Background. In the present study, q

Background. In the present study, quality and quantity of indoor dust mites was evaluated at the residence of 150 atopic allergic patients from four different districts of South Assam. Methods. Suspected patients with case history of allergic disease were selected for indoor survey. Dust samples (500 mg) were collected from the selected patient's house and were analyzed using standard methods. Results. About 60% of the selected patients were found suffering from respiratory disorders and rest 40% from skin allergy. The dominant mites recorded from indoor dust samples were Dermatophagoides followed by Blomia, Acarus, and Cheyletus whileCaloglyphus was recorded in least number. The distribution of mites on the basis of housing pattern indicates that RCC type of buildings supports maximum dust mite's population followed by Assam type (semi-RCC) buildings, and the lowest count was observed in wooden houses. Environmental factors like temperature, rainfall, and relative humidity are found to determine the indoor mite's population. Severity of allergic attack in some of the typical cases was found to be proportional to the allergen load of mites in the dust samples.Conclusions. The economic status, housing pattern, and local environmental factors determine the diversity and abundance of dust mites in indoor environment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติความเป็นมา ในการศึกษาที่มีคุณภาพและปริมาณของไรฝุ่นในร่มถูกประเมินที่อยู่อาศัยของผู้ป่วย 150 แพ้ภูมิแพ้จากสี่อำเภอที่แตกต่างกันของภาคใต้ของรัฐอัสสัม วิธีการ ผู้ป่วยที่สงสัยว่ากรณีที่มีประวัติของโรคภูมิแพ้ได้รับเลือกสำหรับการสำรวจในร่ม ตัวอย่างฝุ่น (500 มก.) ที่ถูกเก็บรวบรวมมาจากบ้านของผู้ป่วยที่เลือกและได้รับการวิเคราะห์โดยใช้วิธีการมาตรฐาน ผล. ประมาณ 60% ของผู้ป่วยที่เลือกที่พบความทุกข์ทรมานจากความผิดปกติท​​างเดินหายใจและส่วนที่เหลือ 40% จากโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ไรที่โดดเด่นที่บันทึกไว้จากตัวอย่างฝุ่นร่มถูก Dermatophagoides ตามด้วย Blomia, Acarus และ Cheyletus whileCaloglyphus ถูกบันทึกไว้ในจำนวนน้อย การกระจายตัวของไรบนพื้นฐานของรูปแบบที่อยู่อาศัยที่บ่งชี้ว่า RCC ประเภทของอาคารที่รองรับประชากรไรฝุ่นสูงสุดตามด้วยประเภทอัสสัม (กึ่ง RCC) อาคารและจำนวนต่ำสุดที่พบว่าในบ้านไม้ ปัจจัยสิ่งแวดล้อมเช่นอุณหภูมิปริมาณน้ำฝนและความชื้นสัมพัทธ์ที่พบในการกำหนดประชากรไรในร่ม ความรุนแรงของการโจมตีแพ้ในบางกรณีโดยทั่วไปพบว่ามีสัดส่วนภาระสารก่อภูมิแพ้ไรใน samples.Conclusions ฝุ่น สถานะทางเศรษฐกิจรูปแบบที่อยู่อาศัยและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นตรวจสอบความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ของไรฝุ่นในสภาพแวดล้อมในร่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลัง ในการศึกษาที่มีคุณภาพและปริมาณของไรฝุ่นในการประเมินที่หอพัก 150 สำหรับผู้ป่วยแพ้จากสี่หัวเมืองต่าง ๆของอินเดียใต้ วิธีการ ผู้ป่วยที่สงสัยกับกรณีประวัติโรคภูมิแพ้สุ่มสำรวจในร่ม ตัวอย่างฝุ่น ( 500  มก. ) ถูกเก็บจากบ้านที่เลือกของผู้ป่วย และวิเคราะห์ ข้อมูลโดยใช้วิธีการมาตรฐานผลลัพธ์ ประมาณร้อยละ 60 ของผู้ป่วยทุกข์ทรมานจากโรคทางเดินหายใจ และพบว่าเหลือ 40% จากโรคภูมิแพ้ผิวหนัง เด่นที่บันทึกไว้จากตัวอย่างไรฝุ่นในร่มเป็น dermatophagoides ตาม blomia acarus , และ cheyletus whilecaloglyphus ถูกบันทึกไว้ในจำนวนน้อยที่สุดการกระจายของไรบนพื้นฐานของรูปแบบและประเภทของอาคารที่อยู่อาศัย พบว่า ประชากรของไรฝุ่น และ รองรับสูงสุด รองลงมาคือ ประเภทรัฐอัสสัม ( กึ่ง RCC ) อาคาร และนับจากในสุด บ้านไม้ ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝน และความชื้นสัมพัทธ์พบว่าประชากรในร่มไร .ความรุนแรงของอาการแพ้การโจมตีในบางกรณีโดยทั่วไปพบว่ามีสัดส่วนของ allergen โหลดไรในฝุ่น samples.conclusions . ความสำคัญทางเศรษฐกิจ รูปแบบ ที่อยู่อาศัย และปัจจัยแวดล้อมในท้องถิ่น ศึกษาชนิดและปริมาณของไรฝุ่นในสภาพแวดล้อมในร่ม