วัฒนธรรมความเชื่อเกี่ยวกับการใช้

วัฒนธรรมความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ "ต

วัฒนธรรมความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ "ตะเกียบ" ของชาวจีน

สวัสดีท่านผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ แมงปูด...การเครื่องครัว ทุกท่านครับ

วันนี้ แมงปูด...การเครื่องครัว จะมานำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อในการใช้ตะเกียบของชาวจีนกันครับ แน่นอนว่าติ่มซำที่เรารับประทานนั้น อุปกรณ์ที่ใช้คีบติ่มซำก็คงหนีไม่พ้น "ตะเกียบ" ซึ่งต้องยอมรับก่อนเลยว่าชนชาติแรกของโลกที่มีการใช้งานตะเกียบก็คือ "ชาวจีน" โดยเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงหลังยุคราชวงศ์ฮั่น หรือราวๆ คริสต์ศตวรรษที่ 3 ซึ่งมีเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับตะเกียบดังต่อไปนี้

ห้ามปักตะเกียบไว้ในชามข้าว

การปักตะเกียบลงบนชามข้าว ดูเผินๆ จะเหมือนการปักธูปลงบนกระถางธูป เสมือนเป็นการไหว้บรรพบุรุษหรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ยิ่งถ้าเราเป็นผู้ตักข้าวให้คนอื่นแล้วปักตะเกียบลงไปในชามข้าวแบบนี้ด้วยแล้ว เสมือนว่าเราสาปแช่งผู้ที่เราตักข้าวให้เลยทีเดียว

ห้ามอม ดูด หรือ เลียตะเกียบ

การดูด อม เลีย ตะเกียบ ชาวจีนถือว่าเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพ โดยเฉพาะถ้าดูดจนมีเสียงดังด้วยแล้ว ยิ่งเสียมารยาทเข้าไปใหญ่

ห้ามใช้ตะเกียบเคาะถ้วยชาม

การใช้ตะเกียบเคาะถ้วยชามนั้นไม่ใช่ว่าเป็นการเอาภาชนะมาทำเครื่องดนตรีนะครับ แต่ความเชื่อของชาวจีนจะมองว่าประหนึ่งทำตัวเป็นขอทานที่คอยเคาะถ้วยเคาะชามเพื่อเรียกร้องความเมตตาสงสาร หรือเรียกร้องความสนใจจากผู้ใจบุญ

ห้ามใช้ตะเกียบข้างเดียวจิ้มลงบนอาหาร

บางทีตอนเด็กๆ ที่เรายังใช้ตะเกียบไม่ค่อยคล่อง เวลาจะ จับ-หนีบ-คีบ อาหารแต่ละทีก็ลำบาก ดังนั้นตอนเด็กๆ แอดแมวก็เคยเอาตะเกียบข้างเดียวนี่แหล่ะ ทิ่มเข้าไปในอาหารเลย โดยเฉพาะพวกลูกชิ้นที่มันคีบยาก แต่สำหรับความเชื่อของชาวจีนแล้วนั้น การทำแบบนี้จะถือว่าเป็นการเหยียดหยามน้ำใจกัน คล้ายๆ กับการแจกกล้วย (ชูนิ้วกลาง) ของวัฒนธรรมตะวันตก

ห้ามใช้ตะเกียบคุ้ยเขี่ยหาอาหาร

บางทีหมูชิ้นที่เราอยากรับประทานมันอยู่ใต้ใบผัก แต่ทว่า ในจานกับข้าวมีแต่ใบผัก แล้วหมูชิ้นมันไปซ่อนอยู่ที่ไหนหว่า? แต่สำหรับความเชื่อของชาวจีนจะมองว่าการใช้ตะเกียบคุ้ยเขี่ยอาหารในจานนั้นเปรียบได้กับพวกโจรสลัดซึ่งขุดสุสานเพื่อหาสมบัติ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ

