How do you become an engaged listen

How do you become an engaged listener?
If your goal is to fully understand and connect with the other person, listening in an engaged way will often come naturally. If it doesn’t, try the following tips. The more you practice them, the more satisfying and rewarding your interactions with others will become.
Focus fully on the speaker, his or her body language, tone of voice, and other nonverbal cues. Tone of voice conveys emotion, so if you’re thinking about other things, checking text messages or doodling, you’re almost certain to miss the nonverbal cues and the emotional content behind the words being spoken. And if the person talking is similarly distracted, you’ll be able to quickly pick up on it. If you find it hard to concentrate on some speakers, try repeating their words over in your head—it’ll reinforce their message and help you stay focused.
Favor your right ear. The left side of the brain contains the primary processing centers for both speech comprehension and emotions. Since the left side of the brain is connected to the right side of the body, favoring your right ear can help you better detect the emotional nuances of what someone is saying. Try keeping your posture straight, your chin down, and tilting your right ear towards the speaker—this will make it easier to pick up on the higher frequencies of human speech that contain the emotional content of what’s being said.
Avoid interrupting or trying to redirect the conversation to your concerns, by saying something like, “If you think that’s bad, let me tell you what happened to me.” Listening is not the same as waiting for your turn to talk. You can’t concentrate on what someone’s saying if you’re forming what you’re going to say next. Often, the speaker can read your facial expressions and know that your mind’s elsewhere.
Show your interest in what’s being said. Nod occasionally, smile at the person, and make sure your posture is open and inviting. Encourage the speaker to continue with small verbal comments like “yes” or “uh huh.”
Try to set aside judgment. In order to communicate effectively with someone, you don’t have to like them or agree with their ideas, values, or opinions. However, you do need to set aside your judgment and withhold blame and criticism in order to fully understand a person. The most difficult communication, when successfully executed, can lead to the most unlikely and profound connection with someone.
Provide feedback. If there seems to be a disconnect, reflect what has been said by paraphrasing. "What I'm hearing is," or "Sounds like you are saying," are great ways to reflect back. Don’t simply repeat what the speaker has said verbatim, though—you’ll sound insincere or unintelligent. Instead, express what the speaker’s words mean to you. Ask questions to clarify certain points: "What do you mean when you say..." or "Is this what you mean?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นการฟังมีส่วนร่วมถ้าเป้าหมายของคุณคือการ เข้าใจ และเชื่อมต่อกับคนอื่น ฟังในแบบมีส่วนร่วมจะเข้ามาตามธรรมชาติ ถ้าไม่ ลองเคล็ดลับต่อไป ยิ่งคุณฝึกฝนพวกเขา ความพึงพอใจมากขึ้นและคุ้มค่าจะเป็นการโต้ตอบกับผู้อื่นเน้นเต็มลำโพง ภาษากายของเขา หรือเธอ น้ำเสียง และอื่น ๆ สัญลักษณ์นภาษา น้ำเสียงสื่ออารมณ์ ดังนั้นหากคุณกำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งอื่น ๆ ตรวจสอบข้อความ หรือการ วาด คุณแน่ใจเกือบจะพลาดสัญลักษณ์กริยาและเนื้อหาอารมณ์หลังคำที่ถูกพูด และถ้าคนพูดเป็นฟุ้งซ่านในทำนองเดียวกัน คุณจะสามารถได้อย่างรวดเร็วรับกับมัน ถ้าคุณพบมันยากที่จะมีสมาธิในลำโพงบาง ลองทำซ้ำคำผ่านในหัวของคุณ — มันจะเสริมสร้างข้อและช่วยให้คุณจดจ่อชอบหูขวาของคุณ ด้านซ้ายของสมองประกอบด้วยศูนย์ประมวลผลหลักความเข้าใจคำพูดและอารมณ์ เนื่องจากด้านซ้ายของสมองเชื่อมต่อกับด้านขวาของร่างกาย ดีหูขวาของคุณสามารถช่วยคุณตรวจพบความแตกต่างทางอารมณ์ของสิ่งที่คนจะพูดดีกว่า พยายามรักษาอิริยาบถตรง คางลง และเอียงหูขวาไปทางลำโพง — นี้จะทำให้มันง่ายที่จะรับกับความถี่สูงของเสียงมนุษย์ที่ประกอบด้วยเนื้อหาอารมณ์ของสิ่งที่คนพูด กันหลีกเลี่ยงการรบกวน หรือพยายามที่จะเปลี่ยนเส้นทางการสนทนาที่ต้องการ โดยบอกสิ่งที่ชอบ "ถ้าคุณคิดว่า ที่ไม่ดี ให้ฉันบอกเกิดอะไรขึ้นกับฉัน" ฟังไม่ได้เหมือนกับการรอคอยสำหรับการพูดคุย คุณไม่สามารถมีสมาธิในสิ่งที่คนจะบอกว่า ถ้า คุณกำลังสร้างสิ่งที่คุณกำลังจะพูดต่อไป มักจะ ลำโพงสามารถอ่านท่าทางใบหน้าคุณ และรู้ใจของอื่น ๆแสดงความสนใจในสิ่งที่คนพูด บางครั้งพยักหน้า ยิ้มที่บุคคล และให้แน่ใจว่าท่าทางของคุณจะเปิด และเชิญชวน สนับสนุนให้ลำโพงพร้อมข้อคิดเห็นด้วยวาจาเล็กเช่น "ใช่" หรือ " uh ฮะ. "พยายามที่จะตั้งสำรองคำพิพากษา เพื่อการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพกับคนอื่น ไม่ชอบ หรือเห็นด้วยกับความคิดของพวกเขา ค่า หรือความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม คุณต้องตั้งสำรองวิจารณญาณคุณ และหักตำหนิและวิจารณ์เพื่อเข้าใจคน สื่อสารยากที่สุด เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถนำไปสู่ที่สุดเชื่อมต่อยาก และลึกซึ้งกับคนอื่นแสดงความคิดเห็น ถ้ามีน่าจะ เป็นการเชื่อมต่อ สะท้อนสิ่งที่ได้รับการกล่าว โดยการถอดความ "สิ่งที่ฉัน:ได้ยินเป็น" หรือ "เสียงเหมือนคุณจะบอก คือ วิธีสะท้อนกลับ ไม่เพียงแค่ทำซ้ำอะไรลำโพงตรัส verbatim แม้ว่า — คุณจะเสียง insincere หรืออับปัญญา แทน แสดงคำของลำโพงอะไรให้คุณ ถามคำถามชี้แจงบางจุด: "คุณหมายถึงอะไรเมื่อคุณพูดว่า..." หรือ "นี่คือสิ่งที่คุณหมายถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คุณจะทำอย่างไรกลายเป็นผู้ฟังมีส่วนร่วมไหม
ถ้าเป้าหมายของคุณคือการทำความเข้าใจอย่างเต็มที่และเชื่อมต่อกับคนอื่น ๆ ฟังในทางที่มีส่วนร่วมมักจะมาตามธรรมชาติ ถ้ามันไม่ได้ลองใช้เคล็ดลับต่อไปนี้ ยิ่งคุณฝึกพวกเขาพอใจมากขึ้นและคุ้มค่าการโต้ตอบของคุณกับคนอื่น ๆ จะกลายเป็น.
เน้นอย่างเต็มที่ในลำโพงเสียงของเขาหรือภาษากายของเธอของเสียงและชี้นำอวัจนภาษาอื่น ๆ น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงอารมณ์ดังนั้นหากคุณกำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งอื่น ๆ ตรวจสอบข้อความหรือ doodling คุณบางเกือบจะพลาดตัวชี้นำอวัจนภาษาและเนื้อหาทางอารมณ์ที่อยู่เบื้องหลังคำที่ถูกพูด และถ้าพูดถึงคนที่มีสมาธิในทำนองเดียวกันคุณจะสามารถได้อย่างรวดเร็วรับกับมัน หากคุณพบว่ามันยากที่จะมีสมาธิอยู่กับลำโพงลองทำซ้ำคำพูดของพวกเขามากกว่าในหัวของคุณ-it'll เสริมสร้างข้อความของพวกเขาและช่วยให้คุณพักที่เน้น.
Favor หูข้างขวาของคุณ ด้านซ้ายของสมองที่มีศูนย์ประมวลผลหลักสำหรับทั้งความเข้าใจในคำพูดและอารมณ์ ตั้งแต่ด้านซ้ายของสมองที่มีการเชื่อมต่อไปทางด้านขวาของร่างกายนิยมหูข้างขวาของคุณจะช่วยให้คุณตรวจสอบความแตกต่างทางอารมณ์ของสิ่งที่คนไม่ว่าจะเป็น ลองรักษาท่าทางของคุณตรงคางของคุณลงและเอียงหูข้างขวาของคุณต่อลำโพงนี้จะทำให้มันง่ายที่จะรับกับความถี่ที่สูงขึ้นของการพูดของมนุษย์ที่มีเนื้อหาทางอารมณ์ของสิ่งที่ถูกกล่าว.
หลีกเลี่ยงการขัดขวางหรือพยายามที่จะเปลี่ยนเส้นทาง การสนทนาถึงความกังวลของคุณโดยการพูดอะไรบางอย่างเช่น "ถ้าคุณคิดว่าไม่ดีให้ฉันบอกคุณในสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน." ฟังไม่ได้เช่นเดียวกับการรอคอยสำหรับการเปิดของคุณจะพูดคุย คุณไม่สามารถมีสมาธิกับสิ่งที่ใครบางคนบอกว่าถ้าคุณกำลังก่อตัวขึ้นสิ่งที่คุณกำลังจะกล่าวต่อไป บ่อยครั้งที่ลำโพงสามารถอ่านการแสดงออกทางสีหน้าของคุณและรู้ว่าใจของคุณที่อื่น ๆ .
แสดงความสนใจในสิ่งที่ถูกกล่าว พยักหน้าบางครั้งรอยยิ้มที่คนและให้แน่ใจว่าท่าทางของคุณจะเปิดและเชิญชวน ขอแนะนำให้ลำโพงที่จะยังคงมีความคิดเห็นวาจาเล็ก ๆ เช่น "ใช่" หรือ "ฮะ."
พยายามที่จะตั้งสำรองการตัดสิน เพื่อที่จะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับคนที่คุณไม่จำเป็นต้องชอบพวกเขาหรือเห็นด้วยกับความคิดค่านิยมหรือความคิดเห็นของพวกเขา แต่คุณไม่จำเป็นต้องตั้งสำรองการตัดสินใจของคุณและระงับการตำหนิและวิจารณ์ในการสั่งซื้อเพื่อให้เข้าใจคน การสื่อสารที่ยากที่สุดเมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถนำไปสู่การเชื่อมต่อมากที่สุดไม่น่าและลึกซึ้งกับใครสักคน.
ระบุความคิดเห็น หากดูเหมือนว่าจะมีปลดสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ได้รับการกล่าวโดยถอดความ "สิ่งที่ฉันได้ยินเป็น" หรือ "เสียงเหมือนที่คุณพูด" เป็นวิธีที่ดีที่จะสะท้อนให้เห็นถึงกลับ ไม่เพียงแค่ทำซ้ำสิ่งที่ผู้พูดได้กล่าวคำต่อคำเสียงแม้ว่า-คุณจะไม่จริงใจหรือเซ่อ แต่แสดงสิ่งที่คำพูดของผู้พูดหมายถึงคุณ ถามคำถามที่จะชี้แจงในบางประเด็น: "คุณหมายถึงอะไรเมื่อคุณพูดว่า ... " หรือ "นี่คือสิ่งที่คุณหมายถึงอะไร?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างไรที่คุณกลายเป็นร่วมฟัง ?ถ้าเป้าหมายของคุณคือการ เข้าใจ และเชื่อมต่อกับบุคคลอื่น ฟังในหมั้นวิธีมักจะมาโดยธรรมชาติ ถ้าไม่ ลองใช้เคล็ดลับต่อไปนี้ ยิ่งฝึก ยิ่งพอใจและคุ้มค่าการปฏิสัมพันธ์ของคุณกับคนอื่น ๆ จะกลายเป็นมุ่งเต็มลําโพง , ของเขาหรือเธอ ท่าทาง น้ำเสียง และภาษากายอื่น ๆ น้ำเสียงบ่งบอกถึงอารมณ์ ดังนั้นหากคุณกำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งอื่น ๆ , ตรวจสอบข้อความ หรือวาดรูป คุณเกือบจะแน่นอนจะพลาด ภาษากาย และอารมณ์เนื้อหาที่อยู่เบื้องหลังคำพูด . และถ้าคนที่พูดมันเหมือนกับสมาธิ คุณจะสามารถได้อย่างรวดเร็วขึ้นครับ ถ้าคุณพบมันยากที่จะมีสมาธิในบางภาพ พยายามย้ำคำพูดของพวกเขามากกว่าในหัวของคุณจะเสริมสร้างข้อความของพวกเขาและช่วยให้คุณมีสมาธิชอบหูข้างขวาของคุณ สมองซีกซ้าย มีการประมวลผลหลักศูนย์ทั้งการพูดและความเข้าใจอารมณ์ เนื่องจากสมองซีกซ้าย เชื่อมกับฝั่งขวาของร่างกาย , นิยม หูข้างขวาของคุณสามารถช่วยให้คุณดีขึ้นตรวจสอบความแตกต่างทางอารมณ์ของสิ่งที่คนอื่นพูด พยายามรักษาท่าทางของคุณตรงคางของคุณลงและเอียงหูขวาของคุณที่มีต่อผู้พูด นี้จะทำให้ง่ายต่อการหยิบความถี่สูงในการพูดของมนุษย์ที่ประกอบด้วยเนื้อหาทางอารมณ์ของสิ่งที่ถูกกล่าวว่าหลีกเลี่ยงการขัดจังหวะหรือพยายามที่จะเปลี่ยนเส้นทางการสนทนาถึงความกังวลของคุณ โดยกล่าวว่า " ถ้าคุณคิดว่า ไม่ดี ให้ฉันบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน " ฟังไม่ได้เหมือนกันรอเปิดของคุณเพื่อที่จะพูด คุณไม่ได้สนใจในสิ่งที่คนอื่นพูด ถ้าคุณกำลังสร้างสิ่งที่คุณกำลังจะพูดต่อไป มักจะ ผู้พูดสามารถอ่านสีหน้าของคุณ และทราบว่า จิตใจของคุณที่อื่นแสดงความสนใจในสิ่งที่ถูกกล่าว พยักหน้ารับ บางครั้งรอยยิ้มที่คน และให้แน่ใจว่าท่าทางของคุณเปิดและเชิญชวน ส่งเสริมให้ผู้พูดจะแสดงความคิดเห็นด้วยวาจาขนาดเล็กเช่น " ใช่ " หรือ " ฮะ "พยายามที่จะตั้งค่าการพิพากษา เพื่อที่จะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับใครสักคน คุณไม่จำเป็นต้องชอบหรือเห็นด้วยกับความคิดของตน ค่านิยมหรือความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม คุณต้องตั้งค่าไว้ในการตัดสินใจของคุณและระงับโทษและวิจารณ์เพื่อให้เข้าใจคน การสื่อสารที่ยากที่สุด เมื่อความสำเร็จ สามารถนําไปยากที่สุดและลึกซึ้งเกี่ยวข้องกับใครบางคนให้ความคิดเห็น ถ้ามีน่าจะปลดสะท้อนสิ่งที่ได้รับการกล่าวโดยการ . สิ่งที่ฉันได้ยินคือ " หรือ " ฟังดูเหมือนคุณกำลังพูดว่า " เป็นวิธีที่ดีที่จะสะท้อนกลับมา ไม่ต้องพูดซ้ำสิ่งที่ผู้พูดได้พูดทุกคำ แม้ว่าคุณจะฟังดูไม่จริงใจหรือโง่ . แต่แสดงคำพูดของผู้พูดหมายถึงคุณ ถามเพื่ออธิบายบางจุด : " คุณหมายถึงอะไรเมื่อคุณพูด . . . . . . . " หรือ " นั่นคือสิ่งที่คุณหมายถึง ?