Kukrit Pramoj, (born April 20, 1911

Kukrit Pramoj, (born April 20, 1911, Phitsanulok, Thailand—died Oct. 9, 1995, Bangkok, Thailand), Thai politician, writer, and actor who , saw life imitate art when he became prime minister of Thailand several years after portraying the leader of a fictitious Southeast Asian country in the Marlon Brando film The Ugly American (1963). The son of a prince, Kukrit had the title Mom Rajawong. He was educated in Thailand and England and graduated from Queen’s College, Oxford, with a degree in politics, philosophy, and economics. When he returned to Thailand, he worked in the Finance Ministry and the central bank. He also began writing stories and poems. Kukrit served (1946-47) in the parliament and then, during a period of military rule (1947-73), focused mainly on promoting and preserving Thai culture. He also founded (1950) the newspaper Siam Rath and used it to attack the regime. When a student uprising overthrew the regime, Kukrit returned to politics. He helped create a new constitution and formed the Social Action Party. His brother Seni was named prime minister, but the government failed, and in 1975 Kukrit gained the office. To maintain Thailand’s independence and prevent it from falling under communism, as was happening in neighbouring countries, he established diplomatic relations with China and arranged the withdrawal of U.S. forces from the Thai bases from which much of the Vietnam War had been mounted. An unpopular proposal for raising the price of rice in Bangkok led to the downfall of his government in 1976. Even after the military regained power, Kukrit continued to speak his mind, and he enjoyed the role of elder statesman. A number of his books were considered modern classics in his country.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ปราโมช, (เกิด 20 เมษายน 1911 พิษณุโลก ประเทศไทย — ตาย 9 ต.ค. 1995 กรุงเทพ ประเทศไทย), ไทยนักการเมือง นักเขียน และนักแสดงที่ เห็นชีวิตที่เลียนแบบศิลปะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยหลายปีหลังจากผู้นำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศสมมติมาร์ลอนแบรนโดจิตร ภาพยนตร์ที่เกลียดอเมริกัน (1963) ลูกชายของเจ้า คึกฤทธิ์มีชื่อแม่ราชวงษ์ เขาศึกษาในประเทศไทยและอังกฤษ และจบศึกษาจากวิทยาลัยควีน Oxford กับระดับในการเมือง ปรัชญา เศรษฐศาสตร์ และการ เมื่อเขากลับไปประเทศไทย เขาทำงานในกระทรวงการคลังและธนาคารกลาง เขาได้เริ่มเขียนบทกวีและเรื่อง คึกฤทธิ์บริการ (1946-47) ในรัฐสภา แล้ว ระหว่างช่วงปกครองโดยทหาร (1947-73), เน้นส่วนใหญ่ในการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย นอกจากนี้เขายังก่อตั้งหนังสือพิมพ์สยามรัฐ (1950) และใช้ในการโจมตีระบบการปกครอง เมื่อนักเรียนกบฏล้มล้างระบอบการปกครอง คึกฤทธิ์กลับไปการเมือง เขาช่วยสร้างรัฐธรรมนูญใหม่ และเกิดพรรคสังคม น้องเสนีชื่อนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลล้มเหลว และในปี 1975 คึกฤทธิ์ได้รับสำนักงาน เพื่อรักษาเอกราชของไทย และป้องกันไม่ให้ใต้คอมมิวนิสต์ ที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน เขาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน และอเมริกาถอนกำลังทหารจากฐานไทยที่มากของสงครามเวียดนามได้รับการติดตั้งการจัดเรียง ข้อเสนอที่กฏหมายสำหรับยกระดับราคาข้าวในกรุงเทพฯ ที่นำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลของเขาในปี 1976 แม้หลังจาก regained พลังงานทหาร คึกฤทธิ์ยังคงพูดจิตใจ และเขาชอบบทบาทของรัฐบุรุษผู้สูงอายุ จำนวนของหนังสือของเขาถูกถือว่าคลาสสิกทันสมัยในประเทศของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คึกฤทธิ์ปราโมช (เกิด 20 เมษายน 1911 พิษณุโลกเสียชีวิต 9 ตุลาคม 1995, Bangkok, Thailand), นักการเมืองไทย, นักเขียนและนักแสดงที่เห็นชีวิตเลียนแบบศิลปะเมื่อเขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยหลายปีหลังจากจิตร ผู้นำของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่โกหกใน Marlon Brando ภาพยนตร์เรื่อง The Ugly อเมริกัน (1963) บุตรชายของเจ้าชายคึกฤทธิ์มีชื่อแม่ Rajawong เขาได้รับการศึกษาในประเทศไทยและประเทศอังกฤษและจบการศึกษาจากวิทยาลัยควีนฟอร์ดที่มีการศึกษาระดับปริญญาในการเมืองปรัชญาและเศรษฐศาสตร์ เมื่อเขากลับมาเมืองไทยเขาทำงานในกระทรวงการคลังและธนาคารกลาง นอกจากนี้เขายังเริ่มเขียนเรื่องราวและบทกวี คึกฤทธิ์เสิร์ฟ (1946-1947) ในรัฐสภาแล้วในช่วงระยะเวลาของการปกครองของทหาร (1947-1973) ที่มุ่งเน้นในการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย เขายังได้ก่อตั้ง (1950) หนังสือพิมพ์สยามรัฐและใช้มันเพื่อโจมตีระบอบการปกครอง เมื่อการจลาจลนักเรียนล้มล้างระบอบการปกครองคึกฤทธิ์กลับมาเล่นการเมือง เขาช่วยสร้างรัฐธรรมนูญใหม่และจัดตั้งพรรคกิจสังคม พี่ชายของเขาเสนีย์ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลล้มเหลวและในปี 1975 ได้รับคึกฤทธิ์สำนักงาน เพื่อรักษาเอกราชของไทยและป้องกันไม่ให้ตกอยู่ภายใต้ลัทธิคอมมิวนิสต์เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านเขาได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนและจัดถอนกองกำลังสหรัฐจากฐานไทยจากการที่มากของสงครามเวียดนามได้รับการติดตั้ง ข้อเสนอไม่เป็นที่นิยมสำหรับการเพิ่มราคาข้าวในกรุงเทพฯจะนำไปสู่​​การล่มสลายของรัฐบาลของเขาในปี 1976 แม้หลังจากที่ทหารคืนอำนาจให้คึกฤทธิ์ยังคงพูดความคิดของเขาและเขามีความสุขกับบทบาทของรัฐบุรุษผู้สูงอายุ จำนวนหนังสือของเขาได้รับการพิจารณาคลาสสิกที่ทันสมัย​​ในประเทศของเขา