวกเขาไม่ได้ทำดังนั้นใน
ร้านค้าท้องถิ่น เราอาจแปลว่า ความคิดนี้ถูกแสดงนอกจากนี้ในการศึกษาของเรามีข้อคิดเห็นของ
"เหลวไหล" ได้ อย่างไรก็ตาม หนึ่งตอบได้กังวลเรื่องความปลอดภัยในการซื้อออนไลน์.
แม้ มีหมายเลขขนาดเล็กของ interviewees ในการศึกษาของเรา เราไม่สามารถค้นหาข้อคิดเห็นจริง
และประสบการณ์จากผู้สูงอายุ เราไม่ได้สอบถามถ้า interviewees ที่อาศัยอยู่คนเดียว หรือ ในบรรยากาศ
ความสัมพันธ์ ตัวอย่างการ เป็นเรื่องน่าสนใจ เราพบว่า ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดอาจทำหน้าที่เป็นตัว
อุปสรรคการใช้ ICT และสังคม ดังนั้น ขอแนะนำว่า ต้องค้นหานี้การวิจัยเพิ่มเติม.
, ที่เราไม่ได้สอบระดับการศึกษาของ interviewees ซึ่งจะได้อธิบาย
บางไม่ใช้หรือขาดความสนใจ

อย่างไรก็ตาม ก็น่าสนใจที่จะสังเกตซึ่งแม้ว่าผู้คนได้ตระหนักถึงประโยชน์ของ ICT การ
ผู้สูงอายุถือว่าเครื่องไม่ อาจให้ผู้สูงอายุมีประสบการณ์ส่วนตัวไม่มีของ
อธิบายประโยชน์การ
ในทั้งหมด เป็นบทบาทของ ICT และสังคมยังคงเพิ่มขึ้นในสังคม จะเหมาะสมที่จะดำเนินการ
การศึกษาที่เหมาะสมในหัวข้อการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

6 ข้อสรุป
ซึ่งจะช่วยการศึกษาที่ทำหน้าที่เป็นการศึกษาเบื้องต้นในการค้นหาออกมาได้อย่างไรคนสูงอายุใช้เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลและ
ในการค้นหาคำตอบ 12 ผู้สูงอายุได้ให้ สัมภาษณ์ ก่อนที่จะ สัมภาษณ์
ซึ่งจะช่วยให้นักวิจัยก็ไม่รู้ว่าถ้าหากข้อเท็จจริงที่มีความคุ้นเคยกับคอมพิวเตอร์และ
ซึ่งจะช่วยการทำงานของตนในสื่อสังคมเป็น ในความรู้สึกการศึกษานี้เริ่มต้นใช้งานโดยไม่มีเหตุผล แต่ถึงอย่างไรก็ตามก่อน
วรรณกรรมเผยให้เห็นว่าคนรุ่นเก่าใช้เทคโนโลยีไม่น้อยกว่าคนรุ่นอายุน้อยที่ทำ(เช่น
Joshua Goodman , et al . 2003 เทศบาลเมืองแอตแลนตา& venkatesh 2000 )..
ในขณะที่การศึกษาของเราสำรวจประสบการณ์ในปัจจุบันผู้สูงอายุที่ประกอบไปด้วยของ nonusers และคอมพิวเตอร์ - ผู้ใช้
เราสะท้อนถึงที่ต้องการโดยเซลวิน( 2004 )"ผู้ใหญ่มากกว่าควรจะได้มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนด้านไอซีที
ซึ่งจะช่วยในการมีที่ดึงดูดใจทางเลือกที่น่าสนใจหรือมีประโยชน์สำหรับผู้ใหญ่รุ่นเก่าจำนวนมาก"( p . 382 )..
เมื่อคุยกับผู้สูงอายุที่เรายังพบออกมาความปรารถนาที่ซ่อนไว้สำหรับเทคโนโลยีในอนาคตได้. ตัวอย่างเช่น
สำหรับเฮเลน( 86 ปี)ไม่ได้กับการส่ง SMS โทรศัพท์มือถือของเธอไม่ได้เธอได้รับใดๆ หนึ่ง
อาจถามว่าอินเตอร์เฟซผู้ใช้ที่ใช้งานได้ง่ายซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถใช้ของ smss จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีอายุมาก.
ในคำอื่นๆโทรศัพท์มือถือ' elderlies ที่ควรจะเป็นทำให้เหมาะกับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกับของเก่า
ซึ่งจะช่วยผู้ใหญ่(เซลวิน 2004 ) อีกด้านหนึ่งที่เฮเลน( 86 ปี)นอกจากนั้นยังเสียใจไม่ได้สำหรับเธอในการสนทนาทางวิดีโอโปรดดูข้อมูล
ความรู้สึกนี้จะแสดงให้เห็นว่าอายุไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเมื่อบุคคลที่ต้องการในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ.
แต่เฮเลนแล้วได้พบโซลูชันสำหรับการเรียนการสอนผู้ ทุพพลภาพ - เธอคิดว่าที่อื่นๆที่
ผู้เรียนควรจะเกี่ยวกับอายุของเธอ.
เซลวิน( 2004 )นอกจากนี้ยังบันทึกธรรมชาติของ ผลิตภัณฑ์ ที่อยู่ในแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ที่ส่วนใหญ่จะใช้ใน ผลิตภัณฑ์
เพื่อพักผ่อนในยามว่างและความบันเทิงเช่นการใช้งานคอมพิวเตอร์และดีวีดีวิดีโอซีดีอุปกรณ์
ซึ่งจะช่วยเขาให้เหตุผลว่าผู้ใหญ่รุ่นเก่าที่จะไม่ได้เริ่มต้นการซื้อ ผลิตภัณฑ์ แบบออนไลน์เช่นถ้าเขาไม่ได้ทำเช่นนั้นใน
ร้านค้าในท้องถิ่นอยู่แล้วเราอาจจะแปลว่าความคิดนี้ได้รับการแสดงออกในการศึกษาของเราพร้อมด้วยความคิดเห็นของ
"ไร้สาระ" แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังเป็นจำเลยเป็นกังวลมากกว่าปัญหาด้านความ ปลอดภัย ซึ่งอยู่ในการซื้อทางออนไลน์.
แม้ว่าจำนวนขนาดเล็กที่เป็นข้อเท็จจริงในการศึกษาของเราเราก็สามารถค้นหาออกจากความคิดเห็นที่สมจริง
และประสบการณ์จากผู้สูงอายุ เราไม่ได้ขอเรียนถามว่าข้อเท็จจริงที่อาศัยอยู่ตามลำพังหรือในแบบที่เป็นกันเอง
ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ตัวอย่างเช่น. เป็นสิ่งที่น่าสนใจเราพบว่าออกมาว่ามีความสัมพันธ์ในแบบที่เป็นกันเองอาจทำหน้าที่เป็นอุปสรรค
ซึ่งจะช่วยให้การใช้สื่อสังคมออนไลน์และด้านไอซีที ดังนั้นเราขอแนะนำให้การค้นหานี้ต้องใช้การวิจัยมากขึ้น.
นอกจากนี้เราไม่ได้สอบถามระดับการศึกษาที่เป็นข้อเท็จจริงที่จะทำ
ซึ่งจะช่วยอธิบายไม่ใช่ใช้บางอย่างหรือการขาดความสนใจ.

อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่าแม้ผู้คนได้รับรู้ถึงประโยชน์ของไอซีที
ซึ่งจะช่วยผู้สูงวัยได้รับรู้เครื่องที่ไร้ประโยชน์ อาจเป็นได้ว่าผู้สูงอายุที่ไม่มีประสบการณ์ส่วนตัวของ
ซึ่งจะช่วยอธิบายไว้สิทธิประโยชน์.
ในทุกบทบาทของไอซีทีและสื่อสังคมเป็นการเพิ่มในสังคมได้แต่ก็มีเหตุผลที่จะไปศึกษาที่เหมาะสม
ซึ่งจะช่วยในเรื่องนี้.