เนื้อร้องของเพลงนี้กล่าวถึง ผู้ต้อง

เนื้อร้องของเพลงนี้กล่าวถึง ผู้ต้องขังที่เพิ่งจะพ้นโทษออกมาจากเรือนจำ ซึ่งเขาได้จำคุกมาเป็นเวลา 3 ปี เขาไม่รู้ว่าหญิงคนรักจะยังปักใจกับเขาหรือไม่ ก่อนที่เขาจะออกจากคุกเขาได้เขียนจดหมายไปหาเธอว่า หากเธอยังคงรักฉันเช่นเดิม ขอให้นำริบบิ้นสีเหลืองมาผูกไว้รอบต้นโอ๊คของเรา แต่ถ้ารถบัสผ่านไปถึงที่นั่นแล้วไม่มีริบบิ้นสีเหลืองอยู่ ฉันจะอยู่บนรถและนั่งรถต่อไป และจะลืมเรื่องของเราไปซะ โดยไม่หวนกลับมาหาเธออีก ซึ่งเขาได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับผู้โดยสารบนรถฟัง และจนกระทั่งรถขับผ่านบริเวณต้นโอ๊คดังกล่าว ชายคนนี้ขอให้คนขับช่วยดูที่ต้นโอ๊คแทนเขา เพราะเขากลัวเหลือเกินว่าจะไม่เห็นริบบิ้นใดๆ แต่ตอนนั้น ผู้โดยสารทั้งคันรถก็โห่ร้องด้วยความดีใจ เพราะที่ต้นโอ๊คนั้นมีริบบิ้นสีเหลืองเป็นร้อยเส้นผูกไว้รอบต้นโอ๊ค ฉันได้เรียนรู้ว่า ในศตวรรษที่ 19 ริบบิ้นสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของการระลึกถึงหรือการรอทหารที่ไปรับใช้ชาติ ผู้หญิงหลายคนคาดริบบิ้นสีเหลืองบนเส้นผมเพื่อบอกว่าพวกเธอกำลังรอคนรัก ซึ่งไปรับใช้ชาติอยู่ในสมรภูมิ
ในยุค 1970 สัญลักษณ์ริบบิ้นสีเหลืองนี้ขยายออกไปนอกวงการทหาร มีความหมายถึงการจากไปของคนรัก ไม่ว่าจะไปรบในสงครามหรือติดคุก การติดริบบิ้นสีเหลืองหมายถึงใครคนนั้นยังรอคนที่จากไปอยู่ให้เขากลับมาอย่างปลอดภัย และเพื่อเป็นการแสดงความรักและความห่วงใยที่ยังมีให้ บางครั้งก็ผูกรอบต้นไม้หน้าบ้าน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เนื้อร้องของเพลงนี้กล่าวถึง ซึ่งเขาได้จำคุกมาเป็นเวลา 3 ปี หากเธอยังคงรักฉันเช่นเดิม ฉันจะอยู่บนรถและนั่งรถต่อไปและจะลืมเรื่องของเราไปซะโดยไม่หวนกลับมาหาเธออีก แต่ตอนนั้น ฉันได้เรียนรู้ว่าในศตวรรษที่ 19
1970 มีความหมายถึงการจากไปของคนรักไม่ว่าจะไปรบในสงครามหรือติดคุก บางครั้งก็ผูกรอบต้นไม้หน้าบ้าน