Background: Performing breast self-

Background: Performing breast self-examination (BSE) every month, starting at age 20 is an important tool in the early detection of breast cancer. Early detection of breast cancer plays a leading role in reducing mortality rates and improving patients' prognosis. Aim: The purpose of the current study was to determine Jordanian nurses' practice of BSE and knowledge about risk factors of breast cancer. Method and Material: A descriptive study design was used, with a sample of convenience 112 of registered nurses and midwives in Zarqa city, Jordan between January and March 2011. A self- administered questionnaire was used for data collection. Results: mean age of the respondents was 29.5; (SD=8.3) years and ranged from 18 to 55 years. More than half of the studied group married and 47.3% worked for more than 5 years 95.5% had no previous breast health problems and family history of breast cancer was reported by 12.5%. Only 19.4% of the studied sample performed BSE regularly. The practice of BSE was not significantly associated with socio-demographic characteristics. Conclusion: study findings suggested that there were gaps between knowledge and practice of BSE among Jordanian nurses.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: การแสดงเต้านมด้วยตนเองการตรวจสอบ (BSE) ทุกเดือนเริ่มต้นที่อายุ 20 เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการตรวจหามะเร็งเต้านม ตรวจหามะเร็งเต้านมมีบทบาทนำในการลดอัตราการตายและการปรับปรุงการพยากรณ์โรคของผู้ป่วย มีจุดมุ่งหมายที่:วัตถุประสงค์ของการศึกษาในปัจจุบันก็คือการตรวจสอบการปฏิบัติพยาบาลจอร์แดนของ BSE และความรู้เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม วิธีการและวัสดุการออกแบบการศึกษาอธิบายถูกนำมาใช้กับกลุ่มตัวอย่างของความสะดวกสบาย 112 ของพยาบาลวิชาชีพและพยาบาลผดุงครรภ์ในเมือง, จอร์แดน zarqa ระหว่างเดือนมกราคมและมีนาคม 2011 แบบสอบถามตัวยาที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผล:อายุเฉลี่ยของผู้ตอบแบบสอบถามเป็น 29.5 (SD = 8.3) ตั้งแต่ปีและ 18-55 ปีที่ มากกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มการศึกษาแต่งงานและ 47.3% ทำงานมานานกว่า 5 ปีที่ 95.5% มีปัญหาสุขภาพเต้านมก่อนหน้านี้และมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมได้รับการรายงานจาก 12.5% เพียง 19.4% ของกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาดำเนินการ BSE อย่างสม่ำเสมอการปฏิบัติของ BSE ไม่เกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญที่มีลักษณะทางสังคมและประชากร สรุป: ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่ามีช่องว่างระหว่างความรู้และการปฏิบัติของ BSE ของพยาบาลจอร์แดน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง: การตรวจสอบตัวเองเต้านม (BSE) ทุกเดือน ราคาเริ่มต้นที่อายุ 20 เป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจหามะเร็งเต้านม ตรวจหามะเร็งเต้านมมีบทบาทนำในการลดอัตราการตาย และการปรับปรุงการคาดคะเนของผู้ป่วย เป้าหมาย: วัตถุประสงค์ของการศึกษาปัจจุบันเพื่อ กำหนดจอร์แดนพยาบาลฝึกหัด BSE และความรู้เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านมได้ วัสดุและวิธีการ: ออกแบบสื่อการศึกษาถูกใช้ มีตัวอย่างของความสะดวกสบายของพยาบาลทะเบียนและ midwives ในเมือง Zarqa ประเทศจอร์แดนระหว่างเดือนมกราคมและ 2554 มีนาคม สอบถามด้วยตนเอง-จัดการถูกใช้สำหรับเก็บรวบรวมข้อมูล ผลลัพธ์: อายุเฉลี่ยของผู้ตอบถูก 29.5 (SD = 8.3) ปี และอยู่ในช่วงจาก 18 ปี 55 มากกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่ม studied สมรสและ 47.3% ที่ทำงานมากกว่า 5 ปี 95.5% ได้ไม่มีปัญหาสุขภาพเต้านมก่อนหน้า และมีรายงานประวัติครอบครัวของมะเร็งเต้านม 12.5% เพียง 19.4% ของตัวอย่าง studied ทำ BSE เป็นประจำ แบบฝึกหัด BSE ไม่เกี่ยวข้องอย่างมากกับลักษณะทางประชากรสังคม สรุป: ผลการศึกษาวิจัยแนะนำว่า มีช่องว่างระหว่างความรู้และการฝึกของ BSE ระหว่างพยาบาลจอร์แดน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาพ พื้นหลังการดูดนมจากเต้านมแม่ตัวเอง - การตรวจสอบ( BSE )ทุกเดือนโดยเริ่มที่มีอายุต่ำกว่า 20 เป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจหามะเร็งเต้านม. การตรวจหามะเร็งเต้านมมีบทบาทนำในการลดอัตราการตายและการปรับปรุงการทำนายอาการของโรคของผู้ป่วย AIMวัตถุประสงค์ของการศึกษาในปัจจุบันที่มีการตรวจสอบการปฏิบัติของพยาบาลตามแบบ Jordanian ของความรู้และ BSE เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม การออกแบบและวัสดุการศึกษาวิธีการแสดงคำอธิบายที่ใช้กับตัวอย่างของความสะดวกสบาย 112 ของพยาบาลจดทะเบียนและนางผดุง ครรภ์ ในเมือง Zarqa ,จอร์แดนระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2011 . ตอบแบบสอบถาม - บริหารงานได้ถูกใช้สำหรับการเก็บข้อมูล ผลการค้นหาอายุเฉลี่ยของผู้ตอบแบบสำรวจที่เป็น 29.5 ( SD = 8.3 )ปีและความคิดเห็นจาก 18 ถึง 55 ปี. มากกว่าครึ่งของกลุ่มศึกษาที่แต่งงานแล้วและ 47.3% ทำงานมาเป็นเวลากว่า 5 ปี 95.5% ไม่มีปัญหาด้าน สุขภาพ แม่ก่อนหน้าและประวัติครอบครัวของโรคมะเร็งเต้านมมีการรายงานโดย 12.5% เพียง 19.4% ของตัวอย่างที่ดำเนินการศึกษาโรควัวบ้าเป็นประจำการปฏิบัติหน้าที่ของโรควัวบ้าก็ไม่ได้มีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับลักษณะทางสังคมและประชากร บทสรุปผลการศึกษาที่แนะนำว่ามีช่องว่างระหว่างการฝึกซ้อมและการให้ความรู้เกี่ยวกับโรควัวบ้าท่ามกลางพยาบาลตามแบบ Jordanian