(more than 30 miles per week), and

(more than 30 miles per week), and for controls 11.85 (Fox et al., 1988). In the present study 63.9% of the athletes menses 12 times, 31.1% of the athletes have 9–11 times in a year.Insomestudiesarelationshipwasdeterminedbetweenmenstrualdisorderswith training intensity and training amount. A group of 381 girls, 12 up to19 years old, engaging in competitive sports (athletics, basketball, dancing, gymnastics, swimming, skiing, tennis, volleyball) was examined. Delay of menarche and longer frequency of menstrual disorders, found among athletes, turned out to be directly proportional to the amount of time devoted to trainingandtothekindofperformedsports(Trivellietal.,1995).Inonestudymenstrualfunction was assessed comparatively in different categories of 155 Nigerian athletes, aged 13–19 years, and 135 non-athletes, aged 12–18 years, whoansweredquestionnairesandwereinterviewed.Menstruationwasmoreregular andnormalinthenon-athletes(44%)thantheathletes(21%)(Triola,1988).Kinet al. (2000) assessed menstrual function of 103 athletes and 99 non-athletes aged 12–25 years. 54.37% of athletes and 72.73% of non-athletes have a regular menstrual cycle. T¨urkmen (2000) found that 17% of athletes have an irregular menstrual cycle. In the present study 51.5% of athletes had a regular menstrual cycle, 14.5% an irregular menstrual cycle, and 34% a sometimes irregular menstrual cycle. In this study ratio of regular menstruation was lower than the Kin et al. (2000) study but the results were almost similar.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

(มากกว่า 30 ไมล์ต่อสัปดาห์), และ ตัวควบคุม 11.85 (จิ้งจอก et al. 1988) ในปัจจุบันการศึกษา 63.9% ของประจำเดือนในนักกีฬา 12 ครั้ง 31.1% ของนักกีฬาได้ 9 – 11 ครั้งในปี Insomestudiesarelationshipwasdeterminedbetweenmenstrualdisorderswith เข้มข้นในการฝึกอบรม และการฝึกอบรมจำนวน ล้อมของสาว 381, 12 ปี to19 เก่า ในการแข่งขันกีฬา (กรีฑา เต้นรำ ยิมนาสติก ว่ายน้ำ เล่นสกี เทนนิส วอลเลย์บอล บาสเกตบอล) หน่วงเวลา menarche และถี่ยาวของประจำเดือนผิดปกติ พบในนักกีฬา เป็นสัดส่วนโดยตรงกับระยะเวลาการ trainingandtothekindofperformedsports(Trivellietal.,1995) Inonestudymenstrualfunction ได้รับการประเมินค่อนข้างในประเภทต่าง ๆ ของนักกีฬาไนจีเรีย 155 อายุ 13-19 ปี และ 135 ไม่นักกีฬา อายุ 12 – 18 ปี whoansweredquestionnairesandwereinterviewed Menstruationwasmoreregular andnormalinthenon-athletes(44%)thantheathletes(21%)(Triola,1988) Kinet al. (2000) ประเมินฟังก์ชันประจำเดือนของนักกีฬา 103 และ 99-กีฬาอายุ 12 – 25 ปี 54.37% ของนักกีฬาและ 72.73% ของนักกีฬาไม่ใช่มีรอบเดือนเป็นปกติ T¨urkmen (2000) พบว่า 17% ของนักกีฬามีรอบประจำเดือนที่ผิดปกติ ในศึกษา 51.5% ของนักกีฬามีรอบประจำเดือนที่ปกติ 14.5% มีรอบประจำเดือนผิดปกติ และ 34% ต่อรอบเดือนไม่สม่ำเสมอบางครั้ง ในการศึกษานี้ อัตราส่วนของการมีเมนส์ปกติมักต่ำกว่าการศึกษากิน et al. (2000) แต่ผลลัพธ์ก็เกือบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

(มากกว่า 30 ไมล์ต่อสัปดาห์) และสำหรับการควบคุม 11.85 (ฟ็อกซ์ et al., 1988) ในการศึกษาปัจจุบัน 63.9% ของนักกีฬาประจำเดือนครั้งที่ 12, 31.1% ของนักกีฬามี 9-11 ครั้งในการฝึกอบรมเข้ม year.Insomestudiesarelationshipwasdeterminedbetweenmenstrualdisorderswith และการฝึกอบรมจำนวน กลุ่มของสาว ๆ 381 12 ขึ้น to19 ปีมีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬา (กรีฑา, บาสเกตบอล, เต้นรำ, ยิมนาสติก, ว่ายน้ำ, เล่นสกี, เทนนิส, วอลเลย์บอล) ถูกตรวจสอบ ความล่าช้าของการมีประจำเดือนครั้งแรกและความถี่อีกต่อไปความผิดปกติของประจำเดือนพบในหมู่นักกีฬาเปิดออกมาเป็นสัดส่วนโดยตรงกับปริมาณของเวลาที่ทุ่มเทให้กับการ trainingandtothekindofperformedsports (Trivellietal., 1995) .Inonestudymenstrualfunction ได้รับการประเมินเปรียบเทียบในประเภทที่แตกต่างกันของนักกีฬา 155 ไนจีเรียอายุ 13 19 ปีและ 135 ที่ไม่ใช่นักกีฬาอายุ 12-18 ปี whoansweredquestionnairesandwereinterviewed.Menstruationwasmoreregular andnormalinthenon นักกีฬา (44%) thantheathletes (21%) (TRIOLA, 1988) .Kinet อัล (2000) การประเมินฟังก์ชั่นประจำเดือน 103 นักกีฬาและ 99 ที่ไม่ใช่นักกีฬาที่มีอายุระหว่าง 12-25 ปี 54.37% ของนักกีฬาและ 72.73% ของนักกีฬาที่ไม่ใช่มีรอบประจำเดือนปกติ เติร์กเมนิสถาน (2000) พบว่า 17% ของนักกีฬามีรอบประจำเดือนผิดปกติ ในการศึกษาปัจจุบัน 51.5% ของนักกีฬามีรอบปกติประจำเดือน 14.5% รอบประจำเดือนผิดปกติและ 34% บางครั้งผิดปกติรอบประจำเดือน ในการศึกษาครั้งนี้อัตราส่วนของการมีประจำเดือนปกติต่ำกว่า Kin et al, (2000) การศึกษา แต่ผลที่มีความคล้ายคลึงกันเกือบ