This Door of Immortality was larger

This Door of Immortality was larger than any other Door of Immortality which had appeared during a true Immortal Ascension!

When Fang Wei saw the Door of Immortality, his face went pale. The Door of Immortality that he had faced wasn’t even ten percent as large as this door!

Furthermore, when the Door of Immortality appeared, numerous gigantic palaces flew out from the clouds. They looked like heavenly palaces, and stretched out seemingly without limit. It wasn’t just the people on Planet East Victory who could see them. Everyone on the other three planets were also able to use various methods to observe.

The boundless palaces, each one incredibly huge, emanated Immortal might throughout the Ninth Mountain and Sea. The Ninth Mountain trembled and the Ninth Sea raged. All of the cultivators of the various sects and clans, even the Patriarchs, were thoroughly shocked.

In the Ninth Sea God World, the old woman standing next to Fan Dong’er took a deep breath as she finally understood.

“That Door of Immortality… Those Immortal Palaces…. I understand!” she thought. “He’s not using an Immortality Illumination Vine, he’s… reaching Immortal Ascension on his own! This kid has incredible willpower! What determination! What destiny!!”

She wasn’t the only one who understood what was happening. The other Patriarchs of the various sects and clans all reached the same enlightenment, and were completely shaken.

“If the Heavens approve, well and good. If they don’t want to, they’ll still be forced to acknowledge an Immortal who verifies their own Dao and reaches Immortal Ascension on their own. No wonder the Tribulation Clouds are so huge!

“From ancient times until now in the Nine Mountains and Seas, people who verify their own Dao in such a way are incredibly rare. Only Kṣitigarbha, Lord of the Fourth Mountain and Sea, ever verified his Dao on his own, and eternally suppressed the underworld!”

In that very moment, far out in the starry sky of the Ninth Mountain and Sea, a woman in a white robe sat in an Immortal’s cave somewhere in the Ruins of Immortality. This was the same woman who had appointed Meng Hao as 13th in the Echelon. Her eyes suddenly opened, and she looked off into the distance.

“Paragon Immortal….” she murmured. A rarely seen light suddenly flickered in her eyes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี้ประตูของความเป็นอมตะเป็นใหญ่กว่าใด ๆ อื่น ๆ ประตูของความเป็นอมตะซึ่งมีปรากฏในระหว่างการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์อมตะที่แท้จริงเมื่อเว่ยฟางเห็นประตูของความเป็นอมตะ ใบหน้าของเขาซีด ที่ประตูของความเป็นอมตะที่ได้เจอแม้ไม่ใหญ่ประตูนี้สิบเปอร์เซ็นต์นอกจากนี้ เมื่อปรากฏประตูของความเป็นอมตะ พระราชวังขนาดใหญ่จำนวนมากบินออกจากเมฆ พวกเขาดูเหมือนพระราชวังสวรรค์ และยืดออกดูเหมือนจะไม่ มีขีดจำกัด มันไม่ได้เพียงแค่คนในโลกตะวันออกชัยชนะอาจเห็นพวกเขา ทุกคนบนดาวเคราะห์ดวงที่สามอื่น ๆ ก็สามารถใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อสังเกตพระราชวังไร้ขีดจำกัด แต่ละคนอย่างไม่น่าเชื่อใหญ่ เล็ดลอดออกมาอาจอมตะตลอดเก้าภูเขาและทะเล Trembled เก้าภูเขา และทะเล Ninth ที่โหมกระหน่ำ ทั้งหมดของเครื่องพรวนดินของมัซฮับต่าง ๆ และสมัครพรรคพวก แม้การขึง ถูกอย่างตกใจในเก้าพระทะเล หญิงที่ยืนอยู่ข้างพัดลม Dong'er เอาลึก ๆ ตามที่เธอเข้าใจในที่สุด"เข้าประตูแห่งความเป็นอมตะ... พระราชวังที่อมตะ... เธอคิดว่า ฉันเข้าใจ" "เขาไม่ได้ใช้เถาไฟมีความเป็นอมตะ เขาเป็น...ถึงสวรรค์อมตะด้วยตัวเอง เด็กคนนี้มีจิตตานุภาพที่น่าทึ่ง ว่าความมุ่งมั่น ชะตาใด!!"เธอไม่เป็นคนเดียวที่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ขึงอื่น ๆ ของนิกายและชนเผ่าต่าง ๆ ทั้งหมดถึงตรัสรู้เหมือนกัน และถูกเขย่าอย่างสมบูรณ์''ถ้าอนุมัติสวรรค์ ดี และดี ถ้าพวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาจะยังคงถูกบังคับให้รับทราบอมตะที่ตรวจสอบดาวของตัวเอง และถึงสวรรค์อมตะของตนเอง เสน่ห์เมฆแห่งทุกข์เป็นอย่างมากเพื่อให้"ตั้งแต่สมัยโบราณ จนในเก้าภูเขาและทะเล ชาวดาวของตนเองในลักษณะการตรวจสอบได้หายากอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงรัก พระสี่ภูเขาและทะเล เคยตามดาวของเขาด้วยตัวเขาเอง และลดุจถูกระงับนรก"ในปัจจุบันขณะนั้น ไกลออกในบนท้องฟ้าของเก้าภูเขาและทะเล ผู้หญิงในเสื้อคลุมสีขาวที่นั่งอยู่ในอมตะถ้ำแห่งหนึ่งที่ซากปรักหักพังของความเป็นอมตะ หญิงเดียวที่ได้แต่งตั้งเมงเฮาเป็น 13 ในระดับมาก จู่ ๆ เปิดดวงตาของเธอ แล้วเธอมองออกเป็นระยะทาง"อมตะพารากอน..." เธอ murmured แสงไม่ค่อยเห็นก็ flickered ในดวงตาของเธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประตูของความเป็นอมตะแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าประตูอื่น ๆ ของความเป็นอมตะซึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นในระหว่างการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์อมตะจริง!

