In the interaction of both policies

In the interaction of both policies and with the aforementioned assumptions, two basic situations would arise: coordination or conflict. In the case of coordination, both of these policies operate in the same direction. By expansionary policy – central bank reduces interest rates and government stimulates an aggregate demand and economic growth by using budget deficit. By restriction, monetary policy increases interest rate and fiscal policy reduces budget deficit or generates budget surplus. In a conflict, both of these policies operate in contradiction with one another. One of these policies pursues an expansion and the other one pursues a restriction. Two situations could arise again. In the first case, fiscal policy makes an expansion – stimulates aggregate demand through a fiscal stimulus to support the economic growth and reduce the unemployment, or, increases the employment (for example, when the economy is below its potential output or before elections). On the contrary, monetary policy makes restriction – in- creases the interest rates (for example when it faces inflationary pressures). In the sec- ond case, the situation is opposite. Fiscal policy makes restrictions – reduces deficits or produces budget surplus. On the contrary, a central bank performs an expansion – re- duces interest rates (for example to face the deflationary pressures).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการโต้ตอบของทั้งสอง และสมมติฐานดังกล่าว สถานการณ์พื้นฐานสองจะเกิดขึ้น: ความร่วมมือหรือความขัดแย้ง ในกรณีที่ประสานงาน ทั้งนโยบายเหล่านี้มีทิศทางเดียวกัน โดยนโยบายการคลังขยายตัว – ธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ย และรัฐบาลกระตุ้นการอุปสงค์มวลรวมและการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยขาดดุลงบประมาณ จำกัด นโยบายการเงินอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และนโยบายทางการคลังลดการขาดดุลงบประมาณ หรือสร้างส่วนเกินงบประมาณ ความขัดแย้ง ทั้งนโยบายเหล่านี้มีในความขัดแย้งกัน ขยาย pursues นโยบายเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง และอีกเครื่องหนึ่ง pursues ข้อจำกัด สถานการณ์ที่สองอาจเกิดขึ้นอีก ในกรณีแรก นโยบายทางการเงินทำให้การขยายตัว– กระตุ้นอุปสงค์รวมถึงกระตุ้นเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และลดการว่างงาน ขึ้น เพิ่มการจ้างงาน (ตัวอย่าง เมื่อเศรษฐกิจด้าน ล่างของผลผลิตที่มีศักยภาพ หรือ ก่อนเลือกตั้ง) ดอก นโยบายการเงินทำให้ข้อจำกัด – อัตราดอกเบี้ย (เช่นเมื่อจะเผชิญแรงกดดันเงินเฟ้อ) ใน creases ในกรณี sec ond สถานการณ์เป็นตรงข้าม นโยบายทางการเงินทำให้ข้อจำกัด– ลดการขาดดุล หรือผลิตส่วนเกินประมาณ ดอก ธนาคารกลางดำเนินการขยาย – duces ใหม่สนใจราคาพิเศษ (ตัวอย่างการเผชิญแรงกดดันจาก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการทำงานร่วมกันของทั้งนโยบายและข้อสมมติฐานดังกล่าวข้างต้นที่สองสถานการณ์พื้นฐานจะเกิดขึ้น: การประสานงานหรือความขัดแย้ง ในกรณีของการประสานงานทั้งนโยบายเหล่านี้ดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน ตามนโยบายการขยายตัว - ธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ยและรัฐบาลจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์รวมและการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยใช้การขาดดุลงบประมาณ โดยข้อ จำกัด นโยบายการเงินเพิ่มอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการคลังช่วยลดการขาดดุลงบประมาณหรือสร้างการเกินดุลงบประมาณ ในความขัดแย้งทั้งสองนโยบายเหล่านี้ทำงานในความขัดแย้งกับคนอื่น หนึ่งในนโยบายเหล่านี้ติดตามการขยายตัวและอื่น ๆ หนึ่งแสวงหาข้อ จำกัด สองสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง ในกรณีแรก, นโยบายการคลังที่ทำให้การขยายตัว - ช่วยกระตุ้นอุปสงค์รวมผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและลดการว่างงานหรือเพิ่มการจ้างงาน (ตัวอย่างเช่นเมื่อเศรษฐกิจต่ำกว่าการส่งออกที่มีศักยภาพหรือก่อนการเลือกตั้ง) ในทางตรงกันข้ามการดำเนินนโยบายการเงินที่ทำให้ข้อ จำกัด - ในร่มรอยยับอัตราดอกเบี้ย (ตัวอย่างเช่นเมื่อต้องเผชิญแรงกดดันเงินเฟ้อ) ในกรณี ond าทีสถานการณ์ที่อยู่ตรงข้าม นโยบายการคลังที่ทำให้ข้อ จำกัด - ช่วยลดการขาดดุลหรือผลิตส่วนเกินงบประมาณ ในทางตรงกันข้ามธนาคารกลางดำเนินการขยายตัว - duces อีกครั้งอัตราดอกเบี้ย (ตัวอย่างเช่นที่จะเผชิญกับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อติดลบ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการปฏิสัมพันธ์ของทั้งนโยบายและสมมติฐานดังกล่าวสองสถานการณ์พื้นฐานจะเกิดขึ้น การประสานงาน หรือความขัดแย้ง ในกรณีของการประสานงาน ทั้งจากนโยบายเหล่านี้ทำงานในทิศทางเดียวกัน โดยรอบและนโยบายธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ย และรัฐบาลช่วยกระตุ้นอุปสงค์รวมและการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยการขาดดุลงบประมาณ โดยการ จำกัด ,เพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงินและนโยบายการคลังลดขาดดุลงบประมาณ หรือสร้างเกินดุลงบประมาณ ในความขัดแย้ง ทั้งนโยบายเหล่านี้ใช้ในความขัดแย้งกับคนอื่น หนึ่งของนโยบายเหล่านี้ แสวงหาโอกาส และอีกหนึ่ง ไล่ตามข้อกำหนด สองสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอีก ในกรณีแรกนโยบายเศรษฐกิจให้ขยายตัวและกระตุ้นอุปสงค์ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และลดการว่างงาน หรือ เพิ่มการจ้างงาน ( ตัวอย่างเช่น เมื่อเศรษฐกิจอยู่ด้านล่างแสดงศักยภาพหรือก่อนการเลือกตั้ง ) ในทางตรงกันข้าม นโยบายการเงินทำให้–จำกัด - รอยยับอัตราดอกเบี้ย ( ตัวอย่างเช่นเมื่อเผชิญแรงกดดันเงินเฟ้อ )ในวินาที แต่ กรณี สถานการณ์ อยู่ตรงข้าม นโยบายการคลังเพื่อลดการขาดดุล หรือทำให้ข้อ จำกัด ที่ผลิตเกินดุลงบประมาณ ในทางตรงกันข้ามธนาคารกลางแสดงการขยายตัวและ re - duces อัตราดอกเบี้ย ( ตัวอย่างเช่นที่จะเผชิญแรงกดดัน
ญี่ปุ่น )