An expense is a cost that occurs as

An expense is a cost that occurs as part of a company's operating activities during a specified accounting period. A retailer will likely incur the following expenses: the cost of goods sold, commissions earned by the sales staff, rent for the retail space, the cost of the electricity used, advertising that took place, wages and salaries that were incurred, etc.

Under the accrual method of accounting, an expense is reported on the income statement for the period when 1) the cost best matches the related revenues, 2) the cost is used up or expires, or 3) there is uncertainty or difficulty in measuring the future benefit.

For instance a retailer's income statement for the month of August should report the cost of the goods that were sold in August. (The date that the retailer had paid for the goods is not pertinent.) The commissions earned by the sales staff for having sold the goods in August is to be reported as an expense on the August income statement (even if the commissions are paid in September). The cost of the electricity used in August must also be included as an expense in the August income statement (even if the bill is received in September and is paid in October). These examples indicate that an expense can occur in an accounting period that is different from the period when the company pays for the item. Hence the word expense has a meaning that is different from payment.

Expenses are often divided into two major classifications: operating and nonoperating. Operating expenses involve a company's main activities. For example, a retailer's operating expenses include 1) the cost of goods sold, and 2) the selling, general and administrative (SG&A) expenses. The company may further sort these expenses by department, product line, and so on. A retailer's nonoperating expenses pertain to its incidental activities. A common nonoperating expense for a retailer is interest expense.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค่าใช้จ่ายเป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัทในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีที่ระบุ ผู้ค้าปลีกอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายต่อไปนี้: ต้นทุนของสินค้าที่ขาย โฆษณาที่เอาสถานที่ ค่าจ้าง และเงินเดือนที่เกิดรายการที่ได้รับจากพนักงานขายของ เช่าพื้นที่ขาย ต้นทุนของไฟฟ้าที่ใช้ ค่าคอมมิชชั่น ฯลฯภายใต้วิธีการรับรู้การบัญชี มีรายงานค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนสำหรับงวดเมื่อ 1) ต้นทุนที่ดีที่สุดตรงกับรายได้ที่เกี่ยวข้อง 2) ต้นทุนที่ใช้ค่า หรือหมดอายุ หรือ 3) มีความไม่แน่นอนหรือความยากลำบากในการวัดผลประโยชน์ในอนาคตตัวอย่างเช่น งบกำไรขาดทุนของผู้ค้าปลีกสำหรับเดือนสิงหาคมควรรายงานต้นทุนของสินค้าที่ถูกขายในเดือนสิงหาคม (วันที่ผู้ค้าปลีกได้รับสำหรับสินค้าไม่เกี่ยวข้อง) ค่าคอมมิชชั่นที่ได้รับจากพนักงานขายมีขายสินค้าในเดือนสิงหาคมจะรายงานเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนสิงหาคม (แม้ว่าจะได้รับเงินในค่าคอมมิชชั่นในเดือนกันยายน) ต้นทุนของไฟฟ้าที่ใช้ในเดือนสิงหาคมยังต้องรวมเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนสิงหาคม (แม้เงินจะได้รับในเดือนกันยายน และจ่ายในเดือนตุลาคม) ตัวอย่างเหล่านี้บ่งชี้ว่า ค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในระยะเวลาบัญชีที่แตกต่างจากรอบระยะเวลาเมื่อบริษัทจ่ายสำหรับสินค้า ดังนั้น ค่าใช้จ่ายคำมีความหมายที่แตกต่างจากการชำระเงินค่าใช้จ่ายมักจะแบ่งออกเป็นประเภทหลักที่สอง: การทำงาน และขณะไม่ทำงาน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเกี่ยวข้องกับกิจกรรมหลักของบริษัท ตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานผู้ค้าปลีกรวม 1) ต้นทุนขาย และ 2) ทั่วไปค่าขาย และบริหาร (และ) บริษัทเพิ่มเติมอาจเรียงลำดับเหล่านี้ค่าใช้จ่าย โดยแผนก สายผลิตภัณฑ์ และอื่น ๆ ค่าใช้จ่ายขณะไม่ทำงานของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมอื่น ๆ ดอกเบี้ยจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายขณะไม่ทำงานทั่วไปสำหรับผู้ค้าปลีกได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ค่าใช้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการดำเนินงานของ บริษัท ฯ ในช่วงระยะเวลาบัญชีที่ระบุ ร้านค้าปลีกมีแนวโน้มที่จะเสียค่าใช้จ่ายต่อไปนี้: ค่าใช้จ่ายของสินค้าที่ขายได้รับค่าคอมมิชชั่นจากพนักงานขายให้เช่าพื้นที่ค้าปลีก, ค่าใช้จ่ายของการไฟฟ้าที่ใช้ในการโฆษณาที่เกิดขึ้นค่าจ้างและเงินเดือนที่เกิดขึ้น ฯลฯ

ภายใต้ วิธีการคงค้างของบัญชีค่าใช้จ่ายที่มีรายงานในงบกำไรขาดทุนสำหรับงวดที่ 1) ค่าใช้จ่ายที่ดีที่สุดตรงกับรายได้ที่เกี่ยวข้อง 2) ค่าใช้จ่ายจะถูกใช้หมดหรือหมดอายุหรือ 3) มีความไม่แน่นอนหรือความยากลำบากในการวัดอนาคต ประโยชน์.