เมื่อฟังเหว่ยเห็นประตูของอมตะใบหน้าของเขาหน้าซีด ประตูของความเป็นอมตะว่าเขาได้เผชิญหน้ากับไม่ได้แม้กระทั่งสิบเปอร์เซ็นต์เป็นใหญ่เป็นประตูนี้!

นอกจากนี้เมื่อประตูของอมตะปรากฏพระราชวังขนาดใหญ่จำนวนมากบินออกจากเมฆ พวกเขาดูเหมือนพระราชวังสวรรค์และดูเหมือนจะยืดออกโดยไม่มีขีด จำกัด มันไม่ใช่แค่คนในโลกตะวันออกชัยชนะที่ได้เห็นพวกเขา ทุกคนในอีกสามดาวเคราะห์ก็มีความสามารถที่จะใช้วิธีการต่างๆที่จะสังเกตเห็น.

พระราชวังไม่มีที่สิ้นสุดแต่ละคนมากอย่างไม่น่าเชื่อเล็ดลอดออกมาอาจเป็นอมตะตลอดเก้าภูเขาและทะเล เก้าภูเขาก็หวั่นไหวและทะเลเก้าโหมกระหน่ำ เครื่องคราดของนิกายต่างๆและสมัครพรรคพวกแม้พระสังฆราชตกใจอย่างทั่วถึง.

ในโลกพระเจ้าเก้าทะเลหญิงชรายืนอยู่ข้างแฟน Dong'er เอาลมหายใจลึกที่สุดเท่าที่ในที่สุดเธอก็เข้าใจ.

"ว่าประตูของความเป็นอมตะ ... ผู้อมตะพระราชวัง ... ผมเข้าใจ! "เธอคิดว่า "เขาไม่ได้ใช้ความเป็นอมตะสว่างวัลย์เขา ... ถึงสวรรค์อมตะของเขาเอง! เด็กคนนี้มีจิตตานุภาพอย่างไม่น่าเชื่อ! สิ่งที่มุ่งมั่น! สิ่งที่โชคชะตา !! "

เธอไม่ได้เป็นคนเดียวที่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น พระสังฆราชอื่น ๆ ของนิกายต่างๆและสมัครพรรคพวกทั้งหมดถึงการตรัสรู้เดียวกันและถูกเขย่าอย่างสมบูรณ์.

"ถ้าสวรรค์อนุมัติที่ดีและดี หากพวกเขาไม่ต้องการที่จะพวกเขาจะยังคงถูกบังคับให้รับทราบเป็นอมตะที่ตรวจสอบดาวของตัวเองและถึงอมตะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ด้วยตัวเอง ไม่น่าแปลกใจกลียุคเมฆที่มีขนาดใหญ่มาก!

"ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงขณะนี้ในเทือกเขาและทะเลเก้าคนที่ตรวจสอบดาวของตัวเองในลักษณะที่เป็นของหายากอย่างไม่น่าเชื่อ เพียง Ksitigarbha พระเจ้าของภูเขาสี่และทะเลที่เคยมีการยืนยันดาวของเขากับตัวเขาเองและนิรันดร์ปราบปรามนรก! "

ในขณะนั้นไกลออกไปในท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวที่เก้าภูเขาและทะเลผู้หญิงคนหนึ่งในเสื้อคลุมสีขาว นั่งอยู่ในถ้ำของอมตะที่ไหนสักแห่งในซากปรักหักพังของความเป็นอมตะ นี้เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้รับการแต่งตั้งได้เม้งเฮาเป็น 13 ในระดับ ดวงตาของเธออย่างกระทันหันเปิดและเธอมองออกไปในระยะทาง. the

"พารากอนอมตะ ... ." เธอบ่นอยู่ แสงไม่ค่อยเห็นจู่ flickered ในดวงตาของเธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประตูแห่งอมตะมากกว่าประตูใด ๆอื่น ๆของอมตะ ซึ่งมีปรากฏในความจริงอมตะขึ้นสวรรค์ !เมื่อฟางเว่ย เห็นประตูแห่งอมตะ ใบหน้าของเขาก็ซีด ประตูแห่งอมตะที่เขาได้เผชิญ ไม่ใช่สิบเปอร์เซ็นต์ขนาดใหญ่เป็นประตู !นอกจากนี้ เมื่อประตูแห่งอมตะที่ปรากฏ พระราชวังขนาดใหญ่มากมายที่บินออกมาจากเมฆ มันดูเหมือนสวรรค์พระราชวังและยืดออกดูเหมือนไม่มีขีด จำกัด ไม่ใช่แค่ผู้คนบนโลกชัยชนะตะวันออกที่เห็นพวกเขา ทุกคนในอื่น ๆ 3 ดวง ยังสามารถใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อสังเกตพระราชวังมากมาย แต่ละชิ้นใหญ่มาก ต่องอาจอมตะตลอดเก้าภูเขาและทะเล ภูเขาและทะเล 9 ตัว 9 แสดงความเดือดดาล ทั้งหมดของเกษตรกรจากสำนักต่างๆ และพรรคพวก แม้แต่พระสังฆราช เป็นอย่างตกใจในเก้าโลกทะเลพระเจ้า หญิงชราที่ยืนข้างแฟน dong"er สูดหายใจลึกอย่างหล่อนก็เข้าใจแล้ว" ประตูแห่งอมตะ อมตะ . . . . . . . . . . . . . . ที่วัง ผมเข้าใจแล้ว " เธอคิด " เขาไม่ได้ใช้ความเป็นอมตะรัศมีเถา เขา . . . . . . . . ถึงการบรรลุอมตะของเขาเอง ! เด็กคนนี้มีความมุ่งมั่นอย่างไม่น่าเชื่อ ! การกำหนดอะไร โชคชะตาอะไร ! ! "เธอไม่ใช่คนเดียวที่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น อื่น ๆ บรรดาพระสังฆราชแห่งนิกายต่าง ๆ และพรรคพวกทั้งหมดถึงธรรมเดียวกันและถูกสั่นคลอน" ถ้าพระเจ้าอนุญาต ดีและดี ถ้าพวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาก็ยังถูกบังคับให้ยอมรับว่าเป็นอมตะที่ตรวจสอบดาวของตัวเอง และถึงสวรรค์ที่เป็นอมตะของตนเอง มิน่าถึงเมฆจะเยอะเลย" ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงตอนนี้ในเก้าภูเขาและทะเล ผู้ที่ตรวจสอบดาวของตัวเองในลักษณะเป็นชิ้นที่หายาก แต่ K ṣ itigarbha ลอร์ดแห่งสี่ภูเขาและทะเล เคยตรวจสอบดาวของเขาเอง และไปยับยั้งนรก ! "ในช่วงเวลานั้น ไกลออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวของเก้าภูเขาและทะเล ผู้หญิงในชุดสีขาวนั่งอยู่ในถ้ำที่เป็นอมตะอยู่ในซากปรักหักพังของความเป็นอมตะ นี้เป็นผู้หญิงคนเดียวกันได้แต่งตั้งเมิ่งฮ่าวเป็น 13 ในระดับ . ตาของเธอก็เปิดออก แล้วเธอก็มองไปไกล ๆ" พารากอน อมตะ . . . . . . . " เธอพึมพำ ไม่ค่อยเห็นแสงพลันริบหรี่ลงในสายตาของเธอ