Now that you understand the concept

Now that you understand the concept and benefit of subnetting, consider the problem that arises with it. In case of class based subnetting, the first octet of the dotted decimal address tells which part of the address is the network component and which one is the host component. But when host bits are borrowed for subnetting, the class based boundaries do not apply and it is not possible to say which bits are network bits. To overcome this, a third component of IP addresses were added. These are called the subnet masks.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากที่คุณเข้าใจแนวคิดและประโยชน์ของ subnetting พิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นกับ ในกรณีที่ใช้คลาส subnetting ออกเตตแรกของจุดทศนิยมที่อยู่บอกส่วนของอยู่เป็นส่วนประกอบของเครือข่ายและที่เป็นส่วนประกอบของโฮสต์ แต่เมื่อมียืมบิตโฮสต์สำหรับ subnetting ไม่มีใช้คลาสตามขอบเขต และไม่สามารถระบุได้ว่า บิตใดคือ บิตเครือข่าย การเอาชนะ มีเพิ่มส่วนประกอบที่สามของ IP แอดเดรส เหล่านี้จะเรียกว่าซับเน็ตมาสก์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตอนนี้คุณเข้าใจแนวคิดและประโยชน์ของ subnetting พิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นกับมัน ในกรณีของการเรียนตาม subnetting, ออคเต็ตแรกของที่อยู่ทศนิยมประบอกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่เป็นส่วนประกอบเครือข่ายและเป็นที่หนึ่งเป็นส่วนประกอบโฮสต์ แต่เมื่อโฮสต์บิตที่ยืมสำหรับ subnetting ขอบเขตตามชั้นเรียนใช้ไม่ได้และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าที่บิตบิตเครือข่าย ที่จะเอาชนะนี้เป็นองค์ประกอบที่สามของที่อยู่ IP ที่ถูกเพิ่ม เหล่านี้เรียกว่ามาสก์เครือข่ายย่อย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตอนนี้คุณเข้าใจแนวคิดและประโยชน์ของ subnetting พิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นกับมัน ในกรณีของชั้นตาม subnetting , คเตทแรกของจุดทศนิยมที่อยู่บอกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่เป็นองค์ประกอบเครือข่ายและที่เป็นโฮสต์คอมโพเนนต์ แต่เมื่อบิตโฮสต์สำหรับ subnetting ยืม ,ชั้นตามขอบเขตที่ใช้ไม่ได้ และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะพูดซึ่งบิตบิตเครือข่าย ที่จะเอาชนะนี้เป็นองค์ประกอบที่สามของที่อยู่ IP ที่ถูกเพิ่ม เหล่านี้จะเรียกว่าซับเน็ตมาสก์