Indonesia is a republic with a pres

Indonesia is a republic with a presidential system. As a unitary state, power is concentrated in the central government. Following the resignation of President Suharto in 1998, Indonesian political and governmental structures have undergone major reforms. Four amendments to the 1945 Constitution of Indonesia[64] have revamped the executive, judicial, and legislative branches.[65] The president of Indonesia is the head of state and head of government, commander-in-chief of the Indonesian National Armed Forces, and the director of domestic governance, policy-making, and foreign affairs. The president appoints a council of ministers, who are not required to be elected members of the legislature. The 2004 presidential election was the first in which the people directly elected the president and vice president.[66] The president may serve a maximum of two consecutive five-year terms.[67]

The highest representative body at national level is the People's Consultative Assembly (MPR). Its main functions are supporting and amending the constitution, inaugurating the president, and formalizing broad outlines of state policy. It has the power to impeach the president.[68] The MPR comprises two houses; the People's Representative Council (DPR), with 560 members, and the Regional Representative Council (DPD), with 132 members.[69] The DPR passes legislation and monitors the executive branch; party-aligned members are elected for five-year terms by proportional representation.[65] Reforms since 1998 have markedly increased the DPR's role in national governance.[70] The DPD is a new chamber for matters of regional management.[71]

Most civil disputes appear before a State Court (Pengadilan Negeri); appeals are heard before the High Court (Pengadilan Tinggi). The Supreme Court (Mahkamah Agung) is the country's highest court, and hears final cessation appeals and conducts case reviews. Other courts include the Commercial Court, which handles bankruptcy and insolvency; a State Administrative Court (Pengadilan Tata Negara) to hear administrative law cases against the government; a Constitutional Court (Mahkamah Konstitusi) to hear disputes concerning legality of law, general elections, dissolution of political parties, and the scope of authority of state institutions; and a Religious Court (Pengadilan Agama) to deal with codified Sharia Law cases.[72]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อินโดนีเซียสาธารณรัฐ ด้วยระบบประธานาธิบดีได้ เป็นรัฐ unitary พลังงานจะเข้มข้นในรัฐบาลกลาง ต่อการลาออกของประธานาธิบดีซูในปี 1998 โครงสร้างทางการเมือง และรัฐบาลอินโดนีเซียได้เปลี่ยนหลักการปฏิรูป ได้มีการปรับปรุงแก้ไข 4 1945 รัฐธรรมนูญของอินโดนีเซีย [64] บริหาร ยุติธรรม และสาขาสภา[65] ประธานาธิบดีอินโดนีเซียเป็นประมุขและหัวหน้ารัฐบาล จอมทัพของการทัพแห่งชาติอินโดนีเซีย และกรรมการกำกับดูแลกิจการภายในประเทศ policy-making และต่างประเทศ ประธานาธิบดีแต่งตั้งเป็นคณะรัฐมนตรี ที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการเลือกตั้งสมาชิกของทูลเกล้าทูลกระหม่อม เลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2004 เป็นครั้งแรกที่ประชาชนโดยตรงจากการเลือกตั้งประธานและรองประธาน[66] ประธานอาจทำหน้าที่เกินสองวาระห้าปี[67]

ตัวพนักงานสูงสุดในระดับชาติเป็นแอสเซมบลี Consultative ของประชาชน (MPR) งานหลักคือสนับสนุน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประธาน inaugurating และ formalizing เค้ากว้างนโยบายรัฐ มีอำนาจโทษประธาน[68] MPR ประกอบด้วยบ้านสอง ประชาชนตัวแทนสภา (เหนือ), สมาชิก 560 และในภูมิภาคตัวแทนสภา (DPD), 132 สมาชิก[69] เหนือผ่านกฎหมาย และตรวจสอบสาขาบริหาร ตำแหน่งฝ่ายสมาชิกจะเลือกสำหรับห้าปีเงื่อนไขตามรายชื่อในป[65] ปฏิรูปตั้งแต่ปี 1998 ได้อย่างเด่นชัดเพิ่มบทบาทเหนือการปกครองแห่งชาติ[70] DPD หอการค้าใหม่ในเรื่องของการจัดการระดับภูมิภาคได้[71]

ข้อพิพาทแพ่งส่วนใหญ่ปรากฏก่อนที่ศาลรัฐ (รัฐ Pengadilan); อุทธรณ์ได้ยินก่อนศาลสูง (ติงกิ Pengadilan) ศาลฎีกา (เอกัง Mahkamah) เป็นศาลสูงสุดของประเทศ และได้ยินยุติสุดท้ายอุทธรณ์ และทำรีวิวจากกรณี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ รวมถึงศาลพาณิชย์ ซึ่งจัดการล้มละลายและล้มละลาย ศาลรัฐบริหาร (Pengadilan ทาทาเนการา) ฟังกรณีกฎหมายปกครองที่ต่อต้านรัฐบาล ศาลรัฐธรรมนูญ (Mahkamah Konstitusi) จะได้ยินข้อโต้แย้งเกี่ยวกับกฎหมายของกฎหมาย การเลือกตั้งทั่วไป ยุบพรรค และขอบเขตของหน่วยงานของรัฐสถาบัน และกรณีดูกฎหมาย ประมวลกฎหมายสูงศาลศาสนา (Pengadilan อะกามา) ในการจัดการกับ[72]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อินโดนีเซียเป็นสาธารณรัฐที่มีระบบประธานาธิบดี ในฐานะที่เป็นรัฐรวมพลังมีความเข้มข้นในรัฐบาลกลาง หลังจากการลาออกของประธานาธิบดีซูฮาร์โตในปี 1998 อินโดนีเซียและการเมืองการปกครองโครงสร้างได้เกิดการปฏิรูปที่สำคัญ สี่การแก้ไข 1945 รัฐธรรมนูญของประเทศอินโดนีเซีย [64] มีการปรับปรุงใหม่ผู้บริหารตุลาการและสาขากฎหมาย. [65] ประธานาธิบดีของประเทศอินโดนีเซียเป็นหัวหน้าของรัฐและหัวหน้ารัฐบาลผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอินโดนีเซียกองทัพแห่งชาติ และผู้อำนวยการการกำกับดูแลในประเทศการกำหนดนโยบายและต่างประเทศ ประธานสภาแต่งตั้งของรัฐมนตรีที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติ 2004 เลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นครั้งแรกที่ผู้คนได้รับการเลือกตั้งประธานและรองประธานโดยตรง. [66] ประธานอาจใช้สูงสุดของสองคำห้าปีติดต่อกัน. [67] ตัวแทนที่สูงที่สุดในระดับชาติเป็นที่ปรึกษาของผู้คน สหประชาชาติ (MPR) ฟังก์ชั่นหลักของมันได้รับการสนับสนุนและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ inaugurating ประธานและมอบโครงร่างในวงกว้างของนโยบายของรัฐ . ก็มีอำนาจที่จะกล่าวหาประธานาธิบดี [68] MPR ประกอบด้วยสองบ้าน; . คนสภาผู้แทน (DPR) กับ 560 สมาชิกและผู้แทนภูมิภาคสภา (DPD) กับ 132 สมาชิก [69] DPR ผ่านการออกกฎหมายและตรวจสอบผู้บริหารสาขา; สมาชิกพรรคชิดได้รับการเลือกตั้งสำหรับคำห้าปีโดยสัดส่วนแทน. [65] การปฏิรูปตั้งแต่ปี 1998 ได้เพิ่มบทบาท DPR ที่โดดเด่นในการปกครองของชาติ. [70] DPD เป็นห้องใหม่สำหรับเรื่องของการจัดการในระดับภูมิภาค. [71] ส่วนใหญ่ ข้อพิพาททางแพ่งปรากฏก่อนที่ศาลรัฐ (Pengadilan เน); อุทธรณ์จะได้ยินก่อนที่ศาลสูง (Pengadilan อุดมศึกษา) ศาลฎีกา (Mahkamah Agung) เป็นศาลที่สูงที่สุดของประเทศและได้ยินอุทธรณ์เลิกสุดท้ายและดำเนินคิดเห็นกรณี ศาลอื่น ๆ รวมถึงศาลพาณิชย์ซึ่งจัดการการล้มละลายและการล้มละลาย; รัฐศาลปกครอง (ทาทา Pengadilan โทรศัพท์) จะได้ยินกรณีการบริหารกฎหมายต่อต้านรัฐบาล; ศาลรัฐธรรมนูญ (Mahkamah Konstitusi) จะได้ยินข้อพิพาทเกี่ยวกับการถูกต้องตามกฎหมายของกฎหมายการเลือกตั้งทั่วไปการสลายตัวของพรรคการเมืองและขอบเขตของอำนาจหน้าที่ของสถาบันของรัฐนั้น และศาลทางศาสนา (Pengadilan Agama) ที่จะจัดการกับการประมวลผลกรณีกฎหมายอิสลาม. [72]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีระบบประธานาธิบดี เป็นสถานะที่คงที่ พลังงานมีความเข้มข้นในรัฐบาลกลาง ต่อไปนี้การลาออกของประธานาธิบดีซูฮาร์โตเมื่อปี 2541 โครงสร้างการเมืองการปกครองของอินโดนีเซียได้รับการปฏิรูปหลัก สี่เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญของอินโดนีเซีย 1945 [ 64 ] ปรับปรุงใหม่ บริหาร ตุลาการ และสาขากฎหมาย[ 65 ] ประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย คือ ประมุขแห่งรัฐและศีรษะของรัฐบาล ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพแห่งชาติอินโดนีเซีย และกรรมการของกิจการในการกำหนดนโยบาย และกิจการต่างประเทศ ท่านประธานได้แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ที่ไม่ต้องมีการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติ .2004 เลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นครั้งแรกที่คนได้รับการเลือกตั้งโดยตรง ท่านประธานและรองประธาน [ 66 ] ประธานอาจให้บริการสูงสุดสองแง่ห้าปีติดต่อกัน . [ 67 ]

ตัวแทนร่างสูงสุดระดับประเทศ คือ สมัชชาประชาชน ปรึกษาหารือ ( MPR ) หน้าที่หลักของมันคือการสนับสนุน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ inaugurating ประธานาธิบดีformalizing กว้างและร่างนโยบายของรัฐ มันมีอำนาจที่จะกล่าวโทษประธานาธิบดี [ 68 ] MPR ประกอบด้วยสองบ้าน สภาผู้แทนประชาชน ( DPR ) , 560 สมาชิก และตัวแทนระดับภูมิภาคสภา ( DPD ) , 132 สมาชิก [ 69 ] DPR ผ่านการออกกฎหมายและตรวจสอบผู้บริหารสาขา ;สมาชิกถูกเลือกสำหรับเงื่อนไขพรรคชิดห้าปีโดยสัดส่วนแทน [ 65 ] การปฏิรูปตั้งแต่ปี 1998 มีเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนของ DPR บทบาทในการปกครองประเทศ . [ 70 ] DPD เป็นห้องใหม่ เรื่องของการจัดการในระดับภูมิภาค [ 71 ]

ส่วนใหญ่แพ่งข้อพิพาทปรากฏก่อนที่ศาลรัฐ ( pengadilan เนก ) ; ศาลอุทธรณ์คือ ได้ยินก่อนที่ศาลสูง ( pengadilan Tinggi )ศาลฎีกา ( mahkamah Agung ) เป็นศาลที่สูงที่สุดของประเทศ และสุดท้ายการดำเนินคดีอุทธรณ์ และเสียงวิจารณ์ ศาลอื่นๆ ได้แก่ ศาลพาณิชย์ ซึ่งจัดการกับการล้มละลายและการล้มละลาย ; รัฐศาลปกครอง ( pengadilan Tata Negara ) ได้ยินกฎหมายคดีกับรัฐบาลศาลรัฐธรรมนูญ ( mahkamah konstitusi ) ฟังข้อพิพาทเกี่ยวกับความถูกต้องของกฎหมาย การเลือกตั้งทั่วไป และการยุบเลิกพรรคการเมือง และขอบเขตของอำนาจของสถาบันของรัฐ และทางศาล ( pengadilan กามา ) เพื่อจัดการกับกรณี Sharia กฎหมายประมวลกฎหมาย [ 72 ]