ยกตัวอย่างเช่นงบกำไรขาดทุนของผู้ค้าปลีกในเดือนสิงหาคมควรรายงานต้นทุนของสินค้าที่มียอดขายในเดือนสิงหาคม (วันที่ที่ร้านค้าปลีกได้จ่ายเงินสำหรับสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้อง.) คณะกรรมการที่ได้รับจากพนักงานขายสำหรับการขายสินค้าในเดือนสิงหาคมจะได้รับการรายงานเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนสิงหาคม (แม้ว่าค่าคอมมิชชั่นจะได้รับเงินใน กันยายน). ค่าใช้จ่ายของการผลิตไฟฟ้าที่ใช้ในเดือนสิงหาคมจะต้องรวมเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนสิงหาคม (แม้ว่าการเรียกเก็บเงินที่ได้รับในเดือนกันยายนและเป็นค่าใช้จ่ายในเดือนตุลาคม) ความ ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีที่แตกต่างจากช่วงเวลาที่ บริษัท จ่ายสำหรับรายการ . ดังนั้นค่าใช้จ่ายในคำที่มีความหมายที่แตกต่างจากการชำระเงิน

ค่าใช้จ่ายมักจะถูกแบ่งออกเป็นสองจำแนกประเภทที่สำคัญ: การดำเนินงานและ nonoperating ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหลักของ บริษัท ฯ ตัวอย่างเช่นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของร้านค้าปลีก ได้แก่ 1) ค่าใช้จ่ายของสินค้าที่ขายและ 2) การขายทั่วไปและบริหาร (SG & A) ค่าใช้จ่าย โดย บริษัท สามารถค้าหาค่าใช้จ่ายเหล่านี้โดยฝ่ายสายผลิตภัณฑ์และอื่น ๆ ค่าใช้จ่ายใน nonoperating ร้านค้าปลีกของเกี่ยวข้องกับกิจกรรมอื่น ๆ ของมัน ค่าใช้จ่าย nonoperating ทั่วไปสำหรับร้านค้าปลีกที่เป็นค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ค่าใช้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในงานของ บริษัท บัญชีที่ระบุระยะเวลา ผู้ค้าปลีกอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายดังนี้ ต้นทุนของสินค้าที่ขาย รายได้ โดยเจ้าหน้าที่การขาย , ให้เช่าพื้นที่ค้าปลีก ต้นทุนของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ การโฆษณาที่เกิดขึ้นค่าจ้างและเงินเดือนที่ได้รับความเสียหาย ฯลฯภายใต้การรับรู้วิธีการบัญชี ค่าใช้จ่าย ยังขาดทุนสำหรับงวดที่ 1 ) ต้นทุนที่ดีที่สุดตรงกับที่เกี่ยวข้องกับรายได้ 2 ) ค่าใช้จ่ายจะถูกใช้หรือหมดอายุ หรือ 3 ) มีความไม่แน่นอน หรือความยากในการวัดประโยชน์ในอนาคตตัวอย่างงบการเงินของผู้ค้าปลีกในเดือนสิงหาคม ควรรายงานต้นทุนของสินค้าที่ขายในเดือนสิงหาคม ( วันที่ผู้ค้าปลีกได้จ่ายเงินสำหรับสินค้าที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง . ) รายได้จากการขายพนักงานที่ขายสินค้าในเดือนสิงหาคมจะรายงานเป็นค่าใช้จ่ายในงบรายได้ของเดือนสิงหาคม ( แม้ว่าค่าคอมมิชชั่นจะถูกจ่ายในเดือนกันยายน ) ต้นทุนของการใช้ไฟฟ้าในเดือนสิงหาคมยังต้องรวมเป็นค่าใช้จ่ายในงบรายได้ของเดือนสิงหาคม ( แม้ว่าบิลจะได้รับในเดือนกันยายน และจะจ่ายในเดือนตุลาคม ) ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีที่แตกต่างจากสมัยเมื่อ บริษัท ที่จ่ายสำหรับรายการ ดังนั้น คำว่าค่าใช้จ่าย มีความหมายที่แตกต่างจากการชำระเงินค่าใช้จ่ายมักจะแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก : การดำเนินงานและ nonoperating . ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท กิจกรรมหลัก ตัวอย่างเช่น , ค่าใช้จ่ายของผู้ค้าปลีก ได้แก่ 1 ) ต้นทุนของสินค้าที่ขาย และ 2 ) การขาย , ทั่วไปและธุรการ ( SG & a ) ค่าใช้จ่าย บริษัทอาจเพิ่มเติมประเภทค่าใช้จ่ายเหล่านี้โดยแผนกผลิตภัณฑ์สาย และอื่น ๆ ของผู้ค้าปลีก nonoperating ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกิจกรรมส้มหล่นของ ทั่วไป nonoperating ค่าใช้จ่ายสำหรับร้านค้าปลีกเป็นค่าดอกเบี้ย .