ห้ามใช้ตะเกียบชี้หน้าผู้อื่น

การใช้ตะเกียบชี้หน้าผู้อื่น ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนเป็นการใช้นิ้วชี้หน้าคู่สนทนาบนโต๊ะอาหาร แต่แค่เปลี่ยนจากนิ้วเป็นตะเกียบ ซึ่งเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพ

ห้ามใช้ตะเกียบทำท่าวนไปวนมาบนโต๊ะอาหาร

บางทีบนโต๊ะอาหารมีอาหารเยอะแยะ ไม่รู้ว่าจะเลือกรับประทานอาหารอะไรดี ประหนึ่งว่ากำลังลังเล ก็เลยทำท่าวนตะเกียบอยู่เหนืออาหารเหล่านั้น ซึ่งกิริยาดังกล่าวนั้นเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพ หากต้องการจะคีบอาหารสิ่งใดให้นึกให้ดีก่อน แล้วจึงใช้ตะเกียบคีบสิ่งนั้น

ห้ามวางตะเกียบสะเปะสะปะ

การวางตะเกียบไม่เสมอกันถือเป็นเรื่องอัปมงคลอย่างยิ่ง คนจีนจะมีคำกล่าวที่ว่า "ชางฉางเหลียงต่วน" หมายถึง "สามยาวสองสั้น" วลีนี้ชาวจีนหมายถึง "ความตาย" หรือ "ความวิบัติฉิบหาย" ดังนั้น การวางตะเกียบที่ทำให้เหมือนมีแท่งไม้สั้นๆ ยาวๆ จึ่งเป็นเรื่องอัปมงคลอย่างยิ่ง
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (จีน) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
วัฒนธรรมความเชื่อเกี่ยวกับการใช้"ตะเกียบ"ของชาวจีนสวัสดีท่านผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ แมงปูด...การเครื่องครัว ทุกท่านครับวันนี้ แมงปูด...การเครื่องครัว จะมานำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อในการใช้ตะเกียบของชาวจีนกันครับ แน่นอนว่าติ่มซำที่เรารับประทานนั้น อุปกรณ์ที่ใช้คีบติ่มซำก็คงหนีไม่พ้น"ตะเกียบ"ซึ่งต้องยอมรับก่อนเลยว่าชนชาติแรกของโลกที่มีการใช้งานตะเกียบก็คือ"ชาวจีน"โดยเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงหลังยุคราชวงศ์ฮั่น หรือราวๆ คริสต์ศตวรรษที่ 3 ซึ่งมีเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับตะเกียบดังต่อไปนี้ห้ามปักตะเกียบไว้ในชามข้าวการปักตะเกียบลงบนชามข้าว ดูเผินๆ จะเหมือนการปักธูปลงบนกระถางธูป เสมือนเป็นการไหว้บรรพบุรุษหรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ยิ่งถ้าเราเป็นผู้ตักข้าวให้คนอื่นแล้วปักตะเกียบลงไปในชามข้าวแบบนี้ด้วยแล้ว เสมือนว่าเราสาปแช่งผู้ที่เราตักข้าวให้เลยทีเดียวห้ามอม ดูด หรือ เลียตะเกียบการดูด อม เลีย ตะเกียบ ชาวจีนถือว่าเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพ โดยเฉพาะถ้าดูดจนมีเสียงดังด้วยแล้ว ยิ่งเสียมารยาทเข้าไปใหญ่ห้ามใช้ตะเกียบเคาะถ้วยชามการใช้ตะเกียบเคาะถ้วยชามนั้นไม่ใช่ว่าเป็นการเอาภาชนะมาทำเครื่องดนตรีนะครับ แต่ความเชื่อของชาวจีนจะมองว่าประหนึ่งทำตัวเป็นขอทานที่คอยเคาะถ้วยเคาะชามเพื่อเรียกร้องความเมตตาสงสาร