Each AS has a backbone area that is

Each AS has a backbone area that is responsible for distributing routing information between non-backbone areas. OSPF requires the following:
The backbone area itself must maintain connectivity to all non-backbone areas.
In practice, due to physical limitations, the requirements may not be satisfied. In this case, configuring OSPF virtual links is a solution.
After network partition, ABRs perform route summarization to reduce the number of LSAs advertised to other areas and minimize the effect of topology changes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นแต่ละมีพื้นที่แกนหลักที่รับผิดชอบสำหรับการกระจายข้อมูลเส้นทางระหว่างพื้นที่ไม่ใช่แกนหลัก OSPF ต้องต่อไปนี้: ตั้งแกนหลักตัวเองต้องรักษาเชื่อมต่อกับพื้นที่ไม่ใช่แกนหลักทั้งหมดในทางปฏิบัติ เนื่องจากข้อจำกัดทางกายภาพ ความต้องอาจไม่ได้มีความสุข ในกรณีนี้ การตั้งค่าคอนฟิก OSPF เสมือนลิงค์คือ โซลูชันหลังจากเครือข่ายพาร์ทิชัน ABRs ทำสรุปกระบวนการผลิตเพื่อลดจำนวนของ LSAs โฆษณาไปยังพื้นที่อื่น ๆ และลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

AS แต่ละห้องมีพื้นที่กระดูกสันหลังที่เป็นผู้รับผิดชอบในการกระจายข้อมูลเส้นทางระหว่างพื้นที่ที่ไม่ใช่แกนนำ OSPF ต้องต่อไปนี้:
. พื้นที่กระดูกสันหลังตัวเองจะต้องมีการเชื่อมต่อกับทุกพื้นที่ที่ไม่ใช่แกนนำ
ในทางปฏิบัติเนื่องจากข้อ จำกัด ทางกายภาพความต้องการอาจจะไม่พอใจ ในกรณีนี้การกำหนดค่า OSPF เชื่อมโยงเสมือนเป็นวิธีการแก้.
หลังจากที่พาร์ทิชันเครือข่าย ABRS ดำเนินการสรุปเส้นทางที่จะไปลดจำนวนของ Lsas โฆษณาไปยังพื้นที่อื่น ๆ และลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่ละอย่างมีหลัก พื้นที่ที่รับผิดชอบในการกระจายข้อมูลของเส้นทางระหว่างไม่ใช่แกนหลักของพื้นที่ OSPF ต้องต่อไปนี้ :
บริเวณกระดูกสันหลังตัวเองจะต้องมีการเชื่อมต่อกับทุกพื้นที่กระดูกสันหลังไม่ .
ในทางปฏิบัติ เนื่องจากข้อ จำกัด ทางกายภาพ ความอาจจะไม่อิ่ม ในกรณีนี้ , การกำหนดค่า OSPF เสมือนการเชื่อมโยงเป็นโซลูชั่นที่ .
แบ่งตามเครือข่ายแสดงสรุป abrs เส้นทางเพื่อลดจำนวน lsas โฆษณาไปยังพื้นที่อื่น ๆ และลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง .