Since we had a particular interest

Since we had a particular interest in exploring how, if at all, social media were changing traditional media relations/story placement processes (RQ3a), practitioners were asked if there were online sites their departments use (other than company ones) to get a story out such as industry chat rooms. About 35% of the sample (70 people) indicated they used online sites to release stories. 152 practitioners (75.6% of the total sample) indicated they do not ever refer to reporters to sites that are not their own in order to have a story attributed to someone beyond their departments. However, more than half the sample (58.7%) indicated that they had found stories online about their companies that were not true. When asked what they did in that scenario, the majority indicated they would “try to set the record straight,” either by contacting the source, issuing an online statement, or communicating to internal audiences about it. These respondents believed the most important response to that erroneous information was to reassure their own employees and stakeholders that the story was not true.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เนื่องจากเรามีความสนใจเฉพาะในการสำรวจ อย่างไร ถ้าเลย สังคมมีการเปลี่ยนกระบวนการจัดวางความสัมพันธ์/เรื่องสื่อดั้งเดิม (RQ3a), ผู้ถูกถามถ้ามีไซต์ออนไลน์ แผนกใช้ (อื่น ๆ กว่าบริษัทคน) จะได้รับเรื่องเช่นอุตสาหกรรมห้องสนทนา ประมาณ 35% ของตัวอย่าง (70 คน) ระบุผู้ใช้ไซต์ออนไลน์จะปล่อยเรื่องราว 152 ผู้ (75.6% ของตัวอย่างทั้งหมด) ระบุว่า ไม่เคยอ้างอิงถึงผู้สื่อข่าวไปยังไซต์ที่ไม่ใช่ของตนเองเพื่อให้มีเรื่องราวบันทึกคนนอกเหนือจากแผนก อย่างไรก็ตาม มากกว่าครึ่งตัวอย่าง (58.7%) ระบุว่า พวกเขาได้พบเรื่องราวออนไลน์เกี่ยวกับบริษัทของพวกเขาที่ไม่จริง เมื่อถามสิ่งที่พวกเขาได้ในสถานการณ์นั้น ส่วนใหญ่ระบุจะ "พยายามตั้งตรงคอร์ด โดยติดต่อต้น ออกคำสั่งออนไลน์ หรือสื่อสารกับผู้ชมภายในเกี่ยวกับการ ตอบเหล่านี้เชื่อว่า การตอบสนองที่สำคัญข้อมูลที่ผิดพลาดคือการ เวบพนักงานและมีส่วนได้เสียของตนเองว่า เรื่องไม่จริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เนื่องจากเรามีความสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสำรวจว่าถ้าทุกสื่อสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์กับสื่อแบบดั้งเดิม / เรื่องกระบวนการการจัดวาง (RQ3a) ผู้ปฏิบัติงานถูกถามว่ามีเว็บไซต์ออนไลน์ของพวกเขาใช้หน่วย (ที่นอกเหนือจากที่ บริษัท ) เพื่อให้ได้เรื่อง ออกเช่นอุตสาหกรรมห้องสนทนา ประมาณ 35% ของกลุ่มตัวอย่าง (70 คน) ระบุว่าพวกเขาใช้เว็บไซต์ออนไลน์ที่จะปล่อยเรื่องราว 152 ผู้ปฏิบัติงาน (75.6% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด) ระบุว่าพวกเขาไม่เคยอ้างถึงผู้สื่อข่าวไปยังเว็บไซต์ที่ไม่ได้เป็นของตัวเองในการที่จะมีเรื่องราวมาประกอบกับคนเกินกว่าที่หน่วยงานของพวกเขา แต่มากกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่าง (58.7%) ระบุว่าพวกเขาได้พบเรื่องราวออนไลน์เกี่ยวกับ บริษัท ของพวกเขาที่มีความไม่เป็นความจริง เมื่อถามว่าสิ่งที่พวกเขาทำในสถานการณ์ที่ส่วนใหญ่ระบุว่าพวกเขาจะ "พยายามที่จะตั้งค่าการบันทึกตรง" อย่างใดอย่างหนึ่งโดยการติดต่อกับแหล่งที่มาของการออกคำสั่งออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารกับผู้ชมภายในเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามเหล่านี้เชื่อว่าการตอบสนองที่สำคัญที่สุดในการที่ข้อมูลที่ผิดพลาดคือการสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานของตัวเองและผู้มีส่วนได้เสียว่าเ​​รื่องไม่เป็นความจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เนื่องจากเรามีความสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสำรวจวิธีการ , ถ้าที่ทั้งหมด สื่อสังคมมีการเปลี่ยนแปลงแบบดั้งเดิมสื่อสัมพันธ์ / เรื่องราวกระบวนการจัดวาง ( rq3a ) ผู้ถูกถามถ้า มีเว็บไซต์ออนไลน์แผนกของตนใช้ ( นอกเหนือจากที่บริษัท ) เพื่อให้ได้ข่าวมา เช่น อุตสาหกรรม ห้องแชท ประมาณ 35 % ของกลุ่มตัวอย่าง ( 70 คน ) ระบุว่าพวกเขาใช้เว็บไซต์ออนไลน์เพื่อเผยแพร่เรื่องราว152 ประกอบ ( 75.6 % ของตัวอย่างทั้งหมด พบ พวกเขาไม่เคยเรียกนักข่าวไปยังไซต์ที่ไม่ใช่ของตนเองเพื่อที่จะได้ฟังจากใครนอกจากหน่วยงานของพวกเขา แต่มากกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่าง ( 58.7 % ) ระบุว่าพวกเขาได้พบเรื่องราวของ บริษัท ออนไลน์ที่ไม่จริง เมื่อถามว่า สิ่งที่พวกเขาทำในสถานการณ์สมมติส่วนใหญ่ระบุว่าพวกเขาจะ " พยายามที่จะตั้งค่าการบันทึกตรง " ให้กับแหล่งที่มา ออกคําสั่งออนไลน์ หรือการสื่อสารกับผู้ชมภายใน เกี่ยวกับมัน คนเหล่านี้เชื่อว่า การตอบสนองที่สำคัญที่สุดให้ข้อมูลที่ผิดพลาดที่เป็นเพื่อให้พนักงานของตนและผู้ที่เกี่ยวข้องว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง