A common belief among the superstit

A common belief among the superstitious is that opening an umbrella indoors is bad luck. The claims of unfortunate events include bad luck for all of the people inside the building and even death to a family member before the years end. Of course, there is no scientific evidence to substantiate these claims. However, by examining the possible origins of this superstition we are better able to understand why people believe in this fallacy.

One possible origin for today’s belief is the European umbrella that was popular in the eighteenth century. These umbrellas were larger than modern umbrellas and had hard metal spokes and spring triggers. The opening of these umbrellas could cause damage to objects or people that happened to be nearby. Therefore, it was considered bad luck to open an umbrella indoors, because of the many cases in which people broke something or injured someone with them. One article suggested that the superstition of bad luck may have been created on purpose to reduce the number of accidents created by the umbrellas.

Superstitions involving umbrellas are also present in ancient Egypt, long before the creation of eighteenth century umbrellas. Unlike those umbrellas, ancient Egyptian umbrellas were to protect their users from the sun’s rays rather than from rain. It is believed that at this time, opening an umbrella inside was considered a sign of disrespect to the sun god.

This superstition reminds me of the myth about only being able to use ten percent of our brains and the myth about sugar making children hyper because although there is no proof to support the claims many people still believe the notion. The idea is promoted through word of mouth and it taught to each generation. For the most part, parents probably tell their children this myth so that the kids don’t break anything or hurt themselves by playing with umbrellas indoors.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเชื่อร่วมกันระหว่างความเชื่อโชคลางเป็นที่เปิดร่มใ​​นบ้านเป็นความโชคร้าย การเรียกร้องของเหตุการณ์ที่โชคร้ายรวมถึงโชคร้ายสำหรับทุกคนที่อยู่ภายในอาคารและแม้แต่ความตายให้สมาชิกในครอบครัวก่อนที่จะสิ้นปี แน่นอนไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะยืนยันเรียกร้องเหล่านี้ อย่างไรก็ตามโดยการตรวจสอบที่มาที่เป็นไปได้ของความเชื่อนี้เราจะสามารถที่จะเข้าใจว่าทำไมผู้คนเชื่อมั่นในความเชื่อที่ผิดนี้.

หนึ่งที่มาที่เป็นไปได้สำหรับความเชื่อของวันนี้คือร่มยุโรปที่เป็นที่นิยมในศตวรรษที่สิบแปด ร่มเหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่าร่มที่ทันสมัย​​และมีซี่โลหะหนักและฤดูใบไม้ผลิเรียกเปิดร่มเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อวัตถุหรือบุคคลที่จะเกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียง ดังนั้นจึงถือเป็นความโชคร้ายที่จะเปิดร่มใ​​นบ้านเพราะหลายกรณีที่คนยากจนบางสิ่งบางอย่างหรือได้รับบาดเจ็บคนที่มีพวกเขาหนึ่งบทความชี้ให้เห็นว่าไสยศาสตร์ของโชคร้ายอาจจะถูกสร้างขึ้นในวัตถุประสงค์เพื่อลดจำนวนของการเกิดอุบัติเหตุที่สร้างขึ้นโดยร่ม.

superstitions ที่เกี่ยวข้องกับร่มยังมีอยู่ในอียิปต์โบราณนานก่อนที่จะสร้างร่มศตวรรษที่สิบแปด ไม่เหมือนร่มเหล่านั้นร่มอียิปต์โบราณเพื่อปกป้องผู้ใช้ของพวกเขาจากรังสีของดวงอาทิตย์มากกว่าจากฝน มีความเชื่อกันว่าในช่วงเวลานี้เปิดร่มภายในถือเป็นสัญลักษณ์ของการดูหมิ่นพระเจ้าตากแดด.

ไสยศาสตร์นี้ทำให้ผมนึกถึงตำนานเกี่ยวกับเพียงความสามารถในการใช้ร้อยละสิบของสมองของเราและตำนานเกี่ยวกับน้ำตาลทำให้เด็กเกินไปเพราะถึงแม้จะมีหลักฐานที่จะสนับสนุนการเรียกร้องไม่กี่คนที่ยังคงเชื่อมั่นในความคิด ความคิดที่ได้รับการเลื่อนผ่านคำจากปากและมันสอนให้แต่ละรุ่น ส่วนใหญ่ที่พ่อแม่อาจจะบอกเด็กของพวกเขาตำนานนี้เพื่อให้เด็กไม่ได้ผิดอะไรหรือทำร้ายตัวเองด้วยการเล่นกับร่มในบ้าน.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเชื่อทั่วไประหว่างที่คร่ำครึจะเปิดร่มในร่มว่าซวย อ้างเหตุการณ์โชคร้ายมีโชคไม่ดีสำหรับทุกคนภายในอาคาร และแม้ตายให้สมาชิกในครอบครัวก่อนสิ้นปี แน่นอน มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไม่ substantiate เรียกร้องเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม โดยตรวจสอบการกำเนิดของความเชื่อโชคลางนี้ได้ เราก็สามารถที่จะเข้าใจว่าทำไมคนเชื่อว่าในนี้เข้าใจผิด

ร่มยุโรปที่เป็นที่นิยมในศตวรรษ eighteenth เป็นจุดเริ่มต้นไปได้หนึ่งสำหรับวันนี้เชื่อ ร่มเหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่าร่มที่ทันสมัย และมีซี่โลหะหนักและสปริงเกอร์ เปิดร่มเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นจะใกล้เคียงหรือวัตถุ ดังนั้น ก็มีถือว่าโชคไม่ดีเปิดในร่ม ร่มเนื่องจาก มีหลายกรณีที่ยากจนบางคน หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ บทความหนึ่งแนะนำว่า ความเชื่อโชคลางของโชคไม่ดีอาจถูกสร้างในการลดจำนวนอุบัติเหตุโดยร่ม

ยังมี Superstitions ที่เกี่ยวข้องกับร่มอยู่ในอียิปต์โบราณ ยาวก่อนสร้างศตวรรษ eighteenth ร่ม ซึ่งแตกต่างจากที่ร่ม ร่มโบราณอียิปต์เพื่อ ป้องกันผู้ใช้ของตน จากรังสีของดวงอาทิตย์ แทน จากฝนได้ เชื่อกันว่าถือว่า ตอนนี้ เปิดร่มภายในเป็นเครื่องหมายของตุลาการพระอาทิตย์

ความเชื่อโชคลางนี้จะแจ้งเตือนฉันของตำนานเกี่ยวกับเฉพาะ ความสามารถในการใช้ 10% ของสมองของเราและตำนานเกี่ยวกับน้ำตาลทำเด็กไฮเปอร์เนื่องจากถึงแม้ไม่มีหลักฐานสนับสนุนการเรียกร้องหลายคนยังเชื่อแนวคิด คือการส่งเสริมความคิดผ่านจากปาก และก็สอนให้แต่ละรุ่น ส่วนใหญ่ ผู้ปกครองคงบอกลูกเรื่องนี้เพื่อให้เด็กไม่ทำลายอะไร หรือทำร้ายตัวเอง โดยการเล่นกับร่มในร่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเชื่อในโชคถือลางทั่วไปที่อยู่ที่ว่าการเปิดร่มที่ในร่มเป็นความโชคร้าย การกล่าวอ้างถึงเหตุการณ์ร้ายๆรวมถึงความโชคร้ายสำหรับคนที่อยู่ ภายใน อาคารและแม้กระทั่งความตายเพื่อสมาชิกในครอบครัวก่อนถึงปีที่จบหลักสูตรไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อแสดงหลักฐานการกล่าวอ้างดังกล่าวทั้งหมด แต่ถึงอย่างไรก็ตามด้วยการตรวจสอบต้นกำเนิดที่เป็นไปได้ของความเชื่อนี้เราจะสามารถทำความเข้าใจว่าทำไมคนเราเชื่อว่าในความเข้าใจผิดนี้.

หนึ่งที่มาเป็นไปได้สำหรับในวันนี้ความเชื่อเป็นร่มตามแบบยุโรปที่ได้รับความนิยมในศตวรรษที่สิบแปด ร่มเหล่านี้เป็นขนาดใหญ่กว่าร่มที่ทันสมัยและมี๘ท่อนซึ่งเป็นนัย๘ซี่ล้อโลหะหนักและฤดูใบไม้ผลิจะทำให้เกิดการเปิดให้ร่มเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเสียหายกับสิ่งของหรือบุคคลที่เกิดขึ้นจะอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ดังนั้นจึงทำให้มีการพิจารณาให้โชคไม่ดีในการเปิดร่มที่ในร่มเพราะของหลายๆกรณีที่ผู้คนก็บางสิ่งบางอย่างหรือใครบางคนได้รับบาดเจ็บด้วยข้อหนึ่งที่แนะนำว่าความเชื่อของโชคร้ายอาจมีการสร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ในการลดจำนวนที่ถูกสร้างขึ้นโดยอุบัติเหตุของร่มที่.

ผีสางเทวดาให้ร่มอยู่ในอียิปต์โบราณมานานก่อนการสร้างที่ร่มนอกจากนั้นยังศตวรรษที่สิบแปด ไม่เหมือนกับที่ร่มร่มอียิปต์โบราณเป็นการปกป้องผู้ใช้จากแสงจ้าจากแสงแดดได้มากกว่าจากฝนตก เป็นที่เชื่อได้ว่าในช่วงเวลานี้การเปิดร่มที่อยู่ ภายใน เครื่องได้รับการพิจารณาให้เป็นป้ายที่ของแสดงความไม่เคารพต่อพระเจ้าอาบแดดที่.

ความเชื่อนี้จะช่วยเตือนให้ผมของความเชื่อที่เกี่ยวกับเท่านั้นที่สามารถใช้ 10% ของสมองของเราและความเชื่อที่เกี่ยวกับน้ำตาลทำให้เด็กตื่นเต้นมากเกินไปเพราะแม้ว่าจะไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องในการสนับสนุนการเรียกร้องที่ผู้คนจำนวนมากยังคงเชื่อว่าความคิดที่จะ แนวความคิดที่ได้รับการส่งเสริมจากปากและสอนให้แต่ละรุ่น สำหรับพื้นที่ส่วนมากที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะบอกว่าเด็กๆของพวกเขาความเชื่อนี้เพื่อให้เด็กๆได้หรือไม่เลิกหยุดพักอะไรหรือทำร้ายตัวเองด้วยการเล่นกับร่มแบบในร่ม.