หรือเรียกร้องความสนใจจากผู้ใจบุญห้ามใช้ตะเกียบข้างเดียวจิ้มลงบนอาหารบางทีตอนเด็กๆ ที่เรายังใช้ตะเกียบไม่ค่อยคล่อง เวลาจะ จับ หนีบ คีบ อาหารแต่ละทีก็ลำบาก ดังนั้นตอนเด็กๆ แอดแมวก็เคยเอาตะเกียบข้างเดียวนี่แหล่ะ ทิ่มเข้าไปในอาหารเลย โดยเฉพาะพวกลูกชิ้นที่มันคีบยาก แต่สำหรับความเชื่อของชาวจีนแล้วนั้น การทำแบบนี้จะถือว่าเป็นการเหยียดหยามน้ำใจกัน คล้ายๆ กับการแจกกล้วย (ชูนิ้วกลาง) ของวัฒนธรรมตะวันตกห้ามใช้ตะเกียบคุ้ยเขี่ยหาอาหารบางทีหมูชิ้นที่เราอยากรับประทานมันอยู่ใต้ใบผัก แต่ทว่า ในจานกับข้าวมีแต่ใบผัก แล้วหมูชิ้นมันไปซ่อนอยู่ที่ไหนหว่า?แต่สำหรับความเชื่อของชาวจีนจะมองว่าการใช้ตะเกียบคุ้ยเขี่ยอาหารในจานนั้นเปรียบได้กับพวกโจรสลัดซึ่งขุดสุสานเพื่อหาสมบัติ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจห้ามใช้ตะเกียบชี้หน้าผู้อื่นการใช้ตะเกียบชี้หน้าผู้อื่น ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนเป็นการใช้นิ้วชี้หน้าคู่สนทนาบนโต๊ะอาหาร แต่แค่เปลี่ยนจากนิ้วเป็นตะเกียบ ซึ่งเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพห้ามใช้ตะเกียบทำท่าวนไปวนมาบนโต๊ะอาหารบางทีบนโต๊ะอาหารมีอาหารเยอะแยะ ไม่รู้ว่าจะเลือกรับประทานอาหารอะไรดี ประหนึ่งว่ากำลังลังเล ก็เลยทำท่าวนตะเกียบอยู่เหนืออาหารเหล่านั้น ซึ่งกิริยาดังกล่าวนั้นเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพ หากต้องการจะคีบอาหารสิ่งใดให้นึกให้ดีก่อน แล้วจึงใช้ตะเกียบคีบสิ่งนั้นห้ามวางตะเกียบสะเปะสะปะการวางตะเกียบไม่เสมอกันถือเป็นเรื่องอัปมงคลอย่างยิ่ง คนจีนจะมีคำกล่าวที่ว่า"ชางฉางเหลียงต่วน"หมายถึง"สามยาวสองสั้น"วลีนี้ชาวจีนหมายถึง"ความตาย"หรือ"ความวิบัติฉิบหาย"ดังนั้น การวางตะเกียบที่ทำให้เหมือนมีแท่งไม้สั้นๆ ยาวๆ จึ่งเป็นเรื่องอัปมงคลอย่างยิ่ง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (จีน) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
วัฒนธรรมความเชื่อเกี่ยวกับการใช้“ตะเกียบ”ชาวของจีน

สวัสดีท่านผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์แมงปูด...เครื่องครัวการทุกท่านครับ

วันนี้แมงปูด...การเครื่องครัวจะมานำเสนอเรื่องราวเกี่ยว กับความเชื่อในการใช้ ตะเกียบของชาวจีนกันครับแน่นอนว่า ติ่มซำที่เรารับประทานนั้นอุปกรณ์ที่ใช้คีบติ่มซำก็คงหนีไม่พ้น “ตะเกียบ”ซึ่งต้องยอมรับก่อนเลยว่าชนชาติแรก ของโลกที่มีการใช้งานตะเกียบก็คือ “ชาว จีน“โดยเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วง หลังยุคราชวงศ์ฮั่นหรือราวๆคริสต์ศตวรรษที่ 3ซึ่งมีเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับตะเกียบดังต่อไปนี้

ห้ามปักตะเกียบไว้ในชามข้าว

การปักตะเกียบลงบนชามข้าวดูเผินๆจะ เหมือนการปักธูปลงบนกระถางธูป เสมือนเป็นการไหว้บรรพบุรุษหรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้วยิ่งถ้าเราเป็นผู้ตักข้าวให้คนอื่นแล้วปักตะเกียบลงไปในชามข้าวแบบนี้ด้วยแล้วเสมือนว่าเราสาปแช่งผู้ที่เราตักข้าว ให้เลยทีเดียว

ห้ามอมดูดหรือเลียตะเกียบ

การดูดอมเลียตะเกียบชาวจีนถือว่าเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพโดยเฉพาะถ้าดูดจนมีเสียงดังด้วยแล้วยิ่งเสียมารยาทเข้าไปใหญ่

ห้ามใช้ตะเกียบเคาะถ้วยชาม

การใช้ตะเกียบเคาะถ้วยชามนั้นไม่ใช่ ว่าเป็นการเอาภาชนะมาทำเครื่องดนตรีนะครับแต่ความเชื่อของชาวจีนจะมองว่าประหนึ่งทำตัวเป็นขอทานที่คอยเคาะถ้วยเคาะชามเพื่อเรียกร้องความเมตตาสงสารหรือเรียกร้องความสนใจจากผู้ใจบุญ

ห้ามใช้ตะเกียบข้างเดียวจิ้มลงบน อาหาร

บางทีตอน论坛用户ๆที่เรายังใช้ตะเกียบไม่ค่อยคล่องเวลาจะจับ - หนีบ - คีบอาหารแต่ละทีก็ลำบากดังนั้นตอน เด็กๆแอดแมวก็เคยเอาตะเกียบข้างเดียวนี่แหล่ะทิ่มเข้าไปในอาหารเลยโดยเฉพาะพวกลูกชิ้นที่มัน คีบยากแต่สำหรับความเชื่อของชาว จีนแล้วนั้นการทำแบบนี้จะถือว่าเป็นการเหยียดหยามน้ำใจกันคล้ายๆกับการแจกกล้วย (ชูนิ้วกลาง)ของวัฒนธรรมตะวันตก

ห้ามใช้ตะเกียบคุ้ยเขี่ยหาอาหาร

บางทีหมูชิ้นที่เราอยากรับประทานมันอยู่ ใต้ใบผักแต่ทว่าในจานกับข้าวมี แต่ใบผักแล้วหมูชิ้นมันไปซ่อนอยู่ที่ไหนหว่า ?แต่สำหรับความเชื่อของชาวจีนจะมองว่าการใช้ตะเกียบคุ้ยเขี่ยอาหารในจานนั้นเปรียบได้กับพวกโจรสลัดซึ่งขุดสุสานเพื่อหาสมบัติซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ

ห้ามใช้ตะเกียบชี้หน้าผู้Hotel详细

การใช้ตะเกียบชี้หน้าผู้Hotel详细ดูๆไปแล้วก็เหมือนเป็นการใช้นิ้วชี้หน้าคู่สนทนาบนโต๊ะอาหารแต่แค่เปลี่ยนจากนิ้วเป็นตะเกียบซึ่งเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพ

ห้ามใช้ตะเกียบทำท่าวนไปวนมาบนโต๊ะอาหาร

บางทีบนโต๊ะอาหารมีอาหารเยอะแยะไม่รู้ว่าจะ เลือกรับประทานอาหารอะไรดีประหนึ่งว่ากำลังลังเลก็เลยทำท่าวนตะเกียบอยู่เหนืออาหารเหล่านั้นซึ่งกิริยาดังกล่าวนั้นเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพหากต้องการจะคีบอาหารสิ่งใดให้นึกให้ดีก่อนแล้วจึงใช้ตะเกียบคีบสิ่งนั้น

ห้ามวาง ตะเกียบสะเปะสะปะ

การวางตะเกียบไม่เสมอกันถือเป็นเรื่องอัปมงคลอย่างยิ่งคนจีนจะมีคำกล่าวที่ว่า“ชางฉางเหลียงต่วน”หมายถึง“สามยาวสองสั้น”วลีนี้ชาวจีนหมายถึง“ความตาย”หรือ “ความวิบัติฉิบหาย”ดังนั้นการวางตะเกียบที่ทำให้เหมือนมี แท่งไม้สั้นๆยาวๆจึ่งเป็นเรื่องอัปมงคลอย่างยิ่ง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (จีน) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
วัฒนธรรมความเชื่อเกี่ยวกับการใช้”ตะเกียบ”ของชาวจีนสวัสดีท่านผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์แมงปูดการเครื่องครัวทุกท่านครับ…วันนี้แมงปูด…การเครื่องครัวจะมานำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อในการใช้ตะเกียบของชาวจีนกันครับแน่นอนว่าติ่มซำที่เรารับประทานนั้นอุปกรณ์ที่ใช้คีบติ่มซำก็คงหนีไม่พ้น”ตะเกียบ”ซึ่งต้องยอมรับก่อนเลยว่าชนชาติแรกของโลกที่มีการใช้งานตะเกียบก็คือ”ชาวจีน”โดยเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงหลังยุคราชวงศ์ฮั่นหรือราวๆคริสต์ศตวรรษที่3ซึ่งมีเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับตะเกียบดังต่อไปนี้ห้ามปักตะเกียบไว้ในชามข้าวการปักตะเกียบลงบนชามข้าวดูเผินๆจะเหมือนการปักธูปลงบนกระถางธูปเสมือนเป็นการไหว้บรรพบุรุษหรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้วยิ่งถ้าเราเป็นผู้ตักข้าวให้คนอื่นแล้วปักตะเกียบลงไปในชามข้าวแบบนี้ด้วยแล้วเสมือนว่าเราสาปแช่งผู้ที่เราตักข้าวให้เลยทีเดียวห้ามอมดูดหรือเลียตะเกียบการดูดอมเลียตะเกียบชาวจีนถือว่าเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพโดยเฉพาะถ้าดูดจนมีเสียงดังด้วยแล้วยิ่งเสียมารยาทเข้าไปใหญ่ห้ามใช้ตะเกียบเคาะถ้วยชามการใช้ตะเกียบเคาะถ้วยชามนั้นไม่ใช่ว่าเป็นการเอาภาชนะมาทำเครื่องดนตรีนะครับแต่ความเชื่อของชาวจีนจะมองว่าประหนึ่งทำตัวเป็นขอทานที่คอยเคาะถ้วยเคาะชามเพื่อเรียกร้องความเมตตาสงสารหรือเรียกร้องความสนใจจากผู้ใจบุญห้ามใช้ตะเกียบข้างเดียวจิ้มลงบนอาหารบางทีตอนเด็กๆที่เรายังใช้ตะเกียบไม่ค่อยคล่องเวลาจะจับ-หนีบ-คีบอาหารแต่ละทีก็ลำบากดังนั้นตอนเด็กๆแอดแมวก็เคยเอาตะเกียบข้างเดียวนี่แหล่ะทิ่มเข้าไปในอาหารเลยโดยเฉพาะพวกลูกชิ้นที่มันคีบยากแต่สำหรับความเชื่อของชาวจีนแล้วนั้นการทำแบบนี้จะถือว่าเป็นการเหยียดหยามน้ำใจกันคล้ายๆกับการแจกกล้วย(ชูนิ้วกลาง)ของวัฒนธรรมตะวันตกห้ามใช้ตะเกียบคุ้ยเขี่ยหาอาหารบางทีหมูชิ้นที่เราอยากรับประทานมันอยู่ใต้ใบผักแต่ทว่าในจานกับข้าวมีแต่ใบผักแล้วหมูชิ้นมันไปซ่อนอยู่ที่ไหนหว่า?แต่สำหรับความเชื่อของชาวจีนจะมองว่าการใช้ตะเกียบคุ้ยเขี
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: